ทำไม องค์กรชั้นนำทั่วประเทศ วางใจให้ “I AM Consulting” วางระบบ SAP ?

หลายคนอาจรู้จัก I AM Consulting ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาด้าน SAP
แต่ถ้ามองลึกลงไปมากกว่านั้น I AM Consulting ไม่ได้เป็นเพียง “ผู้ติดตั้งระบบ” แต่เป็น “พาร์ตเนอร์” ที่พร้อมเดินไปด้วยกัน ในทุกการเปลี่ยนผ่านขององค์กร

ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 22 ปี และความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 200 องค์กรชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้ากว่า 80 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ทำให้ I AM Consulting กลายเป็นชื่อที่อยู่เบื้องหลัง การวางระบบ SAP ให้กับธุรกิจไทยแทบทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่พลังงาน ค้าปลีก ขนส่ง อุปโภคบริโภค อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการเงิน

เพราะสำหรับ I AM Consulting แล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ “การเข้าใจธุรกิจของลูกค้า” อย่างลึกซึ้ง และพร้อมอยู่เคียงข้างพวกเขาในทุกจังหวะของการเติบโต

เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
ทำไม องค์กรทั่วประเทศ ต่างไว้ใจให้ “I AM Consulting” วางระบบ SAP ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

ในยุคที่ทุกองค์กรเร่งทรานส์ฟอร์มด้วยเทคโนโลยี แต่ไม่ใช่ทุกระบบจะสามารถตอบโจทย์ธุรกิจไทยได้จริง
เพราะการวางระบบให้ “ทำงานได้” ไม่ยาก แต่การวางระบบให้ “ธุรกิจเติบโตได้จริง” ต่างหาก คือ ความท้าทาย

สำหรับโลกฝั่งเทคโนโลยี I AM Consulting มีทีม Technical Consultant เป็นผู้เชี่ยวชาญ SAP ระดับแนวหน้า ที่เข้าใจการออกแบบและพัฒนาระบบ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจอย่างลงตัว

ส่วนโลกฝั่งธุรกิจ I AM Consulting ก็มีทีม Business Consultant ที่รู้ลึกถึงโครงสร้างองค์กรไทย
ตั้งแต่ระบบบัญชี ภาษี ไปจนถึงกระบวนการทำงานในแต่ละอุตสาหกรรม สามารถถอดความต้องการขององค์กรออกมาเป็นระบบที่ตอบโจทย์จริง

ดังนั้น I AM Consulting จึงไม่เพียงเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี แต่เข้าใจโครงสร้างธุรกิจไทยอย่างลึกซึ้งถึงกระบวนการ ตั้งแต่กฎระเบียบ กฎหมาย วัฒนธรรมองค์กรของคนไทย วิธีการทำงาน บัญชี ภาษี จนถึงการตัดสินใจระดับองค์กร

ด้วยความจริงใจในการให้คำปรึกษา I AM Consulting ไม่ได้แนะนำโซลูชันที่ทันสมัย หรือแพงที่สุดเสมอไป แต่จะมุ่งเน้นที่ลูกค้า โดยนำเสนอโซลูชันที่ “ตอบโจทย์ธุรกิจ” ได้ดีที่สุด เหมาะสม คุ้มค่า ใช้ได้จริง

อีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของ I AM Consulting คือการดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางระบบ (Implementation) ไปจนถึงการดูแลหลังบ้าน
ผ่านทีม AMS (Application Management Services) ที่มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คน คอยเฝ้าระวัง ปรับปรุง และสนับสนุนระบบของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการดำเนินงานจะไม่สะดุดแม้แต่นาทีเดียว

เพราะ I AM Consulting เข้าใจดีว่า วันที่ส่งมอบโครงการ ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของลูกค้า และระบบที่เราวางจะอยู่กับองค์กรไปอีกนาน จึงต้องมั่นคง ยืดหยุ่น และพร้อมรองรับการเติบโตในทุกช่วงเวลา

นอกจากนี้ สิ่งที่เสริมสร้างให้ I AM Consulting แข็งแกร่ง นั่นคือ การมีบริษัทแม่ระดับโลกอย่าง TIS INTEC Group บริษัท IT ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มากกว่า 50 ปี

ทำให้ I AM Consulting ได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจากทีมผู้เชี่ยวชาญ ด้วยความละเอียดและมาตรฐานแบบญี่ปุ่น

เมื่อผสานกับความเข้าใจเชิงลึกในบริบทของธุรกิจไทยที่ I AM Consulting สั่งสมมายาวนาน
นี่จึงกลายเป็นจุดแข็งเฉพาะตัวของแบรนด์ ที่เรียกว่า “คุณภาพแบบญี่ปุ่น ที่เข้าใจความเป็นไทย”

อ่านมาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า I AM Consulting สามารถช่วยให้องค์กรไทยขับเคลื่อนธุรกิจได้ครบทุกมิติ ด้วยความเข้าใจ และบริการแบบ “ครบวงจร”

ตั้งแต่การวางระบบ ERP, การพัฒนาคนด้วย HR Cloud Solutions, เทคโนโลยีเพื่อองค์กรยุคใหม่อย่าง Document Intelligence ที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าแบบ Paperless ด้วยโซลูชัน e-Tax, Digital Signature, e-Stamp Duty และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ I AM Consulting ยังมีทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่รองรับการเขียนโปรแกรมได้มากกว่า 40 ภาษา
เพื่อสร้างโซลูชันเฉพาะทางให้เหมาะกับบริบทของแต่ละองค์กร

พร้อมด้วยบริการดูแลระบบหลังการใช้งานอย่างใกล้ชิด ให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจได้ว่า “ระบบจะพร้อมเสมอ” ในทุกช่วงของการเติบโต

ด้วยความใส่ใจที่มีต่อลูกค้า ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เอง ทำให้ I AM Consulting ได้รับรางวัลระดับภูมิภาค จาก SAP South East Asia Partner Success Summit 2025 ถึง 2 สาขา ด้วยกัน ได้แก่
- Best BTP Partner Southeast Asia
- Best Partner of The Year Indochina

และทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ I AM Consulting ในฐานะพาร์ตเนอร์คนสำคัญ ที่เข้าใจธุรกิจไทยได้อย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะพาองค์กรของลูกค้าก้าวไปสู่มาตรฐานระดับโลก อย่างมั่นใจและยั่งยืน..

Reference
- เอกสารประชาสัมพันธ์ I AM Consulting