กรณีศึกษา บ้านปู กำลังลดโฟกัส ธุรกิจถ่านหิน เหลือแค่ 51% ของรายได้บริษัท

กรณีศึกษา บ้านปู กำลังลดโฟกัส ธุรกิจถ่านหิน เหลือแค่ 51% ของรายได้บริษัท | BrandCase

พูดถึงบริษัทชื่อ บ้านปู หลายคนจะรู้ว่าหลัก ๆ แล้ว บริษัทนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับ ถ่านหิน
โดยบ้านปู คือผู้ผลิตและจําหน่ายถ่านหินรายใหญ่ของประเทศไทย

แต่รู้ไหมว่า วันนี้ธุรกิจถ่านหินของบ้านปู มีบทบาทน้อยลง และมีสัดส่วนรายได้ในส่วนธุรกิจถ่านหินที่ลดลงเรื่อย ๆ

คำถามคือ แล้วบ้านปู ปรับตัวอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของบ้านปู เกิดขึ้นในปี 2526 โดยตระกูลว่องกุศลกิจและตระกูลเอื้ออภิญญกุล โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท เหมืองบ้านปู จำกัด”

บริษัทดังกล่าว มีเป้าหมายเข้าทำสัญญาเช่า ช่วงการทำเหมืองถ่านหินที่เหมืองบ้านปู อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
โดยทำสัญญากับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

ปี 2532 บ้านปูเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลังจากนั้นมา บริษัทมีการขยายการทำเหมืองถ่านหินอย่างต่อเนื่อง

จนกลายมาเป็นผู้ผลิตและจําหน่ายถ่านหินเอกชนรายใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย

โดยมีเหมืองผลิตถ่านหินในประเทศไทย และอินโดนีเซีย รวมถึงจีนและออสเตรเลียในเวลาต่อมา

จากธุรกิจถ่านหิน บ้านปูนั้นก็ค่อย ๆ มีการต่อยอดมายังธุรกิจโรงไฟฟ้า ทั้งในไทยและในต่างประเทศ

กิจการของบ้านปูเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ถ้าใครยังจำกันได้ ครั้งหนึ่งมูลค่าบริษัทของบ้านปู เคยขึ้นไปสูงกว่า 250,000 ล้านบาท ในช่วงปลายปี 2553

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในความท้าทายของธุรกิจบ้านปูที่ผ่านคือ ความกังวลเรื่องของสิ่งแวดล้อม

โดยธุรกิจถ่านหินนั้น เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ถูกมองว่า เป็นหนึ่งสาเหตุของวิกฤติมลพิษของโลกที่เกิดขึ้น
และเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ และมูลค่ากิจการของบ้านปู อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พอเรื่องเป็นแบบนี้ Banpu จึงมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ
จากในอดีตที่เคยเน้นโฟกัสการลงทุนในธุรกิจถ่านหิน ก็ค่อย ๆ มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง

และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น เช่น

ธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
โดยมีการไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ปัจจุบันมีฐานการผลิตอยู่ที่จีน ญี่ปุ่น และเวียดนามธุรกิจระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา และทุ่นลอยน้ำ
โดยให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ปัจจุบันมีการให้บริการในไทยและสิงคโปร์ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน
โดยเป็นการทำระบบจัดเก็บพลังงานและระบบไฟฟ้าสำรอง รวมถึงแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าธุรกิจเมืองอัจฉริยะ
ให้บริการเชื่อมโยงเทคโนโลยีการจัดการด้านพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน กับเครือข่ายด้านการ
บริหารจัดการเมืองและผังเมืองธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า
โดยการออกแบบและผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับรูปแบบการใช้พลังงานสะอาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตธุรกิจซื้อขายพลังงาน
ธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าผ่านโครงข่ายระบบดิจิทัล ปัจจุบันมีการลงทุนในญี่ปุ่น

ลองมาดูสัดส่วนรายได้ของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ในช่วงที่ผ่านมา

ปี 2562

ธุรกิจถ่านหิน 86.0%ธุรกิจก๊าซ 3.8%ธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ 6.6%ธุรกิจอื่น ๆ 3.6%

ปัจจุบัน (9 เดือนแรกของปี 2566)

ธุรกิจถ่านหิน 51.0%ธุรกิจก๊าซ 12.3%ธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ 31.9%ธุรกิจอื่น ๆ 4.8%

เราจะเห็นว่า สัดส่วนรายได้ของถ่านหินที่เคยเป็นรายได้หลักนั้น กำลังลดลงเรื่อย ๆ ในขณะที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นกำลังมากขึ้น

ผลประกอบการของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้ 137,734 ล้านบาท กำไร 10,476 ล้านบาท

ต้องบอกว่ามาวันนี้ ภาพของบ้านปู เปลี่ยนไปจากอดีตพอสมควร จากบริบทของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป

จากที่เคยมีรายได้หลักกว่า 80% มาจากธุรกิจเกี่ยวกับถ่านหิน

วันนี้สัดส่วนนั้นลดลงมา เหลือแค่ 51% ของรายได้บริษัทแล้ว..

References
-https://th.wikipedia.org/wiki/บ้านปู
-https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/BANPU/financial-statement/company-highlights
-https://companiesmarketcap.com/banpu-public-company/marketcap/