มโนห์รา ข้าวเกรียบ 600 ล้าน ที่วันแรก ขายถุงละ 1 บาท

มโนห์รา ข้าวเกรียบ 600 ล้าน ที่วันแรก ขายถุงละ 1 บาท

4 เม.ย. 2023
มโนห์รา ข้าวเกรียบ 600 ล้าน ที่วันแรก ขายถุงละ 1 บาท | BrandCase
หลายคนน่าจะเคยทานข้าวเกรียบเป็นอาหารว่างกัน
และสำหรับคนที่ชอบทานข้าวเกรียบ น่าจะรู้จัก “ข้าวเกรียบมโนห์รา”
ซึ่งรู้ไหมว่า ข้าวเกรียบมโนห์รา เริ่มต้นจากการขายในราคาเพียงแค่ ถุงละ 1 บาท
มาจนถึงวันนี้ ข้าวเกรียบมโนห์รา มีรายได้มากกว่า 600 ล้านบาท
เส้นทางของ ข้าวเกรียบมโนห์รา น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
ข้าวเกรียบมโนห์รา ก่อตั้งโดยคุณอภิวัฒน์ วังวิวัฒน์ ชาวสงขลา
สมัยเด็กครอบครัวของคุณอภิวัฒน์ มีฐานะยากจน ทำให้ทุกวันหลังเลิกเรียน เขาต้องหารายได้พิเศษด้วยการขายขนมหวาน
แต่คุณอภิวัฒน์มองว่า ขนมหวานนั้นเป็นสินค้าที่มีอายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น เพราะกะทิที่อยู่ในขนมนั้น มักจะเสียง่ายเมื่อเวลาผ่านไป
เขาจึงเริ่มมองหาสินค้าตัวอื่นมาขาย ซึ่งนั่นก็คือ ข้าวเกรียบ ที่มีอายุการเก็บรักษาค่อนข้างนานนั่นเอง
เขาเริ่มต้นทำข้าวเกรียบกันภายในครอบครัวเป็นธุรกิจเล็ก ๆ แล้วไปเดินเร่ขายตามสถานที่ต่าง ๆ
ซึ่งในตอนนั้น ขายที่ราคาห่อละ 1 บาท ในช่วงประมาณปี 2500
โดยเน้นไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเดินทางไปเยอะ ๆ อย่างเช่น หาดสมิหลา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา
ต่อมาในปี 2505 เมื่อคุณอภิวัฒน์เดินทางมาเรียนต่อที่กรุงเทพมหานคร เขาก็ยังให้พี่สาวทอดข้าวเกรียบกุ้งแล้วส่งขึ้นรถไฟจากหาดใหญ่มาขายทุกสัปดาห์
ซึ่งแน่นอนว่า เขาก็มักเลือกสถานที่ที่ผู้คนเดินทางผ่านไปผ่านมาเยอะ ๆ อย่างเช่น บริเวณท่าพระจันทร์ และสนามหลวง
สมัยนั้น คนที่ซื้อข้าวเกรียบของคุณอภิวัฒน์ มักคุ้นเคยและเรียกข้าวเกรียบของเขาว่า “ข้าวเกรียบสงขลา”
จึงทำให้เขาตัดสินใจสร้างแบรนด์ เป็นชื่อ ข้าวเกรียบมโนห์รา
โดยมโนห์รานั้น เป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของภาคใต้ ซึ่งการใช้ชื่อนี้ ก็เพื่อให้คนจดจำได้ง่ายว่า ข้าวเกรียบของเขา เป็นสินค้าที่มาจากภาคใต้นั่นเอง
เมื่อสินค้าเริ่มติดตลาด ออร์เดอร์เริ่มเข้ามามาก และเริ่มมีเงินทุนที่ต่อยอดได้ คุณอภิวัฒน์จึงจัดตั้งโรงงานผลิตข้าวเกรียบขึ้นที่บางขุนนนท์เป็นแห่งแรก
ก่อนที่จะย้ายโรงงานไปที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร เพื่อให้อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบและใกล้จุดส่งออก
มีการนำเครื่องจักรในการผลิตข้าวเกรียบที่ทันสมัยเข้ามาใช้ ซึ่งการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ามา ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้น
นอกจากนั้น ยังมีการปรับปรุงแพ็กเกจจิงให้มีความทันสมัย ได้มาตรฐาน ทำให้ข้าวเกรียบมโนห์ราเริ่มมีการเข้าไปวางขายตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก และร้านขายของชำ
รวมไปถึงส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา ยุโรป และอีกหลายประเทศในเอเชีย ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้แก่ธุรกิจได้มากขึ้น
รายได้และกำไรของบริษัท มโนห์ราอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด
ปี 2564 รายได้ 591 ล้านบาท กำไร 10 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 684 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
จากจุดเริ่มต้นที่คุณอภิวัฒน์เดินเร่ขายข้าวเกรียบถุงละ 1 บาท ใครจะไปคิดว่า มาวันนี้ข้าวเกรียบมโนห์รา จะเป็นสินค้าที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างมาก ทั้งคนไทยและต่างชาติ
ซึ่งวันนี้สินค้าของมโนห์ราไม่ได้มีเพียงแค่ข้าวเกรียบกุ้งเท่านั้น เพราะยังมีข้าวเกรียบปลา ข้าวเกรียบปู ข้าวเกรียบฟักทอง และข้าวเกรียบเผือก
เรื่องราวความสำเร็จของข้าวเกรียบมโนห์รา บอกเราว่า ไม่ว่าเราจะขายสินค้าอะไร หรือราคาเท่าไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ เราต้องรู้จักกลยุทธ์ และวิธีการขาย
เหมือนอย่างคุณอภิวัฒน์ที่มักจะเริ่มต้นขายข้าวเกรียบ ในบริเวณที่มีคนผ่านไปผ่านมาเยอะ
รวมไปถึงการที่เขามองหาช่องทาง และโอกาสจากตลาดใหม่ ๆ
อย่างเช่น การให้พี่สาวส่งข้าวเกรียบมาขายในกรุงเทพมหานคร หรือส่งสินค้าของมโนห์ราไปขายยังตลาดต่างประเทศเมื่อมีโอกาส
และสิ่งเหล่านี้เอง ได้ช่วยทำให้ข้าวเกรียบมโนห์รา
กลายเป็นข้าวเกรียบ ที่สร้างรายได้กว่า 600 ล้านบาทไปแล้ว ในวันนี้..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.