
ศรีจันทร์ ปีเดียวรายได้ 1,600 ล้าน.. วิธีบริหาร ของ คุณรวิศ และอินไซต์ธุรกิจ ของ ศรีจันทร์
25 มิ.ย. 2025
1. ปัจจุบัน บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด มีแบรนด์หลักในเครือ 2 แบรนด์ คือ ศรีจันทร์ และ ศศิ แบรนด์น้องที่ก่อตั้งในปี 2017 เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและแฟชั่น
- อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ต่อปี ตั้งแต่ปี 2021-2024 ของแบรนด์ศรีจันทร์ อยู่ 51% ต่อปี
- อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ต่อปี ตั้งแต่ปี 2021-2024 ของแบรนด์ศศิ อยู่ที่ 53% ต่อปี
2. รายได้รวมของ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด
ปี 2022 รายได้ 736 ล้านบาท กำไร 26 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 1,047 ล้านบาท กำไร 80 ล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 1,600 ล้านบาท กำไร 205 ล้านบาท
โดยคุณรวิศ หาญอุตสาหะ ผู้บริหาร ศรีจันทร์สหโอสถ ตั้งเป้ายอดขายปี 2025 มากกว่า +30-40%
3. ปัจจุบันบริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด มีรายได้รวมมาจากช่องทางการจำหน่ายแบบออฟไลน์ 90% และออนไลน์ 10%
และสัดส่วนลูกค้าของแบรนด์ที่มากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี
4. การเติบโตแยกตามประเภทผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ในเครือ
- สกินแคร์ +148%
- ครีมกันแดด +73%
- เมกอัป +11%
5. ศรีจันทร์ เข้าสู่ตลาดสกินแคร์ ตั้งแต่ปี 2021 และในปี 2024 บริษัทสามารถมีการเติบโตถึง 117% ในหมวดสกินแคร์ เมื่อเทียบกับปี 2023 และตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขาย 45% ในปี 2025
คุณรวิศแชร์ว่า ปกติแล้วสินค้าหมวดบิวตี จะมีการเติบโตเฉลี่ย 7-10% ทุกปี
6. สินค้าที่ขายดีที่สุดในหมวดเมกอัป คือ แป้งฝุ่นโปร่งแสง Bare to Perfect Translucent Powder 10 g เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแป้งฝุ่น (Loose Powder) ในประเทศไทย (ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 ถึงเมษายน 2025 (อ้างอิงจากข้อมูล NielsenIQ ประเทศไทย)
7. สินค้าที่ขายดีที่สุดในหมวดสกินแคร์ คือ SRICHAND Skin Moisture Burst Gel Cream Sachet 10 ml
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มมอยส์เชอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face)
ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ถึงเมษายน 2025 (อ้างอิงจากข้อมูล NielsenIQ ประเทศไทย)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มมอยส์เชอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face)
ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ถึงเมษายน 2025 (อ้างอิงจากข้อมูล NielsenIQ ประเทศไทย)
8. ศรีจันทร์เป็นแบรนด์ไทยอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์มอยส์เชอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face) ในประเทศไทย ระหว่างเดือนมกราคม 2024 ถึงเมษายน 2025
โดยมีอัตราการเติบโต 79% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่เติบโต 3.44% (อ้างอิงจากรายงาน NielsenIQ ประเทศไทย ปี 2025)
โดยคุณรวิศให้เหตุผลซัปพอร์ตไว้ว่า “เนื่องจากคนรุ่นเก่ารู้จักศรีจันทร์จากแป้ง แต่คนรุ่นใหม่รู้จักศรีจันทร์จากสกินแคร์”
9. การออกแบรนด์ ศศิ (sasi) เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ วาง Positioning ของแบรนด์ เป็น แบรนด์ความงามและไลฟ์สไตล์ที่คุ้มค่าและทันสมัย ด้วยการออกแบบสินค้าจากการเข้าใจความต้องการของวัยรุ่น
เช่น Kiss & Blush Multifunction Cosmetics ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย ชิ้นเดียวใช้ได้ทั้งตา แก้ม ปาก
และ Acne Sol Collection ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิว รวมไปถึงการใช้สีที่โดดเด่นในกลุ่มเมกอัป
10. การขยายไปตลาดลาวและตลาดญี่ปุ่น
ศรีจันทร์มีการขยายสู่ตลาดลาว โดยมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี ตั้งแต่ปี 2021-2024 อยู่ที่ 112.5% ต่อปี
สินค้าที่ได้รับความนิยมอยู่ในหมวดสกินแคร์ เช่น Moisture Burst Series, Sunscreen แป้งฝุ่นและรองพื้น
นอกจากนี้แบรนด์ยังมีสัญญาณตลาดที่ดีในตลาดญี่ปุ่น โดยปัจจุบันศรีจันทร์มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งในตลาดญี่ปุ่นผ่านช่องทางออฟไลน์มากกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
และในญี่ปุ่นได้รับความนิยมถึงขั้นที่ว่า BANDAI ที่เป็นบริษัทผลิตของเล่นจากประเทศญี่ปุ่นขอซื้อลิขสิทธิ์ของตัวแป้ง เพื่อนำไปทำเป็นกาชาปอง โดยเลือกจากแป้งที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทั้ง 6 แบบ
11. เป้าหมายหลักในการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ คือ ตลาดอาเซียนและตลาดเอเชีย
โดยกลยุทธ์ในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ คือ เน้นในการหาคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อเป็น Distributor ในแต่ละตลาด
โดยจะเน้นไปที่บริษัทท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการขายและทำการตลาดทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ นอกเหนือจากการสร้างยอดขาย
และบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์และการรับรู้ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและนิยมในภูมิภาคเอเชีย
โดยตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น จนมีสัดส่วนเป็น 10-15% ภายในเวลา 3 ปี
12. คุณรวิศวางให้ ศรีจันทร์ เป็น Purposeful Brand ที่มีเป้าหมายคือความภูมิใจของคนไทย
และต้องการจะเป็นแบรนด์ไทยระดับสากล ด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่
- รักษาเอกลักษณ์ Modern Classic Thainess ของแบรนด์ไว้ด้วยความภูมิใจ
เช่น การใส่คำว่า “SRICHAND BANGKOK 1948” ที่ระบุเมืองและปีต้นกำเนิดลงในผลิตภัณฑ์ เพื่อเน้นความสำคัญของรากฐานความเป็นไทยที่เป็นความภูมิใจของแบรนด์มาตลอด 76 ปี
- วิธีคัดเลือกพรีเซนเตอร์ ที่เป็นตัวแทนความเป็นไทยร่วมสมัย
กลยุทธ์ในการเลือกพรีเซนเตอร์ของศรีจันทร์ และ ศศิ คือ มองหาตัวแทนคนไทยที่มีความร่วมสมัยทั้งความคิด ความสามารถ และภาพลักษณ์ เข้าถึงง่าย ทำให้คนรู้สึกภูมิใจในความเป็นคนไทย
ปัจจุบัน พรีเซนเตอร์ของศรีจันทร์ ได้แก่ คุณใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ (Base Makeup), คุณโบว์-เมลดา สุศรี (Sunscreen), คุณแบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล (SRICHAND IN-SKIN)
และพรีเซนเตอร์ของศศิ ได้แก่ คุณเก้า-สุภัสสรา ธนชาต (Face of sasi-Lipstick & Eyebrow) และ PROXIE (Face of sasi-Loose Powder & Foundation)
- วิธีพัฒนาคุณภาพสินค้า ให้มีมาตรฐานเทียบเคียงระดับสากล
บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้ามาก ๆ ถ้าสูตรยังไม่ดีพอ จะไม่ผลิตออกมาขาย ซึ่งบริษัทได้มีการลงทุนด้านคุณภาพ และ R&D ตั้งแต่การคัดเลือกผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน
รวมถึงการใช้ข้อมูลเรื่องเทรนด์การตลาด, Research ต่าง ๆ ประกอบการผลิต และคัดเลือก Active Ingredients ที่มีความโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีและการทดสอบผลต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะดีและให้ผลเป็นไปตามที่เคลมไว้ได้
- วิธีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดึงดูดคนที่เชื่อแบบเดียวกันได้
บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด มีกลยุทธ์ในการสร้างวัฒนธรรมในการทำงานที่มุ่งเน้น ความ Resilience หรือยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง
โดยมี 4 แกนสำคัญคือ
- Outcome ผลลัพธ์ตรงตามเป้าหมาย
- Accountability ความรับผิดชอบต่องานที่ทำอย่างเต็มที่ และช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ
- Adaptability ปรับตัวและพร้อมเรียนรู้เรื่องใหม่
- Speed คิดแล้วลงมือทำ ผิดพลาดรีบแก้ไข
นอกจากนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับสวัสดิการที่ให้คุณค่าความเท่าเทียมและการพัฒนาศักยภาพ
เช่น ลาคลอด โดยได้รับค่าจ้าง (สูงสุด 6 เดือน), ลาดูแลภรรยาที่ตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร (สูงสุด 1 เดือน), ลาผ่าตัดแปลงเพศ (สูงสุด 1 เดือน), ลาพักใจ กรณีสูญเสียบุคคลในครอบครัว 10 วันต่อปี, ลาปฏิบัติธรรมหรือศาสนกิจ
Tag:ศรีจันทร์