ทำไม Sony ถึงยอมแพ้ ในตลาด เครื่องเกมพกพา ?

ทำไม Sony ถึงยอมแพ้ ในตลาด เครื่องเกมพกพา ?

23 ก.ย. 2022
ทำไม Sony ถึงยอมแพ้ ในตลาด เครื่องเกมพกพา ? | BrandCase
หากพูดถึงตลาดเครื่องเล่นเกมคอนโซล เจ้าตลาดในตอนนี้ก็จะเป็น PlayStation จาก Sony และ Xbox จาก Microsoft
แต่สำหรับเครื่องเกมพกพาแล้ว ปัจจุบันน่าจะมีชื่อเดียว คือ Nintendo
ในความเป็นจริงแล้ว ก็ต้องบอกว่า Sony เคยแข่งขันในตลาดเครื่องเกมพกพามาก่อน
แต่เมื่อ 3 ปีก่อน กลับออกมาประกาศว่า เลิกสนใจในตลาดเครื่องเกมพกพาแล้ว
แล้วอะไรกันคือสาเหตุ ที่ Sony ยอมแพ้ในตลาด เครื่องเกมพกพา ?
BrandCase จะมาสรุปให้ ฉบับเข้าใจง่าย ๆ
หากเรายังจำกันได้ เครื่องเกมพกพาที่สร้างชื่อให้กับ Sony มากที่สุด คงหนีไม่พ้น PlayStation Portable หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “PSP”
PSP เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 2004 หรือราว 18 ปีก่อน และมียอดขายรวมกว่า 80.8 ล้านเครื่อง
โดยในขณะนั้น Nintendo ที่เป็นเจ้าตลาดเครื่องเกมพกพาอยู่แล้ว ก็มีเครื่องเกมคู่แข่งอย่าง Nintendo DS ที่ขายได้มากกว่า 154.9 ล้านเครื่อง เช่นกัน
เมื่อดูจากจำนวนเครื่องที่ขายได้ Sony อาจจะแพ้ Nintendo อยู่ถึงเกือบครึ่งหนึ่ง
แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Sony ได้เข้าไปแย่งส่วนแบ่ง ธุรกิจเครื่องเกมพกพาจาก Nintendo ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ทำให้ในปี 2011 ทั้งคู่แข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น
โดย Nintendo ก็ได้เปิดตัว Nintendo 3DS
ส่วน Sony ก็ได้ท้าชนด้วย PlayStation Vita หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า PS Vita
PS Vita ซึ่งมีฟีเชอร์ที่ดีกว่าเครื่องเกมรุ่นก่อนเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นระบบฮาร์ดแวร์ ไปจนถึงระบบสัมผัส ที่สามารถใช้ได้ทั้งหน้าจอด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง
แม้จะอัปเกรดจัดเต็มมาแล้ว แต่เครื่องเกมอย่าง PS Vita กลับขายได้เพียง 15.9 ล้านเครื่องเท่านั้น
ผิดกับ Nintendo 3DS ที่ยังคงความร้อนแรง กวาดยอดขายไปได้มากถึง 75.9 ล้านเครื่อง
จนกระทั่งในปี 2019 หรือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว Sony ประกาศหยุดสนับสนุนเครื่องเกมพกพาตัวนี้
รวมถึงรายงานว่า ไม่มีแผนที่จะกลับไปผลิตเครื่องเกมพกพาอีกจนถึงปัจจุบัน
แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ PS Vita ขายไม่ค่อยดี ?
-ปัจจัยแรก ก็คือ สมาร์ตโฟน..
ที่ได้กลายมาเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์โลก สามารถทำให้เราเล่นเกมได้เลย ผ่านการดาวน์โหลดบน App Store และ Google Play เต็มไปหมด
เมื่อทุกคนเข้าถึงเกมได้หมดบนสมาร์ตโฟนแล้ว จึงกลายเป็นว่าตลาดผู้ซื้อเครื่องเล่นเกมพกพา จะเหลือเพียงคนที่เล่นเกมจริงจังเท่านั้น
เรียกได้ว่าตลาดเล็กลงกว่าเดิมมาก หรือพูดง่าย ๆ คือเครื่องเกมพกพาโดนดิสรัปต์ไปเลยทั้งอุตสาหกรรม
หากเรามาดูส่วนแบ่งทางการตลาด ของเกมตามอุปกรณ์ปีที่แล้ว
ก็จะพบว่า เกมมือถือมีส่วนแบ่งมากถึง 52%
ในขณะที่เกมคอนโซลทั้งหมด เหลือเพียง 28% เท่านั้น
-ปัจจัยต่อมาคือ เกมที่ลงให้กับเครื่อง PS Vita เอง ก็ไม่ได้ดึงดูดมากนัก
เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Nintendo ที่มีเกมพิเศษ
หรือเกม Exclusive เฉพาะเครื่องเล่น Nintendo 3DS เท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เกมของ Nintendo เอง อย่าง Pokémon, Mario และ Kirby
หรือแม้แต่ผู้พัฒนาเกม เช่น Monster Hunter ที่เคยร่วมมือกับ Sony สร้างยอดขายถล่มทลายให้กับเครื่องเกม PSP รุ่นก่อน แต่รอบนี้ กลับมาผลิตให้กับ Nintendo 3DS แทน
-สาเหตุสุดท้ายคือ Sony หันไปให้ความสนใจกับ PlayStation 4 ที่เปิดตัวในปี 2013 มากกว่าเครื่องเกม PS Vita
เพราะตลาดหลักของ Sony คือเครื่องเกมคอนโซลต่อทีวี ที่มีคู่แข่งหลักคือ Xbox จาก Microsoft
โดยในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า Sony พยายามออกเกม Exclusive มากมาย
ลงให้เฉพาะเครื่อง PlayStation 4 จนสามารถขายเครื่องเกมได้เกินกว่า 117 ล้านเครื่อง
คิดเป็น 2 เท่าของ Xbox One คู่แข่งคนสำคัญจาก Microsoft
คำถามต่อมาก็คือเครื่องเกมพกพาของ Sony ไปได้ไม่สวย จนต้องเลิกทำ
แล้วคู่แข่งอย่าง Nintendo ล่ะ ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง ?
สำหรับ Nintendo ยังเลือกที่จะพัฒนาเครื่องเกมพกพา จนได้คลอด Nintendo Switch ออกมาในปี 2017
และวางตัวเองเป็นเครื่องเล่นเกมสำหรับครอบครัว รวมถึงเพื่อนฝูง
โดยนำแบรนด์เรือธงในเครือ เช่น Pokémon และ Mario มาดึงดูดผู้เล่นต่อไป
ซึ่งการวางกลยุทธ์แบบนี้ ส่งผลดีต่อบริษัทเป็นอย่างมาก
เพราะมันทำให้ Nintendo มีความชัดเจนว่าเราคือใคร เราอยากขายเครื่องเล่นเกมให้ใคร
โดยตลาดที่ Nintendo มองนั้น ก็ใหญ่พอและยังคงสามารถขายได้
ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงโควิด 19 เกมออกกำลังกายอย่าง Ring Fit
และเกมสร้างบ้านทำสวนเข้าสังคม อย่าง Animal Crossing สามารถทำรายได้ถล่มทลาย
ถึงขนาดที่อุปกรณ์เสริมที่ใช้สำหรับเล่นเกม Ring Fit ขาดตลาดไประยะหนึ่ง เลยทีเดียว
ปัจจุบัน Nintendo Switch สามารถขายได้มากกว่า 111 ล้านเครื่อง
และตัวบริษัท Nintendo เอง ยังคงมีรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้น
แม้จะต้องเจอกับคู่แข่งอย่างเกมมือถือก็ตาม
ในยุคที่อุตสาหกรรมเครื่องเล่นเกม ต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าที่ตลาดมีขนาดเล็กลง เพราะโดนสมาร์ตโฟนเข้ามาแย่งชิง
สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เครื่องเกมในปัจจุบันอยู่รอดต่อไปได้ ก็อาจจะไม่ใช่ประสิทธิภาพเครื่องที่สูงเสียทีเดียว
แต่ก็อาจจะเป็นการที่เรารู้ว่าใครกัน คือลูกค้าที่เหนียวแน่นของเรา
พฤติกรรมของพวกเขาชอบอะไร ยังยอมจ่ายให้กับอะไรอยู่
แล้วเราจะสร้างความแตกต่าง
สร้างแบรนด์ให้เขายังจดจำเราได้ไปอีกนาน ๆ ได้อย่างไร
ถ้าเรารู้จุดนี้ได้ ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไร
เราก็น่าจะยังสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ แม้ว่าจะมีใครเข้ามาแข่งขันกับเรามากขนาดไหน ก็ตาม..
จริง ๆ จะว่าไปแล้ว ที่ Sony ยอมแพ้ในตลาดนี้ ก็คงคิดดีแล้ว
เพราะจะได้ไปโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองมีชื่อเสียงมาก ๆ อย่าง เกมคอนโซล PlayStation ได้เต็มที่..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.