เข้าใจโมเดลธุรกิจ SABINA ผ่านมุมตัวเลข รายได้ ต้นทุน และการผลิตสินค้า

เข้าใจโมเดลธุรกิจ SABINA ผ่านมุมตัวเลข รายได้ ต้นทุน และการผลิตสินค้า

6 ก.ค. 2025
- รู้หรือไม่ ? ในปีที่ผ่านมา บมจ.ซาบีน่า เจ้าของแบรนด์ชุดชั้นในสตรี SABINA มียอดการผลิตสินค้า อย่างเช่น ชุดชั้นในสตรี ประมาณ 22.65 ล้านชิ้น ซึ่งมีทั้งที่ผลิตเอง และจ้างผลิตด้วย
โดยปีที่ผ่านมา SABINA มีรายได้ 3,587 ล้านบาท กำไร 464 ล้านบาท
หรือเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ รายได้ทุก ๆ 100 บาท จะมีกำไร 12.9 บาท
โมเดลรายได้ ต้นทุน กำไร และการผลิตสินค้าของ SABINA เป็นอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
- สรุปธุรกิจของ บมจ.ซาบีน่า แบบคร่าว ๆ เร็ว ๆ ก็คือ
ก่อตั้งขึ้นในปี 2506 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นร้านเย็บผ้าเล็ก ๆ 
ซึ่งในเวลาต่อมา SABINA ก็ได้ขยายธุรกิจไปยังตลาด OEM หรือโรงงานรับจ้างผลิตชุดชั้นในให้กับแบรนด์อื่น ๆ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของ SABINA ก็จะอยู่ต่างประเทศเป็นหลัก
ต่อมาในปี 2549 SABINA ตัดสินใจปั้นแบรนด์ชุดชั้นในสตรีเป็นของตัวเอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และอัตรากำไรของบริษัทให้ดีขึ้น และใช้โมเดลนี้มาจนถึงตอนนี้
___________________
โมเดลธุรกิจของ SABINA ตามสัดส่วนรายได้ ปี 2567
- รายได้จากการขายสินค้าแบรนด์ตัวเอง คือแบรนด์ SABINA 94%
- รายได้จากการรับจ้างผลิตให้แบรนด์อื่น (OEM) 5.4%
- รายได้จากการบริการและอื่น ๆ 0.6%
โดยจากข้อมูลปี 2567 SABINA มีจำนวนการผลิตและจ้างผลิตสินค้าทั้งหมด 22.65 ล้านชิ้น แบ่งออกเป็น
- ผลิตสินค้าด้วยโรงงานตัวเอง จำนวน 7.02 ล้านชิ้น หรือ 31% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด
โดยสินค้าที่ผลิตด้วยโรงงานตัวเองนี้ มีทั้งแบรนด์ในเครือ SABINA เอง รวมถึงการรับจ้างผลิตให้แบรนด์อื่นด้วย
- จ้างโรงงานภายนอกผลิตสินค้า จำนวน 15.63 ล้านชิ้น หรือ 69% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด
โดยส่วนใหญ่เป็นโรงงานในประเทศจีน
ซึ่งต้องหมายเหตุว่า สินค้าทั้งหมด 22.65 ล้านชิ้นนี้ เป็นยอดการผลิตและจ้างผลิต ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขจำนวนเดียวกันกับ ปริมาณการขายสินค้าในปีที่ผ่านมา
___________________
โครงสร้างต้นทุนของ SABINA
- ต้นทุนขาย (Cost Of Goods Sold) 
คือ ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาสินค้าโดยตรง
สำหรับ SABINA ก็จะแบ่งเป็น 2 ทาง ตามวิธีการจัดหาสินค้า นั่นคือ
1. ต้นทุนจากการผลิตสินค้าด้วยตัวเอง อย่างเช่น
- ค่าวัตถุดิบ เช่น ผ้าดิบ ฟองน้ำ และลูกไม้ สำหรับขึ้นรูปเป็นชุดชั้นใน
- ค่าวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆ
- ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร และโรงงานผลิตสินค้า
- ค่าแรงทางตรง ของพนักงานที่อยู่หน้าไลน์ผลิต
โดยในปี 2567 รายได้จากการผลิตสินค้าด้วยตัวเอง ทุก ๆ 100 บาท 
จะมีต้นทุนจากการผลิตสินค้า 55.1 บาท
2. ต้นทุนจากการจ้างผลิตสินค้า จากโรงงานภายนอก อย่างเช่น โรงงานในประเทศจีน
โดยในปี 2567 รายได้จากการจ้างโรงงานภายนอกผลิต ทุก ๆ 100 บาท
จะมีต้นทุนจากการผลิตสินค้า 46.2 บาท
เมื่อเรารู้ต้นทุนขายจากแต่ละส่วนแล้ว เราก็จะรู้ “กำไรขั้นต้น” หรือ Gross Profit (GP)
โดยส่วนของสินค้าที่ SABINA ผลิตเอง 
รายได้ทุก ๆ 100 บาท
มีต้นทุนขาย 55.1 บาท
มีกำไรขั้นต้น เท่ากับ 100 - 55.1 = 44.9 บาท
โดยส่วนของสินค้าที่ SABINA จ้างโรงงานจากภายนอกเพื่อผลิตสินค้าให้ 
รายได้ทุก ๆ 100 บาท
มีต้นทุนขาย 46.2 บาท
มีกำไรขั้นต้น เท่ากับ 100 - 46.2 = 53.8 บาท
จะเห็นว่า SABINA จ้างโรงงานผลิตจากภายนอกผลิตสินค้าให้ มีอัตรากำไรขั้นต้น มากกว่า การผลิตด้วยตัวเอง
ทีนี้ ถ้าเอาต้นทุนขายจากทั้ง 2 ส่วน คือทั้งผลิตเอง และจ้าง Outsource ผลิต มาลองเฉลี่ยกันดู เราจะเห็นว่า
รายได้ทุก ๆ 100 บาท
มีต้นทุนขาย 50.4 บาท
มีกำไรขั้นต้น เท่ากับ 100 - 50.4 = 49.6 บาท
- ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A)
คือต้นทุนที่ไม่ได้มาจากการผลิต หรือจัดหาสินค้าโดยตรง แต่เป็นต้นทุนส่วนอื่น ๆ ที่เข้ามาสนับสนุนการผลิต 
ตัวอย่างเช่น
- เงินเดือนพนักงานออฟฟิศ และพนักงานขายหน้าร้าน
- ค่าใช้จ่ายโฆษณาและการตลาด
- ค่าขนส่งสินค้า
- ค่าเช่าสาขาร้านค้า ตามห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าต่าง ๆ
โดยรายได้จากการขายทุก ๆ 100 บาท ของ SABINA ในปี 2567
มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร = 33.6 บาท
เมื่อเราลองดูโครงสร้างต้นทุนรวมอีกที จะเห็นว่า
รายได้จากการขายชุดชั้นใน SABINA ทุก ๆ 100 บาท
มีต้นทุนขาย (COGS) 50.4 บาท
หักลบกันแล้ว เหลือเป็นกำไรขั้นต้น = 49.6 บาท
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 33.6 บาท
หักลบกับ กำไรขั้นต้นแล้ว เหลือเป็นกำไรจากการดำเนินงาน = 16.0 บาท
และเมื่อเราเอากำไรจากการดำเนินงาน ไปหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ และภาษีด้วยแล้ว
รายได้ของ SABINA ทุก ๆ 100 บาท
จะเหลือเป็นกำไรสุทธิ = 12.9 บาท 
หรือก็คือ อัตรากำไรสุทธิ 12.9% นั่นเอง..
References
- SABINA PCL. Financial Highlight Q1’2025
- SABINA PCL. Factsheet FY’2024
- 56-1 One Report บมจ.ซาบีน่า
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.