โมเดลธุรกิจ “นอร์ทอีส รับเบอร์” ธุรกิจยางพารา 7,000 ล้าน ในภาคอีสาน

โมเดลธุรกิจ “นอร์ทอีส รับเบอร์” ธุรกิจยางพารา 7,000 ล้าน ในภาคอีสาน

25 พ.ย. 2025
- รู้ไหมว่าในภาคอีสานมีบริษัทในตลาดหุ้น ที่มีมูลค่าหลักพันล้านบาท ซึ่งบริษัทนี้ก็ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีการส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ ของไทย 
บริษัทนี้ก็คือ บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ที่ทำธุรกิจ ยางพารา ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 
มีรายได้ต่อปี หลักหมื่นล้านบาท
โมเดลธุรกิจของ NER เป็นอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ 
จุดเริ่มต้นของ NER นั้นเริ่มต้นจากคุณชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ และครอบครัว ที่แต่เดิมทำธุรกิจ ปลูกอ้อย ปลูกมัน มาตั้งแต่รุ่นพ่อ 
จนพอมาถึงรุ่นคุณชูวิทย์ ที่เริ่มต้นบุกเบิกการปลูกยางพาราในปี 2527 
โดยช่วงแรก เริ่มต้นปลูกประมาณ 5-10 ไร่ ซึ่งต่อมาชาวบ้านบริเวณนั้น ก็เริ่มหันมาปลูกยางพารากันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีที่รับซื้อยางพารา 
ดังนั้น น้ำยางที่กรีดได้ต้องถูกส่งมาขายที่จังหวัดระยอง ซึ่งทำให้เขาที่เดินทางมาขายน้ำยาง ก็มีโอกาสเรียนรู้ การทำธุรกิจยางพารามากขึ้น 
นอกจากนั้น เขายังเดินทางไปภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกยางพาราที่สำคัญในไทย เพื่อไปสอบถามและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจยางพาราของเขาให้ดีขึ้น
ในปี 2544 รัฐบาลไทยในขณะนั้น เริ่มมีการส่งเสริมการปลูกยางพาราในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
ในตอนนั้น ครอบครัวของคุณชูวิทย์ ก็เริ่มมีเงินมากพอสมควร จากการขายยางพารา 
เมื่อรวมกับการที่น้ำยางของคุณชูวิทย์ที่ส่งมาขายที่ระยอง มักจะถูกกดราคา และมีต้นทุนในการขนส่ง
เรื่องนี้ก็ทำให้เขาเริ่มคิดที่จะตั้งโรงงานยางพาราขึ้นมาเอง
จนเป็นที่มาของการก่อตั้ง “นอร์ทอีส รับเบอร์” ขึ้นในปี 2549 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน และผลิตภัณฑ์จากยางพารา
โดยเริ่มจากการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรในบริเวณใกล้เคียง แล้วนำมาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน ขายให้กับคู่ค้าทั่วประเทศ และต่างประเทศด้วย
มาวันนี้ นอร์ทอีส รับเบอร์ ก็ออกสินค้าตัวอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมา อย่างเช่น ยางอัดแท่ง และยางผสม
ซึ่งเป็นที่ต้องการของทั้งตลาดภายในประเทศ และตลาดต่างประเทศ
โมเดลรายได้หลักของ NER มาจากสินค้าหลัก 3 ตัว อ้างอิงจากช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 คือ
- ยางอัดแท่ง (STR) สัดส่วน 58% 
- ยางผสม (Mixtures Rubber) สัดส่วน 30% 
- ยางแผ่นรมควัน (RSS) สัดส่วน 12% 
สัดส่วนรายได้ตามประเทศ 
- ไทย 75% 
- ต่างประเทศ 25% 
บริษัทจดทะเบียนอยู่ใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
มีมูลค่าบริษัท มากกว่า 7,650 ล้านบาท
ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2565 รายได้ 25,203 ล้านบาท กำไร 1,748 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 25,057 ล้านบาท กำไร 1,546 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 27,496 ล้านบาท กำไร 1,652 ล้านบาท
และ 9 เดือนแรก ปี 2568 รายได้ 23,010 ล้านบาท กำไร 1,489 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราว และโมเดลธุรกิจของ NER 
ผู้ผลิตยางพารา รายใหญ่ ในภาคอีสาน..
References
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2568, บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.