กรณีศึกษา โฆษณาเครื่องฟิต สตาร์ตติดง่าย ที่ใช้มาแล้ว 28 ปี

กรณีศึกษา โฆษณาเครื่องฟิต สตาร์ตติดง่าย ที่ใช้มาแล้ว 28 ปี

17 ส.ค. 2022
กรณีศึกษา โฆษณาเครื่องฟิต สตาร์ตติดง่าย ที่ใช้มาแล้ว 28 ปี | BrandCase
เชื่อว่าใครหลายคน คงเคยได้ยินโฆษณาของน้ำมันเครื่องที่ว่า
“ต้น ๆ รถเป็นอะไรอะ ? รถเสียสตาร์ตไม่ติดเลย ทำไมไม่ใช้น้ำมัน 2TDD ล่ะ
เดี๋ยวนี้เขาใช้แต่ไดเกียวกันทั้งนั้นแหละ เพราะใช้แล้ว เครื่องฟิต สตาร์ตติดง่าย”
โฆษณาดังกล่าว มักจะมาช่วงพักเบรก ระหว่างรายการมวยไทย 7 สีเป็นประจำ
รู้ไหมว่ามันถูกใช้มาแล้วถึง 28 ปี แถมทุกวันนี้ ก็ยังใช้อยู่เลย..
แล้วใครกัน ที่เป็นเจ้าของบริษัท กับวลีเด็ดตัวนี้ ?
BrandCase จะเล่าเคสนี้ให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
สำหรับเจ้าของแบรนด์น้ำมันเครื่องไดเกียวก็คือ บริษัทไดเกียวออยล์ และบริษัท เอเซียออยล์
โดยทั้งคู่ เป็นบริษัทที่มีคณะกรรมการที่แทบจะเป็นชุดเดียวกันเลย
โดย ไดเกียวออยล์ มีคณะกรรมการดังนี้
- คุณถกล ติงธนาธิกุล
- คุณธนพล ชูสร้อยปิ่น
- คุณสมภพ ติงธนาธิกุล
- คุณพิชญะ ติงธนาธิกุล
- คุณจุฬาภรณ์ ชูสร้อยปิ่น
ในขณะที่ทางเอเซียออยล์ จะมีคณะกรรมการเหมือนกับทาง ไดเกียวออยล์
แต่จะไม่มี คุณพิชญะ ติงธนาธิกุล
โดยมี คุณนิธิภา ติงธนาธิกุล เข้ามาแทน
จะเห็นว่าทั้ง ไดเกียวออยล์ และ เอเซียออยล์ จะมีรายชื่อคณะกรรมการ
ที่มาจาก 2 ตระกูลเท่านั้น คือ ครอบครัวติงธนาธิกุล และ ครอบครัวชูสร้อยปิ่น
โดยไดเกียวออยล์ มีจุดประสงค์หลักในการทำธุรกิจ คือ การขายส่งเชื้อเพลิงแข็ง
ในขณะที่ทาง เอเซียออยล์ จะมีหน้าที่ในการขายส่งผลิตภัณฑ์ ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม
สำหรับน้ำมันเครื่องไดเกียว จะถูกจัดจำหน่ายโดย บริษัท เอเซียออยล์ จำกัด เป็นหลัก
โดย ไดเกียวออยล์ จดทะเบียนก่อตั้งในปี 2525
และทาง เอเซียออยล์ จดทะเบียนก่อตั้งในปี 2513
รู้ไหมว่านอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ ที่เป็นน้ำมันเครื่องแล้ว ไดเกียวก็ยังมี
- น้ำมันเกียร์
- น้ำมันไฮดรอลิกอเนกประสงค์
- จาระบี
- น้ำมันเบรก
และน้ำยาระบายความร้อนหม้อน้ำ
ซึ่งผลิตภัณฑ์ของทางไดเกียวก็ครอบคลุม ทำให้สามารถใช้ได้กับรถทุกชนิด
ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงรถแทรกเตอร์ และรถตักที่ใช้ในการเกษตร ก็ยังสามารถใช้ได้
แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่ แต่รายได้ก็ไม่ได้เก่าแก่ หรือล้าหลังแต่อย่างใด เพราะหากเรามาดูผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัท
เริ่มจาก ไดเกียวออยล์
ปี 2558 รายได้ 287 ล้านบาท กำไร 26 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 332 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท
ในขณะที่ทาง เอเซียออยล์ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายหลัก ก็มีงบการเงินที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน
ปี 2558 รายได้ 289 ล้านบาท กำไร 49 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 450 ล้านบาท กำไร 56 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าเจ้าของไดเกียว ยังเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีตลอดช่วงที่ผ่านมา
แถมทั้งคู่ก็ยังถือว่า มีความสามารถในการทำกำไร ค่อนข้างสูง
หากอ้างอิงจากผลประกอบการในปี 2564
ไดเกียวออยล์ มีอัตรากำไรสุทธิ 15%
ในขณะที่ทางเอเซียออยล์ ก็มีอัตรากำไรสุทธิ 12%
นอกจากนั้น อีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทั้ง 2 บริษัท ทำธุรกิจโดยแทบจะไม่ได้กู้ยืมอะไรเลย
- ไดเกียวออยล์ มีทรัพย์สิน 315 ล้านบาท มีหนี้สิน 19 ล้านบาท
- เอเซียออยล์ มีทรัพย์สิน 333 ล้านบาท มีหนี้สิน 19 ล้านบาท เท่านั้น
ซึ่งหากเราเทียบทรัพย์สินและหนี้สิน ของทั้ง 2 บริษัท ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปี 2564
จะพบว่าทั้งคู่ มีทรัพย์สินที่เติบโตขึ้น ในขณะที่ในส่วนของหนี้สินก็ลดลง
นั่นจึงทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้น เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และเมื่อโฆษณาตัวเรือธง กับสโลแกนเครื่องฟิตสตาร์ตติดง่าย เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคมาตลอดหลายสิบปีแล้ว
บริษัทจึงไม่จำเป็นต้องลงทุนทำแคมเปญการตลาด หรือก็คือต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดเพิ่มเติมมากนัก
ซึ่งก็สอดคล้องกับ ค่าใช้จ่ายในการขาย ของบริษัท ไดเกียวออยล์ ที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี
และบริษัท เอเซียออยล์ ที่ประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี คงที่ในระดับนี้มาโดยตลอด
หมายความว่า ยิ่งไดเกียวขายผลิตภัณฑ์ได้มากเท่าไร
บริษัทก็จะยิ่งได้กำไรเยอะขึ้นทันที
เรื่องราวของไดเกียวก็ถือเป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ในเชิงของการคิดแคมเปญการตลาดให้ติดหู หรือให้เป็นภาพจำในสายตาของผู้บริโภค ยิ่งเราทำออกมาได้ดีเท่าไร มันก็จะยิ่งส่งผลดีต่อบริษัทมากเท่านั้น
ซึ่งจริง ๆ แล้ว แคมเปญการตลาดของทุกธุรกิจ
ก็นับเป็นใบเบิกทางให้ผู้บริโภคได้ลองใช้
และหากการสื่อสารของเรา ตรงกับคุณภาพสินค้าที่เราผลิตขึ้น
ผู้บริโภคก็จะอยู่กับเราและจดจำเราได้ จนสมองมันสามารถตอบได้ทันที
แค่ขึ้นต้นด้วย “ต้น ๆ รถเป็นอะไรอะ ?” ก็รู้เลยว่าต้องต่อด้วย “ไดเกียว เครื่องฟิต สตาร์ตติดง่าย” ทันที..
References
-https://datawarehouse.dbd.go.th/fin/balancesheet/5/0105513005998
-https://datawarehouse.dbd.go.th/fin/balancesheet/5/0115525000252
-https://www.asiaoil.co.th/
-https://www.youtube.com/watch?v=KllaaE9PpMM
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.