
สรุปดีเทลน่าสนใจ Hey Gusto ร้านอาหารอิตาเลียนแบรนด์ใหม่ ของ เครือ ไมเนอร์ ฟู้ด
24 ต.ค. 2025
Hey Gusto (เฮย์ กุสโต) คือร้านอาหารอิตาเลียนน้องใหม่ในเครือ ไมเนอร์ ฟู้ด (Minor Food) ที่เข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มพรีเมียม (Premium Segment) โดยเปิดตัวสาขาแรกและสาขาเดียวในไทยอย่างเป็นทางการ ณ ชั้น 6 โซน Beacon ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็น “premium Italian dine-in experience” สำหรับคนที่มองหามื้ออาหารที่มีเรื่องเล่า ความพิถีพิถันของวัตถุดิบ และบรรยากาศอบอุ่นแบบบ้านอิตาเลียนแท้
สิ่งที่น่าสนใจคือ Hey Gusto ไม่ใช่แบรนด์แฟรนไชส์จากต่างประเทศ แต่เป็นแบรนด์ที่ Minor Food พัฒนาเองตั้งแต่ศูนย์ โดยอ้างอิงแรงบันดาลใจจากร้าน Vicoletto Osteria ในสิงคโปร์ แบรนด์ที่ Minor Food สร้างขึ้นมาและสำเร็จในประเทศสิงคโปร์
และส่งทีมไปเทรนทั้งด้าน store design, plate presentation, และสูตรเมนู ก่อนจะปรับให้เข้ากับรสนิยมของผู้บริโภคไทย เช่น ปรับโปรตีนหลัก และลดสมุนไพรบางชนิดที่คนไทยไม่คุ้นเคย ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น

- ทำไมต้องเป็นร้านอาหารอิตาเลียน Hey Gusto
นายอนุพนธ์ นิธิยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แชร์ว่าตลาดอาหารตะวันตกในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ในอีกด้านหนึ่งก็กำลังเข้าสู่ภาวะแมส เมนูพิซซ่า พาสต้า หรือสเต็กกลายเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในร้าน quick service หรือ casual dining
ทำให้แบรนด์ที่ต้องการสร้างความแตกต่างจำเป็นต้องขยับขึ้นไปในระดับของ “ประสบการณ์” แทนที่จะขายเพียง “เมนู”
Hey Gusto จึงถูกวางให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ที่มองหาความเป็น experience-driven dining ไม่ใช่เพียงการทานอาหาร แต่คือการสัมผัสเรื่องราว ความตั้งใจ และรายละเอียดที่อยู่เบื้องหลังจานนั้น ๆ
สำหรับ Minor Food การเปิด Hey Gusto ยังเป็นการ เติมช่องว่างในพอร์ตโฟลิโอ เพราะแบรนด์หลักของเครือส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม mass หรือ value
การมีแบรนด์ที่เน้น premium dining จะช่วยยกระดับ portfolio ทั้งระบบ และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในตลาดที่มีกำลังซื้อสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

- ดีเทลเรื่อง Brand Positioning & Storytelling ของ Hey Gusto
ชื่อ Hey Gusto ถูกออกแบบให้สะท้อนทั้งอารมณ์และความหมายของแบรนด์
คำว่า Hey สื่อถึงความเป็นมิตร อบอุ่น และชวนเข้ามาลอง
ส่วน Gusto ในภาษาอิตาเลียนหมายถึง รสชาติ หรือ ความหลงใหลในการกิน
คำว่า Hey สื่อถึงความเป็นมิตร อบอุ่น และชวนเข้ามาลอง
ส่วน Gusto ในภาษาอิตาเลียนหมายถึง รสชาติ หรือ ความหลงใหลในการกิน
เมื่อรวมกันจึงเกิดเป็น tagline ว่า Where Flavor Says Hello! ประโยคที่เหมือนการต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรสชาติ
อีกหนึ่งหัวใจคือ Brand Story ที่เล่าเรื่อง Nonna Rosa คุณยายชาวอิตาเลียนผู้เป็นแรงบันดาลใจเบื้องหลังเมนูต่าง ๆ ซึ่งทำให้แบรนด์ไม่ได้ขายเพียงอาหาร แต่ขายความทรงจำ เปลี่ยนมื้ออาหารให้กลายเป็นประสบการณ์ที่เชื่อมโยงด้วยอารมณ์และความรู้สึก

- จุดแข็งในการสร้างเมนูให้แตกต่างจากตลาด
Hey Gusto ไม่ได้เริ่มจากเมนูยอดนิยมทั่วไปอย่างพิซซ่าหรือพาสต้า แต่เลือกใช้ Burrata เป็นจานนำ โดยเสิร์ฟถึง 3 รูปแบบ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้ร้านตั้งแต่คำแรกที่ลูกค้าลอง
ต่อมาคือพิซซ่าของร้านเป็นแบบ Pizza Alla Pala พิซซ่าหน้าเหลี่ยมที่เนื้อแป้งคล้าย Focaccia ให้สัมผัสนุ่มฟู เสิร์ฟคู่ Chili Oil สูตรพิเศษ เพื่อเพิ่มความสนุกในการแชร์
ส่วนเมนูเส้นเน้น Fresh Homemade Pasta ใช้แป้งนำเข้าจากอิตาลี มีทั้ง Rigatoni, Ravioli, Spaghetti และ Black Ink Spaghetti
ทุกจานถูกออกแบบให้โชว์ความพิถีพิถันแบบต้นตำรับในราคาที่เข้าถึงได้ (เริ่มต้นเพียง 125 บาท) เพื่อบาลานซ์ระหว่าง premium perception และ accessibility
นอกจากนี้ยังมีเมนูหลักอย่าง Australian Striploin Steak และของหวานอย่าง Tiramisu ที่ตีครีมสดกับ Fresh Mascarpone ถูกวางไว้เพื่อปิดประสบการณ์แบบครบมื้อ ตอบโจทย์ทั้งคอเนื้อและคนรักของหวานสไตล์ fine dining

- Target Customer & Location Strategy
Hey Gusto ถูกวางให้จับกลุ่มลูกค้าหลัก 2 กลุ่มคือ
คนไทยที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนและมีกำลังซื้อ (ประมาณ 50%)
คนไทยที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนและมีกำลังซื้อ (ประมาณ 50%)
และกลุ่มต่างชาติ / expat อีก 50%
โดยตั้งเป้าในระยะยาวว่าจะค่อย ๆ ขยายฐานลูกค้าคนไทย เพื่อสร้างการทานซ้ำให้แบรนด์เติบโตได้ในประเทศ
เหตุผลที่ CentralWorld ถูกเลือกเป็นโลเคชันแรกเพราะเป็น iconic landmark ที่มีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวปะปนกันตลอดวัน รวมถึงอยู่ในโซน Beacon ที่รวบรวมร้านอาหารพรีเมียมระดับบน เหมาะกับการวางตำแหน่งของแบรนด์ในฐานะ Italian Premium Dining ที่เข้าถึงได้
- จุดแข็งและความท้าทาย
จุดแข็งของ Hey Gusto คือความชัดเจนในแบรนด์สตอรี่ เมนูที่แตกต่าง (โดยเฉพาะ Burrata และ Pizza Alla Pala) รวมถึงศักยภาพด้าน operation ของ Minor Food ที่มีทั้งซัพพลายเชน ระบบมาตรฐาน และความชำนาญในการขยายสเกล
อย่างไรก็ตาม การเป็นแบรนด์ใหม่ที่มีเพียงสาขาเดียว ทำให้ Hey Gusto ต้องอาศัยการสื่อสารแบบเจาะจง (niche marketing) และยังต้องรับมือกับ ความคาดหวังของลูกค้ากลุ่มพรีเมียม
ซึ่งมักให้ความสำคัญกับการบริการและคุณภาพในระดับ fine dining อีกทั้งต้นทุนวัตถุดิบและสินค้า import ก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องบริหารอย่างรอบคอบ
ในช่วง 6 เดือนแรก Hey Gusto จะอยู่ในช่วง Data Collection Mode เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า เมนูขายดี และ feedback จากช่องทางออนไลน์ โดยใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวตัดสินแนวทางการขยายสาขาในอนาคต
หากแบรนด์สามารถรักษามาตรฐานการบริการและรสชาติได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมสร้างฐานลูกค้าที่มีการทานซ้ำและพูดถึงในเชิงบวก Hey Gusto อาจกลายเป็นต้นแบบของ curated niche brand ภายใต้เครือ Minor Food ที่ต่อยอดไปสู่โมเดลการขยายใหม่ในอนาคตได้อย่างมั่นคง