กลยุทธ์ Boost Juice ทำอย่างไร ให้คนสนใจ น้ำผัก-ผลไม้ปั่น

กลยุทธ์ Boost Juice ทำอย่างไร ให้คนสนใจ น้ำผัก-ผลไม้ปั่น

14 ธ.ค. 2022
กลยุทธ์ Boost Juice ทำอย่างไร ให้คนสนใจ น้ำผัก-ผลไม้ปั่น | BrandCase
พอพูดถึงน้ำผัก-ผลไม้ปั่น ยิ่งถ้าเป็นในสมัยก่อน คงจะไม่ใช่เครื่องดื่มที่เด็ก ๆ หรือวัยรุ่นชอบกันสักเท่าไร 
เพราะหลายคนจะมองว่ามันรสชาติไม่อร่อยบ้าง ขมไปบ้าง หรือบางคนก็ไม่ชอบทานผัก-ผลไม้บ้าง 
แต่ตอนนี้ก็มีร้านน้ำผลไม้ปั่นอยู่ร้านหนึ่ง 
ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย รวมไปถึงประเทศต่าง ๆ ในยุโรป และล่าสุดก็ได้มาเปิดสาขาในไทย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา 
ซึ่งกลุ่มลูกค้าของร้านนี้นั้น ไม่ได้มีแค่กลุ่มคนรักสุขภาพ แต่ยังรวมไปถึงเด็กเล็ก และวัยรุ่นด้วย 
ร้านที่ว่านี้ก็คือ Boost Juice
แล้ว Boost Juice ทำอย่างไร ให้เครื่องดื่มน้ำผัก-ผลไม้ปั่น ที่หลายคนมองว่ารสชาติไม่อร่อย กลายเป็นที่นิยมได้ 
BrandCase จะสรุปให้อ่านกันแบบง่าย ๆ เป็นข้อ ๆ
1. ทำรสชาติให้อร่อย ทานง่าย ๆ
ก่อนจะกลายมาเป็น Boost Juice ที่สามารถครองใจคนไปทั่วโลก ผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Janine Allis มีความตั้งใจว่า เธออยากหาอาหารทานง่าย ๆ ที่ให้พลังงานกับลูกของเธอ เวลาที่ออกไปข้างนอก 
ซึ่งนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว มันจะต้องสะดวกด้วย โดยสามารถถือกินได้ง่าย ๆ 
และเธอมั่นใจว่าจะมีคนที่มีความคิดคล้าย ๆ กันกับเธออีกหลายคน 
และด้วยจุดเริ่มต้นที่มาจากลูก ของคุณ Allis นั่นเอง ทำให้ Boost Juice มีความใส่ใจในเรื่องรสชาติมาก ว่าต้องทานง่าย และอร่อย
ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับของการมีรสชาติที่ดี ก็คือการใช้ผักและผลไม้ ที่ไม่ใส่สารกันบูด ไม่แต่งกลิ่น และไม่ใช้สีสังเคราะห์
2. เน้นความหลากหลายของเมนู ให้คนซื้อไม่รู้สึกจำเจ
แน่นอน ถึงแม้ว่า Boost Juice จะเคลมว่าตัวเองนั้น เป็นร้านน้ำปั่นสำหรับคนรักสุขภาพ แต่ Boost Juice เอง ก็ไม่ได้มีแค่น้ำผัก-ผลไม้ปั่นล้วน ๆ เพียงอย่างเดียว 
และ Boost Juice เชื่อว่า คำว่าสุขภาพดีของแต่ละคน อาจจะไม่เหมือนกัน 
บางคนบอกว่า น้ำตาลอาจจะไม่ดีต่อร่างกาย แต่ความจริงแล้ว น้ำตาลเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ 
ดังนั้นคุณ​ Allis จึงมีทางเลือกของเครื่องดื่มในร้านให้เลือกหลากหลายมาก
นอกจากเครื่องดื่มอย่างผักและผลไม้ปั่นทั่วไป ๆ แล้ว ทาง Boost Juice ก็ยังมีน้ำปั่นรูปแบบอื่น ๆ ให้เลือกหลากหลาย มีทั้งแบบเครื่องดื่มผัก-ผลไม้ผสมโปรตีน สำหรับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ 
หรือน้ำผัก-ผลไม้ ที่มีช็อกโกแลตผสมอยู่ สำหรับคนที่ชอบรสช็อกโกแลต เช่น เมนู KING WILLIAM CHOCOLATE 
อีกทั้งยังมีหมวดอื่น ๆ ให้เลือกอีก เช่น หมวดเครื่องดื่มไม่ผสมนม, เครื่องดื่มไม่ผสมกลูเตน, เครื่องดื่มไขมันต่ำ ซึ่งทั้งสามหมวดนี้ จะมีปริมาณแคลอรีไม่เกิน 300 แคลอรี 
3. การตลาดที่ดี และมีการทำให้ดูแบบสด ๆ  
เวลาเราไปเห็นร้าน Boost Juice แม้แต่ในประเทศไทยเอง จุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งของร้านเลยคือ จะเอาบริเวณที่พนักงานกำลังผสมส่วนผสมต่าง ๆ แล้วปั่น มาไว้ด้านหน้าร้านให้เห็นกันไปเลย
ซึ่งจะต่างกับบางร้าน ที่พยายามซ่อนในส่วนนี้ หรือไม่ให้เราเห็นเท่าไรนัก 
การทำให้เห็นกันสด ๆ แบบนี้ ก็น่าจะช่วยทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า เมนูเครื่องดื่มนั้นมีความสดใหม่ และดูน่าทานมากขึ้น 
และก็เหมือนได้ดูขั้นตอนการทำต่าง ๆ ในระหว่างรอเครื่องดื่มอีกด้วย 
นอกจากนี้ Boost Juice ก็เคยมีการพยายามทำการตลาด เพื่อขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภค 
อย่างเช่น ในช่วงเริ่มต้น Boost Juice ต้องการเป็นทางเลือกสำหรับคนที่เร่งรีบ แต่ต้องการหาอะไรดื่มที่มีประโยชน์ อิ่มท้อง ให้พลังงาน ดีต่อสุขภาพ และที่สำคัญสะดวกด้วย 
ซึ่งในช่วงแรกต้องบอกว่า มีคู่แข่งอยู่ในตลาดไม่น้อย แต่ Boost Juice ก็พยายามทำให้คนหันมาสนใจแบรนด์มากขึ้น 
เช่น การแถม ​​Protein Ball หรือขนมที่อัดแน่นด้วยโปรตีน ฟรี สำหรับลูกค้าที่มาสั่งเมนู Brekkie ในช่วงก่อน 11 โมง ก็ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการในช่วงเช้าได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสาเหตุว่า ทำไม Boost Juice ถึงได้กลายเป็นแบรนด์ร้านขายน้ำผัก-ผลไม้ ที่ประสบความสำเร็จ และสามารถขยายสาขาไปได้ในหลายประเทศ
โดยปัจจุบัน Boost Juice มีสาขากว่า 600 สาขา ใน 15 ประเทศทั่วโลก 
ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับของการขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งก็มาจากการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ 
เพราะว่าบริษัท ไม่จำเป็นต้องมาลงทุน ขยายสาขาด้วยตัวเอง..
References
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.