คุยกับเจ้าของ You&I ร้านสุกี้บุฟเฟต์ ที่ตั้งเป้าจะ IPO เข้าตลาดหุ้น

คุยกับเจ้าของ You&I ร้านสุกี้บุฟเฟต์ ที่ตั้งเป้าจะ IPO เข้าตลาดหุ้น

29 เม.ย. 2023
คุยกับเจ้าของ You&I ร้านสุกี้บุฟเฟต์ ที่ตั้งเป้าจะ IPO เข้าตลาดหุ้น | BrandCase
You&I คือร้านสุกี้บุฟเฟต์ ที่มีเมนูให้เลือกแบบหลากหลาย ตั้งแต่เนื้อวากิวแบบพรีเมียม หอยนางรมสดแบบไม่อั้น น้ำซุปและน้ำจิ้มแบบครบทุกรสชาติ ไปจนถึงขนมหวานแบบจัดเต็ม
จุดเด่นอีกเรื่อง คือการแยกหม้อเดี่ยวให้แต่ละคนทาน ไม่ต้องรวมหม้อกับคนอื่น
ล่าสุด ในงานเปิดตัวสาขาใหม่ แบบ Flagship Store ที่ศูนย์การค้า ICS (ตรงข้ามไอคอนสยาม)
เจ้าของ You&I ได้ประกาศตั้งเป้านำบริษัทและแบรนด์ You&I เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ให้ได้ภายในปี 2025
BrandCase จึงได้คุยกับ คุณแพม-ยุพิน ชัยวิกรัย ผู้ก่อตั้ง You&I
ถึงเรื่องกลยุทธ์ในการทำธุรกิจร้านสุกี้บุฟเฟต์ ในช่วงที่ผ่านมา ไปจนถึงแผนในอนาคตที่จะนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ mai ด้วย..
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน คุณแพมได้เริ่มต้นสายธุรกิจอาหาร ด้วยการเข้ามาสานต่อกิจการร้านอาหารจีนแบบสายพานของคุณพ่อ
โดยร้านนั้นชื่อว่า “Lau Sang Dong”
ในตอนนั้นกิจการก็เรียกได้ว่าประสบปัญหาอย่างหนัก จนต้องทยอยปิดกิจการลง จนเหลือเพียงสาขาสุดท้าย คือที่ ศูนย์การค้า MEGA บางนา
ด้วยความที่ต้องการแค่ให้พนักงานของเราอยู่ได้ คุณแพมจึงคิดและต่อยอดจากจุดเด่นเดิมที่มีอยู่คือ เรื่องของวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และเปลี่ยนจากร้านอาหารจีนที่มันไม่ตอบโจทย์ลูกค้า ให้เป็นร้านสุกี้พรีเมียมบุฟเฟต์
โดยใช้ชื่อร้านว่า “You&I Premium Suki Buffet”
ซึ่งที่มาของการตั้งชื่อร้าน You&I คุณแพมได้เล่าให้เราฟังว่า เพราะชื่อร้านเดิมอ่านยาก จึงอยากเปลี่ยนชื่อร้านเป็นชื่อที่คนทุกวัยรู้จัก และจดจำชื่อแบรนด์ได้
ซึ่งคำว่า YOU และ I หรือเธอกับฉัน ก็เป็นคำที่ทุกคนรู้จักและใช้กัน พูดง่าย เรียกง่าย จึงตั้งชื่อร้านว่า You&I นั่นเอง
นับตั้งแต่วันนั้น จนถึงปัจจุบัน You&I ก็ได้เติบโตเข้าสู่ปีที่ 8 กับสาขาที่มีมากขึ้นถึง 18 สาขา
พร้อมกับตั้งเป้าหมายในปี 2023 นี้ ด้วยรายได้ที่สูงขึ้น ที่ 550 ล้านบาท และรายได้ 1,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปี
และวางแผนการเติบโตนำ You&I เข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขยายธุรกิจไปในระดับโลกต่อไปอีก
เรามาดูกันว่า You&I มีกลยุทธ์อะไร ที่จะพาธุรกิจร้านสุกี้บุฟเฟต์ไปถึงขั้นนั้นได้
“อย่างแรกที่ You&I ให้ความสำคัญมาตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านคือ คุณภาพ และทุกวันนี้เราก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่”
เพราะคุณแพมมองว่า การที่จะทำธุรกิจอาหารให้ยั่งยืนและเติบโตได้นั้น เรื่องของคุณภาพเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
ซึ่งวัตถุดิบที่ทางร้านนำมาให้กับลูกค้า เป็นวัตถุดิบเกรดพรีเมียม นำเข้าจากต่างประเทศมากถึง 50%
อย่างน้ำซุปของ You&I ก็จะเป็นน้ำซุปทำเอง เคี่ยวเองตั้งแต่ต้น ไม่ได้ใช้ผงสำเร็จรูปในการทำน้ำซุป ทำให้ได้น้ำซุปที่มีความหอมและกลมกล่อมอยู่เสมอ
หรือแม้แต่ชุดจานชามที่แบรนด์ใช้ ยังต้องมีการออกแบบดิไซน์พิเศษจากญี่ปุ่น และสั่งผลิตที่ไต้หวัน เพื่อให้เหมาะกับการกินมากที่สุด และได้คุณภาพมากที่สุด
ดังนั้นจุดยืนของแบรนด์ จึงยังคงเป็นเรื่องของวัตถุดิบคุณภาพดี และพรีเมียมเหมือนเดิม
เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า และอยากกลับมากินซ้ำ
เรื่องต่อมา คือ “ความหลากหลาย”
อย่างเนื้อวัว ก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น เนื้อวากิว, เนื้อแองกัส ชัคโรล ชีส, ลิ้นวัว, เนื้อพรามชัคอายโรล ไปจนถึงเนื้อพรีเมียมวากิวชัคโรล
และอาหารทะเล เช่น ปลาบัตเตอร์ฟิช, ปลาไหล, หอยนางรม หอยเชลล์ญี่ปุ่น ไปจนถึงมันปูคานิมิโซะ
มีน้ำซุปให้ลูกค้าเลือกมากถึง 10 รสชาติ และน้ำจิ้มอีกหลายสูตร
นอกจากนี้ยังมีราคาให้เลือกหลายระดับ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 498 - 1,398 บาท
เพื่อให้ครอบคลุมกับความชอบและความต้องการของลูกค้าที่มากินที่ร้าน เรียกได้ว่าหลากหลายทั้งเมนู ไปจนถึงระดับราคา
อย่างที่สาม คือ “การปรับตัวอยู่ตลอดเวลา”
โดยแบรนด์จะมีการออกเมนูใหม่ ๆ ทุก 2-3 เดือนอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้ลองกินและสนุกไปกับเมนูใหม่ ๆ ในทุก ๆ ครั้งที่กลับมากินที่ร้าน
หรืออย่างเมื่อไม่นานมานี้ เมนูผัดงอแง จากหนังเรื่อง HUNGER คนหิว เกมกระหาย ที่หลายคนพูดถึงว่าอยากลองกิน ที่ร้าน You&I ก็มีให้ลูกค้าได้ลองกินแบบเร็วทันใจเหมือนกัน
และอย่างสุดท้าย คือ “การใส่ใจผู้บริโภค”
เพราะแบรนด์มีแนวคิดที่ว่า ให้ทุกคำคือรางวัลชีวิต ดังนั้นทุกการจ่ายเงินของลูกค้า ต้องเป็นเหมือนการได้รางวัลกลับไป
โดยถ้าหากมีการขึ้นราคา จะมีการเพิ่มเมนูพิเศษเข้ามาให้ลูกค้าด้วย เพราะคุณแพมมองว่า เราขึ้นราคาแล้วลูกค้าต้องได้อะไรที่มันมากกว่าเดิม
เช่น
You&I สาขา ภูเก็ต ที่มีราคาสูงกว่าสาขาอื่น ๆ แต่สาขานี้ก็จะมีความพิเศษตรงที่มีเมนูไอศกรีม Häagen-Dazs ไอศกรีมระดับพรีเมียม ที่มีราคาสูงถึงหลักร้อยบาท เสิร์ฟให้ลูกค้าแบบไม่อั้น
หรืออย่างเมื่อก่อนมีลูกค้า คอมเมนต์ว่าไอศกรีมกับขนมไม่ค่อยอร่อย ทาง You&I ก็ได้ร่วมมือกับ Minimelts แบรนด์ไอศกรีมจากประเทศเกาหลีใต้
และจับมือกับ เนสท์เล่ (Nestle) ออกแบบเมนูขนมหวานใหม่ เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยถูกใจลูกค้ามากขึ้น
แล้ว You&I มีกลยุทธ์หรือหมัดเด็ดอะไร ? ในการเลือกทำเลของแต่ละสาขา
ด้วยความที่เป็นแบรนด์สุกี้บุฟเฟต์พรีเมียม การเลือกทำเลในแต่ละสาขาก็เป็นสิ่งสำคัญ
อย่างแรกที่แบรนด์มองหาเลยคือ “ปริมาณของผู้คน” ในแต่ละพื้นที่ว่ามีมากน้อยแค่ไหน
โดยจะเลือกห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าชั้นนำเป็นหลัก เนื่องจากมีปริมาณคนเดินเยอะ
เช่น สาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์ สยามเซ็นเตอร์ และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
หรือแม้แต่สาขาต่างจังหวัดอย่าง ระยอง ก็จะเลือก ศูนย์การค้าแพชชั่น ที่อยู่ใจกลางเมืองและคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ชอบไป
นอกจากนี้ต้องมีการวางแผนให้แต่ละสาขาไม่อยู่ใกล้กันมากเกินไป
เช่น ในเขตกรุงเทพมหานคร ก็จะไม่เปิดสาขาใกล้กันในรัศมี 5-10 กิโลเมตร
เรื่องต่อมาที่แบรนด์ต้องมองก่อนขยายสาขาคือ “กำลังซื้อและพฤติกรรมของผู้บริโภค”
อย่างก่อนหน้านี้เมื่อปลายปีที่แล้ว แบรนด์ You&I ได้ไปเปิดสาขาที่ภูเก็ต
ซึ่งสาขานี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสาขาอื่น เนื่องจากมีค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นมา
แต่เนื่องจากว่านักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวภูเก็ต ส่วนใหญ่แล้วเป็นฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อมากพอ การขยายสาขาไปที่ภูเก็ตจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
แล้วแผนต่อไปในอนาคตของ You&I จะทำอะไรเพิ่มอีกบ้าง ?
คุณแพม เล่าให้เราฟังว่าแผนต่อไปของ You&I คือ
-ขยายสาขาอย่างน้อย 15 สาขา ภายในปี 2025 ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด
โดยสาขาล่าสุดที่ ศูนย์การค้า ICS จะเป็นสาขาใหม่ที่เป็น Flagship Store ขนาดพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทาง You&I เคยเปิดมา
รวมไปถึงบริการห้องส่วนตัว Private room ที่สามารถจุคนได้ถึง 16 คน รวม 2 ห้อง
และเมนูขนมหวานพรีเมียมที่พิเศษและแตกต่างไปจากสาขาอื่น ๆ ซึ่งใช้งบลงทุนไปราว ๆ 15-20 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายสาขาไปที่จังหวัดระยอง และไปที่จังหวัดอื่น ๆ ในอนาคต
เช่น พัทยา เชียงใหม่ ขอนแก่น และอุดรธานี เป็นต้น
โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนทั้งหมดประมาณ 150 ล้านบาท
-เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ๆ
โดยในปีนี้มีการเปิดแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ คือ
1.ลายเส้น ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพรีเมียม ที่จะเสิร์ฟพร้อมเนื้อวากิว
2.Dr.Sandwich ร้านแซนด์วิช ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาตั้งแต่ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด
นอกจากนี้ คุณแพมยังได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า You&I ตั้งใจจะขยายฐานลูกค้าให้กว้างและครอบคลุมมากขึ้น
จึงได้เตรียมเปิดแบรนด์ใหม่เพิ่มอีกในอนาคต ซึ่งจะมาในหลากหลายคอนเซปต์
เช่น
-ร้านปิ้งย่างสไตล์ใหม่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ในรูปแบบสแตนอะโลน เสิร์ฟด้วยเมนูเนื้อวากิว เกรดพรีเมียม แต่ขายในราคาที่จับต้องได้ คืออยู่ประมาณ 400-500 บาท
-ร้านชาบู จับตลาดกลุ่ม Mass มากขึ้น ขายราคาประมาณ 300-400 บาท
-รวมถึงการขยายไปสู่ธุรกิจค้าปลีก แตกไลน์สินค้าออกมาเป็นน้ำจิ้มและน้ำซุปของ You&I เพื่อวางขายตามโมเดิร์นเทรด
-นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนมาขยายธุรกิจ และขยายสาขาทั้งในประเทศและนอกประเทศ เพื่อพาแบรนด์สุกี้บุฟเฟต์พรีเมียมไปสู่ระดับ Global
โดยมองไปที่โซนอินโดจีนก่อนเป็นอันดับแรก และจะบุกตลาดต่างประเทศด้วยกลยุทธ์การจับมือกับพาร์ตเนอร์ในแต่ละท้องถิ่น
รวมถึงการขายมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับบริษัทในต่างประเทศ เพื่อขยายสาขาด้วย
ปัจจุบันผลประกอบการของบริษัท ยู แอนด์ ไอ กรุ๊ป จำกัด
ปี 2021 มีรายได้ 233 ล้านบาท
และบริษัทเปิดเผยว่า ในปี 2022 ที่ผ่านมา มีรายได้เกือบ 400 ล้านบาท
พร้อมกับตั้งเป้าปี 2023 จะมีรายได้ 550 ล้านบาท และมีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปี
จากกิจการร้านอาหารจีนที่เหลือเพียงแค่สาขาเดียว และเกือบเอาตัวไม่รอด
ได้กลายมาเป็นร้านสุกี้บุฟเฟต์พรีเมียมที่เติบโต และสามารถขยายธุรกิจได้ดี จนเตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์
และทั้งหมดนี้ คือกลยุทธ์ และแผนธุรกิจทั้งหมด ที่จะทำให้แบรนด์ You&I ร้านสุกี้บุฟเฟต์พรีเมียม ก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้น ภายในปี 2025 นั่นเอง..
References
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณยุพิน ชัยวิกรัย ผู้ก่อตั้งร้าน YOU&I
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.