คุยกับเจ้าของ ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด วิธีจัดการธุรกิจ ของแบรนด์ที่มี แฟรนไชส์ 2,000 กว่าสาขา

คุยกับเจ้าของ ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด วิธีจัดการธุรกิจ ของแบรนด์ที่มี แฟรนไชส์ 2,000 กว่าสาขา

21 มิ.ย. 2025
- ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด น่าจะเป็นชื่อที่หลายคนคงเคยเห็นหรือคุ้น ๆ กัน นี่คือร้านลูกชิ้นทอดที่เจอได้ทั่วประเทศไทย ด้วยโมเดลแฟรนไชส์ที่ตอนนี้มีอยู่กว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ
BrandCase มีโอกาสได้คุยกับเจ้าของแบรนด์ ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด คุณมอส-สารัช วัฒนกูล 
ถึงเรื่องราวและแนวคิดการสร้างแบรนด์ จนกลายเป็นแบรนด์ร้านลูกชิ้นทอดที่มีแฟรนไชส์กว่า 2,000 สาขา ทั่วไทย..
โดยคุณมอส ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ว่า มาจากแนวคิดของคุณพ่อ คือ คุณอนพ วัฒนกูล ที่เคยทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายการตลาดเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว 
สมัยนั้นคุณพ่ออนพ ได้เดินทางไปต่างจังหวัดและเห็นสินค้าหลายอย่างในตลาดที่ขายดีมากแต่ไม่มีการทำแบรนด์
ท่านจึงมีความสนใจที่จะนำสินค้าเหล่านี้มาพัฒนาเป็นแบรนด์และขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ 
ในตอนแรก คุณพ่อตั้งใจที่จะขายกล้วยทอด โดยได้ไปขอเรียนสูตรจากร้านกล้วยทอดร้านหนึ่งที่ขายดี 
ใช้เวลาตื๊ออยู่นานจนกว่าเขาจะยอมสอน และใช้เวลาเรียนวิชากล้วยทอดอยู่นานนับเดือน
แต่ระหว่างที่เรียนอยู่นั้น ก็มีร้านลูกชิ้นที่อยู่ข้าง ๆ ร้านกล้วยทอดซึ่งขายดีไม่แพ้กัน 
กลายเป็นว่า คุณพ่อตัดสินใจเปลี่ยนมาขายลูกชิ้นทอดแทน..
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้หันมาขายลูกชิ้นทอด คือเพราะมองว่าลูกชิ้นทอดเป็นสินค้าที่จัดการได้ง่ายกว่า แต่ขายดีเหมือนกัน
ซึ่งข้อแตกต่างระหว่าง กล้วยทอดกับลูกชิ้นทอด คือกล้วยทอดเป็นสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นสินค้าสด มีโอกาสช้ำ เสีย หรือขาดตลาดได้ง่าย
ขณะที่ลูกชิ้นสามารถผลิตและเก็บรักษาได้นานหลายสัปดาห์ 
จากนั้นจึงได้พัฒนาสูตรลูกชิ้นทอด ที่เวลาทอดแล้วจะระเบิดออก จึงเป็นที่มาของชื่อ “ลูกชิ้นปลาระเบิด”
คุณมอสเล่าว่า ในช่วงเริ่มต้น คุณพ่อยังคงทำงานประจำอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะเริ่มต้นทำแฟรนไชส์อย่างจริงจัง คุณพ่อได้ลาออกจากงาน
และนำเงินที่ได้จากการลาออก ซื้อรถเข็น 20 คัน แจกคนที่มาซื้อแฟรนไชส์
ตอนนั้นคิดว่า ทางหนึ่งเพื่อช่วยเหลือผู้ที่สนใจอยากมีอาชีพ โดยค่าใช้จ่ายสำหรับรถเข็นสมัยนั้น
อยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 บาทต่อคัน
คุณมอสเล่าเหตุผลที่คุณพ่อเลือกโมเดลแฟรนไชส์ในการขยายธุรกิจ เพราะมองว่าหากขายแค่ร้านเดียว รายได้ก็จะมาจากทางเดียว
แต่ถ้าทำแฟรนไชส์แล้วทุกคนเติบโตไปด้วยกัน จะเป็นโอกาสธุรกิจที่ดีกว่า Win-Win กันทุกฝ่าย
โดยแฟรนไชส์ของ ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด มีหลายระดับราคา เช่น เคาน์เตอร์ตลาดนัดพกพา ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 10,990 บาท 
ซึ่งจะได้ของแถมมากกว่า 40 รายการ เช่น เคาน์เตอร์สเตนเลสพับได้, ป้ายตกแต่งร้านแบบครบชุด, เตาไฟฟ้า, หัวเตาแก๊ส, หัววาล์วพร้อมสายครบชุด
รวมถึงได้วัตถุดิบ 17 รายการ เช่น ลูกชิ้นปลาระเบิดรักบี้ ปลาแผ่นกรอบ ที่นำไปขายได้เป็นเงินกว่า 5,600 บาท
โดยลักษณะโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ของ ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด คือทางแบรนด์จะเป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบให้ผู้ที่มาซื้อแฟรนไชส์
คุณมอสเล่าวิธีบริหารจัดการแฟรนไชส์ เพื่อให้ทุกสาขามีมาตรฐานและคุณภาพที่คงที่
คือทางแบรนด์จะมีมาตรการรักษามาตรฐานแฟรนไชส์ด้วยการตรวจสอบการสั่งซื้อ
และการใช้วัตถุดิบให้ตรงตามสูตร โดยมีทีม QC คอยตรวจสอบร้านทุกวัน พร้อมทีมช่วยให้คำแนะนำในการพัฒนาร้านให้ทันสมัย 
รวมถึงมีบริการการเปลี่ยนป้ายฟรีทุก 2 ปี 
มีคู่มือ SOP หรือคู่มือขั้นตอนการปฏิบัติงานประกอบการขาย เช่น ขั้นตอนและวิธีการทอด 
รวมถึงการสอนเปิดร้าน แบบตัวต่อตัว สำหรับผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์
โดยทางแบรนด์ยังร่วมมือกับ KTC เพื่อให้ลูกค้าแฟรนไชส์ สามารถใช้รถเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อเพื่อขยายธุรกิจ
จุดเด่นของ ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด คุณมอส อธิบายว่า “กรอบนอก นุ่มใน ไม่เหนียว ไม่เหี่ยว ไม่คาว” ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ทางแบรนด์ได้พัฒนาขึ้นมา 
ส่วนในมุมการทำแบรนดิงและการตลาด ก็มีการทำอย่างต่อเนื่อง
ในสมัยก่อนเน้น การออกนิตยสาร การขึ้นหน้าปกหนังสือพิมพ์ และการออกอิเวนต์ต่าง ๆ
แต่ในปัจจุบันก็มาเน้นการทำการตลาดออนไลน์ในทุก Social Media Platform ทั้ง Facebook, IG, Tiktok รวมถึง Search Engine อย่าง Google
และแน่นอนว่าทุกธุรกิจมักจะต้องเจอกับอุปสรรคอยู่เสมอ 
ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิดก็เช่นกัน
คุณมอส เล่าถึงอุปสรรคและความท้าทายในช่วงสำคัญให้ฟังว่า 
ช่วงน้ำท่วมปี 2554 แม้สถานการณ์จะยากลำบาก แต่ลูกค้าก็ยังต้องการสินค้าจากเรา 
บริษัทจึงต้องหาวิธีขนย้ายลูกชิ้นจากคลัง โดยใส่เรือแล้วขนย้ายออกมา และนำไปเก็บในที่ที่ยังสามารถขนส่งต่อได้ 
เช่น เช่าพื้นที่และส่งสินค้าผ่านรถทัวร์ที่ยังวิ่งได้ซึ่งเป็นการจัดการในสมัยนั้นที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็สามารถผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
หรือในช่วงล็อกดาวน์ การขายในห้างหลายที่หยุดชะงัก ก็ปรับตัวโดยมุ่งเน้นไปที่การขายออนไลน์และดิลิเวอรี มากขึ้น
และตอนนั้นก็แก้เกมโดยการย้ายพนักงานและร้านในห้าง ที่เป็นสาขาของตัวเอง ไปเปิดที่ปั๊มน้ำมันแทน
ปัจจุบันบริษัทมีสาขาแฟรนไชส์กว่า 2,000 สาขา ทั่วประเทศ 
โดย 45% อยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 
และสาขาหลัก ๆ จะกระจายอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่มีกว่า 400 สาขา โลเคชันที่ขายดีอื่น ๆ ก็อย่างเช่น ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และบริเวณใกล้ร้านสะดวกซื้อ
นอกจากลูกชิ้นปลาระเบิดที่เป็นสินค้าหลักแล้ว ทางแบรนด์ก็มีสินค้าอื่นอีกกว่า 10 รายการ
เช่น ลูกชิ้นกุ้งระเบิด, ไส้กรอกแดง, ปลาเส้น, ขนมถุงคางกุ้งกรอบ
รวมถึงสินค้าพรีเมียมที่ส่งออกไปขายที่ญี่ปุ่นอย่างลูกชิ้นปลาหมึกระเบิด และฮ่อยจ๊อปูจากเยาวราช
โดยช่องทางขายหลักคือสาขาแฟรนไชส์ แต่ยังเสริมด้วยการขายออนไลน์ผ่าน Shopee 
และแพลตฟอร์มดิลิเวอรี รวมถึงการจัดจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต
แล้วอะไรคือข้อคิดที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจอาหารให้ประสบความสำเร็จแบบไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด  ?
คุณมอสได้แชร์ 3 ข้อคิดจากคุณพ่อที่ช่วยให้ทำธุรกิจประสบความสำเร็จอีกด้วย คือ 
- คิดแล้วต้องลองลงมือทำ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร การลงมือทำย่อมดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย
- ทำแล้วต้องทำให้สำเร็จ ต้องอดทนและมุ่งมั่นจนกว่าจะประสบความสำเร็จหรือได้บทเรียน
- สำเร็จแล้วต้องพัฒนาต่อเนื่อง พัฒนาแบรนด์และสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับระบบให้ทันสมัย
โดยคุณมอสบอกว่า แต่ละข้อก็จะสำคัญมากน้อย แตกต่างกันไป ตาม Stage ของธุรกิจ 
อย่างเช่นช่วงที่คุณมอส เข้ามาบริหาร หน้าที่หลักจะหนักไปทางการพัฒนาต่อเนื่อง เพราะคุณพ่อได้สร้างรากฐานไว้แล้ว
แต่เมื่อมีการสร้างของใหม่ อย่างเช่นแบรนด์ใหม่ในเครือ หรือสินค้าใหม่ ก็ต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของการ คิดแล้วต้องลงมือทำ
คุณมอสยังให้มุมมองสำหรับการเริ่มธุรกิจอาหารในยุคนี้ คือ 
- เริ่มต้นจากการสร้างร้านแรกให้มั่นคง อย่าเพิ่งรีบขายแฟรนไชส์ทันที 
เช่น ลองเปิดร้านของตัวเอง สัก 2-3 สาขาก่อน เพื่อเรียนรู้ปัญหาจุกจิกต่าง ๆ ที่อาจตามมา และดูว่ากระแสเงินสดหมุนเวียนได้ดีหรือไม่
- บริหารจัดการกระแสเงินสด หรือ Cash Flow ให้ดี บางร้านที่ขายดี อาจจะเจ๊งได้ ถ้าบริหารจัดการเรื่องการหมุนเวียนเงินไม่ดี
- พยายามดูแลชื่อเสียงของแบรนด์ให้ดีที่สุด อย่าทำอะไรผิดพลาดหรือไม่ดีต่อลูกค้า เพราะในปัจจุบันกระแสโซเชียลมีเดียเปลี่ยนแปลงไปมาก 
การทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้เสียชื่อเสียงและธุรกิจจบลงได้ง่าย ๆ 
- หาวิธีสร้างความง่าย และความเป็นขั้นเป็นตอนในการดำเนินธุรกิจ 
เช่นถ้าจากเคสของ ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด คือมองว่าอยากทำให้คนที่ได้แฟรนไชส์ไป “ทอดไข่ดาวได้ก็ขายลูกชิ้นได้” 
เพราะขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อน เพียงแค่ฉีกซอง ทอดตามแพตเทิร์น ราดน้ำจิ้มก็สามารถขายได้แล้ว..
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.