กรณีศึกษา HITACHI ตัวพ่อด้านพัฒนา รถไฟความเร็วสูง

กรณีศึกษา HITACHI ตัวพ่อด้านพัฒนา รถไฟความเร็วสูง

2 พ.ค. 2023
กรณีศึกษา HITACHI ตัวพ่อด้านพัฒนา รถไฟความเร็วสูง | BrandCase
หากพูดถึงแบรนด์ HITACHI แน่นอนว่าเราก็จะนึกถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าหนัก ๆ อย่างเช่น ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า
ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างเช่น ลิฟต์ และบันไดเลื่อน
แต่เรารู้หรือไม่ว่า นอกจาก HITACHI จะโดดเด่นในเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว
ก็ยังมีอีกธุรกิจหนึ่ง ที่เรียกว่า HITACHI เป็นตัวพ่อในอุตสาหกรรม
นั่นคือ การผลิตรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูง ชินคันเซ็น (Shinkansen)
ธุรกิจผลิตรถไฟหัวกระสุน ของ HITACHI น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของ HITACHI เริ่มจากคุณ Namihei Odaira
เขาได้ไปทำงาน เป็นวิศวกรที่เหมืองแร่ขุดทองแดงแห่งหนึ่ง ในเมืองฮิตาชิ (Hitachi) ในจังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น
ในระหว่างที่เขาทำงาน เขาได้เห็นว่า เครื่องจักรและอุปกรณ์ทำเหมืองแร่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ
ในช่วงปี 1910 ใช้งานได้ไม่ค่อยดี เสียง่าย
และมันทำให้คนงานส่วนใหญ่ ต้องเสียเวลาไปกับการซ่อมอุปกรณ์ขุดเจาะเหมืองแร่
ตั้งแต่ตอนนั้น คุณ Odaira จึงได้มีแนวคิด อยากทำอุปกรณ์ขุดเจาะ ให้มีความทนทานและใช้งานได้ดี
จึงได้พัฒนา มอเตอร์ขนาดเล็ก 5 แรงม้า สำหรับใช้ขุดเจาะเหมืองแร่ทองแดง
และหลังจากนั้น เขาก็ได้เปิดบริษัท และก่อตั้งแบรนด์ HITACHI ขึ้นในเมือง Hitachi
ซึ่งเขาได้ต่อยอดธุรกิจ ไปเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ใช้มอเตอร์ เช่น พัดลม และกังหันน้ำ
HITACHI ได้ย้ายสำนักงานมาที่โตเกียว ในปี 1918
ซึ่ง HITACHI ก็ได้เริ่มขยายธุรกิจ ไปยังธุรกิจขนส่ง อย่างการผลิตหัวรถจักรไฟฟ้า ได้สำเร็จในปี 1924
และก็ได้ขยายธุรกิจ มาทำอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อย่าง ตู้เย็น ลิฟต์โดยสาร และบันไดเลื่อน
ซึ่งก็ต้องบอกว่าที่ผ่านมา HITACHI ยังได้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟู และพัฒนาประเทศอีกด้วย
อย่างในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (หลังจากปี 1945)
HITACHI ก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น
ด้วยการผลิตสินค้าที่มีความสำคัญ ต่ออุตสาหกรรมในญี่ปุ่น เช่น อุปกรณ์ขุดเจาะเหมืองแร่
รวมไปถึง รถไฟสำหรับบรรทุกถ่านหิน เพื่อขนส่งไปยังโรงไฟฟ้า และอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าต่าง ๆ
ในช่วงทศวรรษ 1950s อุตสาหกรรมในญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัว
จากเดิมที่ HITACHI เน้นการผลิตเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ก็ได้ขยายธุรกิจ ไปเป็นของใช้ภายในบ้านสำหรับคนทั่วไปแทน เช่น เครื่องปรับอากาศ วิทยุ และโทรทัศน์
และ HITACHI ก็ยังเป็นแบรนด์แรกในญี่ปุ่น ที่ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์แอนะล็อกด้วย
ซึ่งนับได้ว่า คอมพิวเตอร์ Made In Japan ตัวแรก ก็คือคอมพิวเตอร์ของ HITACHI นั่นเอง..
และหลังจากนั้น คอมพิวเตอร์ HITACHI ก็ได้ถูกต่อยอด ไปเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่พลิกวงการรถไฟโลกในยุคนั้น
นั่นคือ “ระบบจองตั๋วรถไฟออนไลน์”..
โดยช่วงทศวรรษ 1960s เศรษฐกิจญี่ปุ่นดีขึ้นเรื่อย ๆ
ก็ทำให้ รัฐบาลญี่ปุ่น เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของญี่ปุ่น อย่าง “รถไฟความเร็วสูง”
และเมื่อคนในเมือง เริ่มมาใช้รถไฟมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้มีปัญหาความแออัดตามมา
คือ คนต้องรอเข้าแถวเป็นเวลานาน เพื่อซื้อตั๋วรถไฟกับเจ้าหน้าที่
ทำให้ในตอนนั้น การรถไฟญี่ปุ่น หรือ JNR แก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการร่วมมือกับบริษัท HITACHI เพื่อพัฒนาระบบจองตั๋วโดยสารรถไฟ
ทาง JNR ก็ได้แนะนำให้ HITACHI ลองพัฒนาระบบจองตั๋วที่ทันสมัย ผ่านคอมพิวเตอร์
ซึ่ง HITACHI ก็ได้พัฒนาระบบจองตั๋วต้นแบบขึ้น โดยใช้ชื่อว่า MARS-1
ระบบจองตั๋วรถไฟ MARS-1 ได้เริ่มทดลองใช้ในปี 1960 ซึ่งพนักงานสามารถตรวจสอบที่นั่งว่าง
ทำการจอง และออกตั๋วให้กับผู้โดยสารได้แบบเรียลไทม์
ซึ่งต่อมา HITACHI ก็ได้อัปเดตระบบจองตั๋วเป็น MARS-101 โดยได้ถูกนำไปใช้
ในรถไฟชินคันเซ็นสาย Tokaido Shinkansen ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกของญี่ปุ่น
จนกระทั่งระบบการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ก็ได้ถูกนำไปใช้ ในทุกสถานีรถไฟของญี่ปุ่นในปี 1968
นอกจากระบบการจองตั๋วออนไลน์แล้ว HITACHI ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมออกแบบและพัฒนา รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น หรือรถไฟหัวกระสุนรุ่นแรกกับ JNR
โดยรถไฟหัวกระสุนรุ่นแรก มีชื่อรุ่นว่า The 0 series
ซึ่งนอกจาก HITACHI จะเป็นผู้คิดค้นและผลิตหัวรถไฟรุ่นนี้แล้ว ก็ยังมีผู้ผลิตยานยนต์ค่ายญี่ปุ่นรายอื่น อย่าง Kawasaki Sharyo
ที่เป็นบริษัทลูกของ Kawasaki ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ ที่หลายคนรู้จักดี
และก็ยังมีบริษัทผลิตรถไฟประจำท้องถิ่นในญี่ปุ่น
อย่างเช่น Kinki Sharyo, Kisha Seizo, Nippon Sharyo และ Tokyu Car ร่วมพัฒนาด้วย
ซึ่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น สายแรกของญี่ปุ่น เป็นเส้นทางวิ่งระหว่างเมืองโตเกียว และเมืองโอซากา ได้เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1964
โดยได้เปิดตัวเพียงไม่กี่วัน ก่อนวันจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 18 ที่กรุงโตเกียว
ซึ่งรถไฟหัวกระสุน The 0 series สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นับว่า เส้นทางรถไฟหัวกระสุนสายนี้ เป็นบริการรถไฟความเร็วสูง แบบครบวงจร แห่งแรกของโลก
ซึ่งหลังจากนั้น HITACHI ก็ได้ทำโครงการ เกี่ยวกับรถไฟขนส่งมวลชนเรื่อย ๆ อย่างเช่น
-ทำรถไฟโมโนเรล เชื่อมระหว่างสนามบินฮาเนดะ ไปยังใจกลางกรุงโตเกียว ในปี 1966
-ออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อควบคุม ระบบการจราจร ของรถไฟความเร็วสูง ในปี 1970
-ผลิตรถไฟชินคันเซ็นให้สามารถวิ่งได้ ด้วยความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในปี 1993
-การพัฒนาระบบ ATOS ขึ้นในปี 1996
ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ควบคุมการจราจร สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงโตเกียวที่มีหลายสาย ให้สามารถเดินรถได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น
ซึ่งปัจจุบัน รถไฟฟ้า 20 กว่าสาย ที่ให้บริการ โดยบริษัทเดินรถไฟมากมายหลายเจ้า ในกรุงโตเกียว
ต่างก็ถูกควบคุมการเดินรถ โดยระบบ ATOS ที่ HITACHI ได้พัฒนาขึ้น
ปัจจุบัน HITACHI ก็ยังคงเป็นผู้ผลิตรถไฟชินคันเซ็นเจ้าหลัก และรถไฟขนส่งมวลชนต่าง ๆ ให้กับผู้ให้บริการรถไฟในประเทศญี่ปุ่น
โดยรถไฟหัวกระสุน รุ่นล่าสุดที่ HITACHI ได้ร่วมพัฒนาและผลิต คือรุ่น ALFA-X
ALFA-X ได้เปิดตัวในปี 2019 สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการทดลองวิ่ง
ซึ่งรถไฟหัวกระสุนรุ่นนี้ ก็มีผู้ผลิต 2 เจ้า คือ HITACHI และ Kawasaki
นอกจากนี้ HITACHI ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้พัฒนา Maglev รถไฟความเร็วสูง ที่วิ่งได้โดยใช้แรงสนามแม่เหล็ก
โดยรถไฟความเร็วสูง Maglev นี้ สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วมากกว่า 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งมากกว่ารถไฟชินคันเซ็นแบบเดิม
และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเส้นทางระหว่างเมืองโตเกียว และเมืองนาโกยะ ได้ในปี 2027
และก็ต้องบอกว่า HITACHI ไม่ใช่แค่เป็นผู้นำ ในอุตสาหกรรมรถไฟในประเทศเท่านั้น
แต่ HITACHI ก็ยังได้ผลิตและติดตั้ง รถไฟความเร็วสูงและรถขนส่งมวลชน ส่งออกไปกว่า 38 ประเทศทั่วโลก
รวมถึงประเทศอังกฤษ ที่ในอดีต เคยได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับรถไฟ ให้กับญี่ปุ่นด้วย..
มาถึงตรงนี้ ก็พอจะสรุปได้ว่า
แบรนด์ HITACHI ที่หลายคนรู้จักกันดี ว่าโดดเด่นในเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า
และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ลิฟต์ และบันไดเลื่อน
แต่ HITACHI ก็ยังคงมีอีกธุรกิจหนึ่ง ที่โดดเด่น และเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของทุกคน
นั่นคือ ธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟ
นอกจากนี้ HITACHI เองก็ยังเป็นส่วนหนึ่ง ของการพัฒนารถไฟเจ้าแรก ๆ ในญี่ปุ่น
อย่างการผลิตหัวรถจักร และการทำระบบการจองตั๋วออนไลน์ ได้เป็นเจ้าแรกของโลก
และ HITACHI เองก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ในการสร้างรถไฟหัวกระสุนรุ่นแรก
ซึ่งสามารถผลักดันประเทศญี่ปุ่นให้ผงาดบนเวทีโลกได้ ตั้งแต่เมื่อ 60 ปีก่อน..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เส้นทาง รังสิต-ตลิ่งชัน ก็ใช้รถไฟฟ้าของ HITACHI เช่นเดียวกัน..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.