อธิบายโมเดลธุรกิจ เซ็นทรัลรีเทล รายได้ 248,000 ล้าน มาจากอะไรบ้าง ?

อธิบายโมเดลธุรกิจ เซ็นทรัลรีเทล รายได้ 248,000 ล้าน มาจากอะไรบ้าง ?

5 พ.ค. 2024
บมจ.เซ็นทรัลรีเทล หรือ CRC คือเจ้าของ ห้างเซ็นทรัล, ห้างโรบินสัน
และร้านค้าอื่น ๆ ในเครือ อย่าง TOPS, B2S, Super Sports, OfficeMate, Power Buy, ไทวัสดุ, GO Wholesale
ปี 2566 เซ็นทรัลรีเทล มีรายได้รวม 248,688 ล้านบาท กำไร 8,016 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ รายได้ 2 แสนกว่าล้านบาทนี้ ไม่ได้มาจากประเทศไทยอย่างเดียว 
แต่มาจากประเทศอื่น ๆ อย่าง เวียดนามและอิตาลีด้วย
แล้วรายได้และโมเดลธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล มาจากไหนบ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ 
กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล หรือ CRC คือเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้ากว่า 1,897 แห่ง
และศูนย์การค้ากว่า 72 แห่ง ใน 3 ประเทศ ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี
แล้วสิ้นปี 2566 ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าเหล่านี้ มีทั้งหมดกี่สาขาแล้ว ?
1. ในประเทศไทย
เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า
- ห้างเซ็นทรัล 26 สาขา
- ห้างโรบินสัน 50 สาขา
เป็นเจ้าของร้านค้าเฉพาะทาง 
- ร้าน Supersports 114 สาขา
- ห้างไทวัสดุ และ BnB home 81 สาขา
- ร้าน Power Buy 118 สาขา
- ร้าน B2S 141 สาขา
- ร้าน OfficeMate 78 สาขา
- แพลตฟอร์มออนไลน์ meb ตัวแทนจำหน่าย e-book ในประเทศไทย
- ซูเปอร์มาร์เก็ต TOPS, TOPS Food Hall, TOPS Fine Food และ TOPS daily 683 สาขา
- ร้านสุขภาพและความงาม มัทสึโมโตะ คิโยชิ 26 สาขา
- ห้างค้าส่ง GO! Wholesale ที่ขยายสาขากลายเป็น 7 สาขาในปัจจุบัน
- ร้านขายยา TOPS Care 24 สาขา
- ร้านขายอาหารเสริม TOPS Vita 90 สาขา
- ร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง PET’N ME 8 สาขา
เป็นเจ้าของ และบริหารศูนย์การค้า Robinson Lifestyle 28 สาขา
นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล 
ก็ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า แบรนด์ดังจากต่างประเทศอย่าง Calvin Klein, Casio, Dyson, Crocs, Fila, Garmin, Skechers และ Wrangler โดยผ่านบริษัท CMG หรือ Central Marketing Group 
ปัจจุบันเครือ CMG มีร้านค้าแบรนด์เหล่านี้อยู่ในเครือ 
โดยไม่นับเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าทั้งหมด 338 ร้านค้า
2. ในประเทศเวียดนาม 
เป็นเจ้าของร้านค้าเฉพาะอย่าง 
- ร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เหงียนคิม 53 สาขา
- ซูเปอร์มาร์เก็ต TOPS Market 9 สาขา
- ซูเปอร์มาร์เก็ต Mini go! 9 สาขา
- ซูเปอร์มาร์เก็ต ลานซี มาร์ท 24 สาขา
เป็นเจ้าของ GO! ซึ่งเป็นห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ 
คล้าย ๆ Lotus’s และ Big C บ้านเรา มีทั้งหมด 38 สาขา
แถมยังเป็นเจ้าของ และบริหารศูนย์การค้า GO! Mall 38 สาขา
3. ในประเทศอิตาลี
- เป็นเจ้าของ ห้างสรรพสินค้า Rinascente 9 สาขา
สำหรับในปี 2567 นี้ กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ก็มีแผนขยายธุรกิจที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น
- ขยายห้าง GO Wholesale ซึ่งเป็นห้างค้าส่งอาหารแบบครบวงจร 
ปัจจุบันมี 7 สาขา และตั้งเป้าว่าจะมีทั้งหมด 11 สาขาภายในปีนี้
- ขยายห้างไทวัสดุ ซึ่งเป็นห้างค้าเฟอร์นิเจอร์ และวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรเพิ่มอีก 9 สาขา 
จนกลายเป็น 90 สาขาภายในปีนี้
- ขยายห้าง GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนามเพิ่ม จนมี 42 สาขาทั่วประเทศเวียดนามภายในปีนี้..
ทีนี้เราไปดูโครงสร้างรายได้กันบ้าง
รายได้ของกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ทุก ๆ 100 บาท มาจาก
- ประเทศไทย 71 บาท
- ประเทศเวียดนาม 21 บาท
- ประเทศอิตาลี 8 บาท
โดยถ้าแยกรายได้ตามส่วนธุรกิจดู จะแบ่งออกเป็น
1. รายได้จากธุรกิจซื้อมาขายไป
ซึ่งก็คือรายได้จากการขายของในห้าง ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต 221,926 ล้านบาท 
ส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วน 89% ของรายได้ทั้งหมด 
โดยแบ่งเป็น
- ธุรกิจกลุ่มอาหาร อย่างร้าน TOPS และ GO Wholesale รายได้ทั้งหมด 85,155 ล้านบาท (34% ของรายได้รวม)
- ธุรกิจกลุ่มฮาร์ดไลน์ หรือกลุ่มของเครื่องใช้ในบ้านและอาคารสำนักงาน อย่างร้านไทวัสดุ, PowerBuy, OfficeMate และ B2S
รายได้ทั้งหมด 74,192 ล้านบาท (30% ของรายได้รวม)
- ธุรกิจกลุ่มแฟชั่น ซึ่งเป็นรายได้กลุ่มเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น อย่างห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และร้านซูเปอร์สปอร์ต 
รายได้ทั้งหมด 62,579 ล้านบาท (25% ของรายได้ทั้งหมด)
2. รายได้จากค่าเช่าศูนย์การค้า
ซึ่งประกอบด้วยศูนย์การค้า Robinson Lifestyle, Tops Plaza และ GO! Mall ในประเทศเวียดนาม 
ส่วนนี้เป็นรายได้ 7,785 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3% ของรายได้ทั้งหมด
3. รายได้จากบริการศูนย์อาหาร 1,727 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1% ของรายได้ทั้งหมด
4. รายได้อื่น ๆ อย่างเช่น การส่งเสริมการขาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รายได้จากการขนส่งกระจายสินค้า และรายได้จากการลงทุน 
ส่วนนี้เป็นรายได้ 17,250 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7% ของรายได้ทั้งหมด
ซึ่งรายได้จากค่าเช่าศูนย์การค้า และรายได้จากค่าบริการศูนย์อาหาร 
ดูเหมือนจะน้อยกว่า รายได้จากการซื้อมาขายไปมาก ๆ
แต่ถ้าเราไปเปรียบเทียบอัตรากำไรขั้นต้นแล้ว เราก็จะเห็นว่า
- รายได้จากธุรกิจซื้อมาขายไป ทุก ๆ 100 บาท คิดเป็นกำไรขั้นต้น 27 บาท
- รายได้จากธุรกิจศูนย์การค้าและศูนย์อาหาร ทุก ๆ 100 บาท คิดเป็นกำไรขั้นต้น 75 บาท เลยทีเดียว
ซึ่งถ้าเราชำแหละงบการเงินของทั้งบริษัท เราจะเห็นว่า
รายได้ทุก ๆ 100 บาท หักต้นทุนขาย ต้นทุนให้เช่าและบริการ 66 บาท จะเหลือเป็นกำไรขั้นต้น 34 บาท..
และเมื่อหักค่าใช้จ่าย ในการขายและบริการ 28 บาท 
จะเหลือเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 6 บาท
และเมื่อหักดอกเบี้ย และภาษีไปทั้งหมด 3 บาท
ก็จะเหลือเป็นกำไรสุทธิเพียง 3 บาทเท่านั้น
และนี่ก็คือโมเดลธุรกิจของ กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ซึ่งมีธุรกิจหลักเป็นห้างและร้านค้าที่ซื้อมาขายไป
ที่มี รายได้รวม 248,688 ล้านบาท และกำไร 8,016 ล้านบาท
Reference
-รายงานประจำปี 2566 บมจ.เซ็นทรัลรีเทล
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.