นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “เรา”) ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และความเป็นส่วนตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง อันเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นรากฐานในการสร้างความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงยึดมั่นและให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ทางการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

นโยบายฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแจ้ง และชี้แจงรายละเอียดในการ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทฯ อันเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎเกณฑ์ทางการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

  • คู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในฐานะบุคคลธรรมดา หรือ ผู้แทนของนิติบุคคล
  • บุคคลต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วม หรือปรากฏในสื่อที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดทำ และ/หรือ เผยแพร่
  • พนักงาน หรือลูกจ้างของบริษัท ผู้สมัครที่มีความประสงค์จะเข้าทำงานกับบริษัท รวมถึงครอบครัว บุคคลอ้างอิง และผู้ติดต่อฉุกเฉินของพนักงานหรือผู้สมัครงานด้วย

1. การเก็บข้อมูล

ข้อมูลที่คุณให้เรา

โดยทั่วไป เรามักเก็บข้อมูลที่คุณให้กับเราโดยตรง อันอาจประกอบไปด้วย

ประเภทของข้อมูลตัวอย่าง
ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวชื่อ-นามสกุล, วัน/เดือน/ปีเกิด, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, เพศ, อายุ, สัญชาติ, รูปถ่าย, ลายมือชื่อ, สถานภาพสมรส และคู่สมรส
ข้อมูลการติดต่อที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, LINE ID, หรือ บัญชี Social media ต่าง ๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม และข้อมูลทางการเงินหมายเลขบัญชีธนาคาร, หมายเลขบัตรเครดิต
ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำสื่อภาพถ่าย, ภาพเคลื่อนไหว, บันทึกเสียง, บทหรือเนื้อหาการสัมภาษณ์
ข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน, สถานภาพสมรส, สถานะทางทหาร, ใบอนุญาตต่าง ๆ, ข้อมูลเกี่ยวกับสวัสดิการและผลประโยชน์ต่าง ๆ, ข้อมูลการปฏิบัติงานและข้อมูลทางวินัย, ข้อมูลบุคคลที่สาม (ครอบครัว, ผู้ค้ำประกัน, บุคคลอ้างอิง, บุคคลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน), ข้อมูลประกันสังคม
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวศาสนา, ข้อมูลสุขภาพ (เช่น หมู่เลือด, ประวัติสุขภาพ เป็นต้น), ข้อมูลพันธุกรรมหรือข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ เป็นต้น)

หากคุณปฏิเสธในการให้ข้อมูลที่จำเป็นในการจัดทำสัญญา หรือดำเนินการตามสัญญากับคุณ หรือข้อมูลที่จำเป็นที่บริษัทมีหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เราอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการทำสัญญา หรือการดำเนินการตามสัญญา หรืออาจยุติความสัมพันธ์ใด ๆ ที่มีอยู่กับคุณ

2. วัตถุประสงค์ในการใช้งานข้อมูล

จากข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับข้างต้น เรามีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์รายละเอียด
การทำสัญญา การปฏิบัติตามสัญญา หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ
  • เพื่อประกอบการเข้าทำสัญญา และปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
  • เพื่อประกอบการชำระเงิน หรือการทำธุรกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจกับคุณในฐานะผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้าง หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าวที่เป็นนิติบุคคล
การดำเนินการตามกฎหมาย
  • เพื่อให้การดำเนินการของบริษัท สอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับบริษัท เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, กฎหมายภาษีอากร, กฎหมายแรงงาน, กฎหมายประกันสังคม, กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง, รวมถึงคำสั่งศาล หรือหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐ
  • เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ภายใต้การสืบสวนสอบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแล
การจัดทำและเพื่อแพร่สื่อสารสนเทศ
  • เพื่อนำภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับท่านไปใช้ประกอบการผลิตวิดีโอ โพสต์ บทความ หรือสื่อประเภทอื่น ๆ
  • เพื่อเผยแพร่สื่อดังกล่าวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือทางช่องทางอื่น ๆ
ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือบุคคลอื่น
  • เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและขยายธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ โดยอยู่ภายใต้กระบวนการที่ทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลได้ (Anonymization) และอยู่ภายใต้มาตรฐานการรักษาปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม
  • เพื่อตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดหรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย
  • เพื่อปกป้องการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของบริษัท บุคคลากร และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น
  • เพื่อการสอบสวนหรือตรวจสอบภายในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านความปลอดภัย ด้านการปฏิบัติงาน เป็นต้น
  • เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัท รวมถึงเยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • เพื่อติดต่อสื่อสารทางธุรกิจกับผู้แทน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัท
  • เพื่อการติดต่อสื่อสารกับผู้ที่มีความสัมพันธ์ หรือเกี่ยวข้องกับพนักงานของบริษัทในกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน หรือสอบถามข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน

3. การเปิดเผยข้อมูล

เราเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในสถานการณ์ต่อไปนี้

  • เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับผู้ให้บริการ และที่ปรึกษาที่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บริการกับเรา เช่น บริษัทที่ให้ความช่วยเหลือด้านเว็บโฮสติ้ง การเก็บข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ การวิเคราะห์ การดำเนินการชำระเงิน การป้องกันฉ้อโกงและความปลอดภัย การให้บริการลูกค้า การติดต่อสื่อสาร และการให้บริการทางการตลาด
  • เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหากเราเชื่อว่าการเปิดเผยนั้นเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เช่น การเปิดเผย หรือส่งข้อมูลตามการร้องขอของศาล หรือหน่วยงานราชการที่มีอำนาจตามกฎหมาย หากเราจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกระบวนการทางกฎหมาย เราจะแจ้งให้คุณทราบ ยกเว้นเราโดนบังคับด้วยกฎหมายหรือเราเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้อื่นเป็นอันตรายหรือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวและคัดค้านการร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานของ Blockdit ที่เราเชื่อว่าไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หรือไม่เหมาะสม
  • เราแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลกับทนายและที่ปรึกษามืออาชีพ เมื่อเราต้องการได้รับคำแนะนำหรือเพื่อปกป้องและจัดการความสนใจทางธุรกิจของเรา
  • เราแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลในกระบวนการควบรวม การขายสินทรัพย์ของบริษัท การจัดหาเงิน หรือการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนของธุรกิจของเราโดยบริษัทอื่น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกแบ่งปันระหว่างกับบริษัทในเครือของเราทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงบริษัทอื่น ๆ ภายใต้การควบคุมหรือการเป็นเจ้าของร่วมกัน
  • เราแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความยินยอมของคุณหรือตามที่คุณต้องการ
  • เราแบ่งปันข้อมูลรวม สถิติ หรือข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนซึ่งไม่สามารถใช้ระบุตัวคุณได้

4. การจัดการข้อมูล และระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

บริษัทฯ มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เช่น การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัท มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับและมีความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด

เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ จนกระทั่งข้อมูลนั้น ๆ ไม่จำเป็นสำหรับการให้บริการ หรือเพื่อการใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 2 ข้างต้นอีกต่อไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะ คุณสมบัติ หรือข้อจำกัดทางเทคนิคของข้อมูลแต่ละชนิด วัตถุประสงค์ของการเก็บและการนำไปใช้ของข้อมูล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือความจำเป็นในการเก็บรักษา เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการสัญญาและการทำธุรกรรมระหว่างกัน อาจถูกจัดเก็บไว้อย่างน้อย 10 ปี เป็นต้น

5. สิทธิของคุณเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

คุณมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณดังต่อไปนี้ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เว้นแต่เราจะมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของคุณโดยชอบด้วยกฎหมาย

  • สิทธิในการถอนความยินยอม - คุณมีสิทธิในการถอนความยินยอมที่เคยให้ไว้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณเคยให้ความยินยอมไปแล้ว
  • สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล - คุณมีสิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่เราได้เก็บรักษาไว้
  • สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล – คุณมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก
  • สิทธิคัดค้าน - คุณมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่เราดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
  • สิทธิในการขอให้ลบ - คุณมีสิทธิในการขอให้เราลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ ในกรณีที่หมดความจำเป็น หรือไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
  • สิทธิในการขอให้ระงับ - คุณมีสิทธิในการขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง หรืออยู่ในระหว่างที่เราพิจารณาคำขอในการใช้สิทธิคัดค้านของคุณ หรือในกรณีที่คุณขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลาย
  • สิทธิในการขอแก้ไข - คุณมีสิทธิในการขอให้เราดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • สิทธิในการร้องเรียน - คุณมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากเราไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีที่คุณต้องการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ คุณสามารถติดต่อเราตามช่องทางของเราที่ระบุไว้ด้านล่างของนโยบายฉบับนี้ โดยหลังจากยืนยันตัวตนของคุณแล้ว เราจะตอบกลับคำขอดังกล่าวภายในระยะเวลาที่เหมาะสมและเป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่มีผลใช้บังคับ เราอาจไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของคุณได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

  • การเปิดเผยข้อมูลนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน สิทธิ หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ของคุณหรือบุคคลอื่น
  • การเปิดเผยข้อมูลนั้นมีแนวโน้มที่จะขัดต่อการดำเนินธุรกิจตามปกติของเรา
  • การเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นการละเมิดกฎหมายและข้อบังคับอื่น ๆ
  • เมื่อคุณไม่สามารถยืนยันตัวตนตามคำขอให้เปิดเผยข้อมูลของคุณ หรือ
  • เราได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิเสธคำขอของคุณ

บางกรณี คุณอาจเสียค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิ์ของคุณตามขั้นตอนและนโยบายอื่น ๆ ของเรา เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอื่น

6. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้

เราอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ในอนาคต ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสม และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินงานของเรา หรือเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไป

7. ติดต่อเรา

หากมีข้อสงสัย หรือต้องการใช้สิทธิใด ๆ ตามกฎหมาย หรือตามนโยบายนี้ โปรดติดต่อ

สำนักงาน: บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน)
518/5 อาคารมณียาเซ็นเตอร์ ชั้น 7 ถนนเพลินจิต
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.