
Lucky Suki กำไร 108 ล้านบาท ในปีที่แล้วปีเดียว
26 พ.ค. 2025
-ก่อนหน้านี้ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผู้บริหาร Lucky Suki เชนร้านสุกี้บุฟเฟต์ราคา Net 276 บาท ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่ารายได้ปี 2567 ทะลุ 1,000 ล้านบาท
-วันนี้บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด เจ้าของ Lucky Suki และ Lucky BBQ ได้รายงานงบการเงินของปีที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ
รายได้ 1,015 ล้านบาท กำไร 108 ล้านบาท
รายได้ 1,015 ล้านบาท กำไร 108 ล้านบาท
-Lucky Suki เปิดมาแล้ว 3 ปีกว่า สาขาแรกคือที่ อ่อนนุช พลาซ่า
-เป้าหมายปี 2568 ผู้บริหารบอกว่า ตั้งเป้าจำนวนสาขารวม 36-40 สาขา พูดง่าย ๆ จะขยายสาขาเป็นอีกเท่าตัวภายในปีนี้ โดยยอดขายทั้งปี 2568 นี้ ตั้งเป้า 2,000 ล้านบาท
-ตอนนี้ Lucky มี 2 รูปแบบร้านคือ ร้านสุกี้ คือ Lucky Suki กับร้านปิ้งย่างชื่อ Lucky BBQ
โดย ณ ตอนนี้มี Lucky Suki ทั้งหมด 19 สาขา และ Lucky BBQ ทั้งหมด 8 สาขา รวมเป็น 27 สาขา
โดย ณ ตอนนี้มี Lucky Suki ทั้งหมด 19 สาขา และ Lucky BBQ ทั้งหมด 8 สาขา รวมเป็น 27 สาขา
-การเลือกทำเลเปิดสาขา คือเน้นเปิดในคอมมิวนิตีมอลล์ เพราะอยากให้คนที่มาช็อปตอนกลางวันเห็น และตอนนี้ยังไม่มีแผนจะทำสาขาแบบ Stand alone หรือเปิดแบบเดี่ยว ๆ
-คุณแอน-รสรินทร์ ติยะวราพรรณ หนึ่งในผู้บริหาร Lucky Suki พูดในงาน The Entrepreneur Forum 2025 ของลงทุนแมน ว่า
“เวลาทำอะไร จะไม่ใช้แค่ความรู้สึก แต่ใช้ Data ช่วยวิเคราะห์ ช่วยหาช่องว่างในตลาด”
“เวลาทำอะไร จะไม่ใช้แค่ความรู้สึก แต่ใช้ Data ช่วยวิเคราะห์ ช่วยหาช่องว่างในตลาด”
ตัวอย่าง Data ที่มองเห็น แล้วนำไปพัฒนาคอนเซปต์ของ Lucky Suki ก็อย่างเช่น
ตลาดร้านสุกี้ ชาบู ที่มีขนาดเกิน 400 ตารางเมตร ยังมีไม่มาก เป็นตลาดที่มีผู้เล่นน้อยคนไทยชอบเสี่ยงดวง จึงนำอินไซต์นี้มาออกแบบหมายเลขโต๊ะ โดยใช้คำว่า เลขที่ออก แทนการใช้คำว่าหมายเลขโต๊ะพฤติกรรมคนไทยชอบกินมากกว่าแค่สุกี้ Lucky Suki จึงต้องมีเมนูอื่น ๆ เช่น ของทอด หรือสเลอปีคนไทยชอบรสชาติน้ำจิ้มและซอสประมาณไหน ก็เอาไปพัฒนาเกิดเป็นน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้าน
-มีการทำ Customer Relationship Management (CRM) หรือระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ซึ่งเห็นว่ามีลูกค้ามาสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โดยเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เมมเบอร์มีประมาณ 200,000 คน โตขึ้น 100% จากปีก่อน และเห็นข้อมูลว่ามีกลุ่มลูกค้าระดับ Platinum เพิ่มขึ้นเยอะมาก ความหมายคือ ลูกค้ามาทานถี่ขึ้น
โดยเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เมมเบอร์มีประมาณ 200,000 คน โตขึ้น 100% จากปีก่อน และเห็นข้อมูลว่ามีกลุ่มลูกค้าระดับ Platinum เพิ่มขึ้นเยอะมาก ความหมายคือ ลูกค้ามาทานถี่ขึ้น
-ทีนี้ลองมาดูผลประกอบการย้อนหลัง ของ Lucky Suki
ปี 2565 รายได้ 80 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 409 ล้านบาท กำไร 46 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 1,015 ล้านบาท กำไร 108 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 80 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 409 ล้านบาท กำไร 46 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 1,015 ล้านบาท กำไร 108 ล้านบาท
-เพื่อให้เห็นภาพที่กว้างขึ้น ลองเทียบกับ สุกี้ตี๋น้อย ที่คอนเซปต์โมเดลธุรกิจคล้าย ๆ กัน คือร้านสุกี้ราคา Net 276 บาท ซึ่งถือว่าราคาย่อมเยา
ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ของ สุกี้ตี๋น้อย
ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 5,262 ล้านบาท กำไร 907 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 7,075 ล้านบาท กำไร 1,169 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 5,262 ล้านบาท กำไร 907 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 7,075 ล้านบาท กำไร 1,169 ล้านบาท
-จะเห็นว่า จากตัวเลขปี 2567 ที่ผ่านมา
สุกี้ตี๋น้อย อัตรากำไร = 16.5%
Lucky Suki อัตรากำไร = 10.6%
สุกี้ตี๋น้อย อัตรากำไร = 16.5%
Lucky Suki อัตรากำไร = 10.6%
-แม้ไซซ์ของธุรกิจสุกี้ตี๋น้อย จะใหญ่ Lucky Suki อยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่คล้ายกันคือ การเติบโตของรายได้ ที่ต่อเนื่องมาหลายปี และมีสเกลรายได้หลักพันล้านบาท
-และอีกมุมที่คล้ายกันคือ อัตรากำไร ที่อยู่ในระดับเกิน 10% ทั้งคู่
ซึ่งถ้าคิดว่านี่คือการตั้งราคาในระดับที่ไม่แพง จับกลุ่มแมสมาก ๆ ความสามารถในการทำกำไรที่ตัวเลขเท่านี้ ถือว่าไม่น้อย..
ซึ่งถ้าคิดว่านี่คือการตั้งราคาในระดับที่ไม่แพง จับกลุ่มแมสมาก ๆ ความสามารถในการทำกำไรที่ตัวเลขเท่านี้ ถือว่าไม่น้อย..
Reference
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า