ถอดแนวคิด 45 ปี Central Pattana – แบรนด์ที่ทำให้ “ผู้คนและธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน

คุณโตมากับเซ็นทรัลช่วงเวลาไหน?
คำถามง่าย ๆ แต่สะท้อน Insight สำคัญ เพราะทุกคนล้วนมี “ช่วงเวลา” บางอย่างที่เชื่อมโยงกับเซ็นทรัลในแบบของตัวเอง และนี่ทำให้ Central Pattana กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ไทยที่ผู้คนรู้สึกเหมือน “เราโตมาด้วยกัน”

ในโอกาสครบรอบ 45 ปี เราจึงเห็นแบรนด์หยิบ “ความภูมิใจที่ได้พัฒนา” มาถ่ายทอดผ่านมุมมองของผู้คน มากกว่าการเล่าเรื่องของตัวแบรนด์เอง เป็นการเล่าเรื่องแบบ People-First Storytelling ที่ทำให้แคมเปญครบรอบในครั้งนี้มีพลังและ “ทัชใจ” เป็นพิเศษ

Authentic Moments ที่ Engaging Hearts: กลยุทธ์ที่ทำให้คนทั้งประเทศอิน #โตมากับเซ็นทรัล

ตลอดปีนี้ Central Pattana ใช้กลยุทธ์ดึงเรื่องจริงจากผู้คน ทั้งลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน มาขยายเป็น “Brand Narrative” อย่างแนบเนียน ผ่านกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม

หนึ่งในไฮไลต์คือ นิทรรศการ ‘45 Years of Better Futures’ – Shared Journey Exhibition ที่ Groove Gallery Walk ซึ่งเล่าเรื่อง “ภูมิใจที่ได้พัฒนา” ผ่านมุมความทรงจำและความสุขที่เกิดขึ้นในทุกสาขาของเซ็นทรัล

กระแส Organic Engagement เกิดขึ้นทันที—คนทำงาน นักช้อป นักท่องเที่ยว เดินผ่านแล้วอดหยุดแชร์ประสบการณ์ไม่ได้ จน “Real Moment Wall” เต็มไปด้วยความทรงจำที่คนร่วมกันสร้างขึ้นจริง ๆ

และยิ่งก่อนหน้านี้ เมื่อทุกเพจของศูนย์การค้าชวนตั้งคำถาม “คุณโตมากับเซ็นทรัลสาขาไหน?” ก็ยิ่งตอกย้ำ Narrative ว่าเซ็นทรัลคือ “ศูนย์กลางการใช้ชีวิต” ของผู้คนทุกเจเนอเรชันในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต โดยสร้าง User Generated และ Engagement บนโซเชียลทุกแพลตฟอร์มของศูนย์การสร้างเซ็นทรัลทุกสาขา และสร้าง Impact ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมแชร์ประสบการณ์หลากหลายเรื่องราวที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ สะท้อนภาพการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้คนในทุกช่วงวัยและทุกช่วงเวลาของชีวิต นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดในการสะท้อนโมเมนต์จริงของลูกค้า เรื่องราวความสุข สร้าง Memory Bump กับความทรงจำดีๆ

ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่เติบโต แต่ร้านค้าและผู้ประกอบการก็เติบโตไปกับเซ็นทรัล

อีกหนึ่ง Narrative ที่น่าสนใจคือ เซ็นทรัลไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ของลูกค้าที่มาใช้ชีวิต แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของผู้ประกอบการไทยจำนวนมาก ในมุมของ “ผู้ประกอบการ” หรือธุรกิจต่างๆ หลายแบรนด์ในไทยก็ล้วนมีจุดเริ่มต้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล

เพราะเมื่อใดก็ตามที่มี “เซ็นทรัล” ไปเปิด สัญญาณของ “เมือง” จะเริ่มต้นขึ้นทันที ตรงนี้เองที่ทำให้ เซ็นทรัลพัฒนา มีบทบาทมากกว่าแค่ผู้พัฒนาศูนย์การค้าอย่างเดียว แต่คือ “นักพัฒนา” ผู้สร้างหัวใจของเมืองที่รวมผู้คน ธุรกิจ และสังคมเข้าไว้ด้วยกัน และนี่คือวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร เซ็นทรัลพัฒนา ตั้งแต่ยุคบุกเบิก “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” One-Stop Lifestyle Destination และโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกของกรุงเทพฯ และประเทศไทย

หากเรามองย้อนกลับไปเมื่อ 45 ปีที่แล้ว “คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์” ผู้บริหารผู้บุกเบิกเซ็นทรัล ลาดพร้าว ได้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเห็น “ทำเลแห่งอนาคต” จึงได้สร้างศูนย์การค้าที่มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้ารวมอยู่ในอาคารเดียวกัน พร้อมด้วยวัฒนธรรมการช้อปปิ้งใหม่ให้คนกรุงเทพฯ รวบรวมสินค้าและไลฟ์สไตล์ทุกอย่างไว้ในที่เดียว

และที่สำคัญคือ การสร้างโอกาสให้ร้านค้าและธุรกิจต่างๆ มีการออกแบบร้านค้าให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อให้คนที่ต้องการทำการค้าอย่างจริงจังได้มีพื้นที่ในการทำธุรกิจ คุณสัมฤทธิ์ยังดูแลเอาใจใส่ ให้ความเห็นและช่วยเหลือคู่ค้าอยู่เสมอ ทำให้ “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” กลายเป็นศูนย์การค้าที่มีประสบการณ์แปลกใหม่เป็น “แห่งแรก” มากมาย รวมถึงกลายเป็นที่ตั้งของเชนร้านอาหารชื่อดังสาขาแรกในประเทศไทยหลายร้าน อาทิ A&W, KFC, MK, Swensens หรือ Bar B Q Plaza เป็นต้น

และวิสัยทัศน์ของการเติบโตไปกับลูกค้า...และการร่วมมือไปกับร้านค้าพันธมิตร เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ธุรกิจยังคงเป็น DNA สำคัญที่เราเห็นได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกสาขามาจนถึงทุกวันนี้

Brand Film ที่สื่อสารความรู้สึกแท้จริงของ Ecosystem แห่งโอกาส

ในโอกาสครบรอบ 45 ปี แบรนด์สื่อสาร message ที่ชัดเจนมาก “ภูมิใจที่ได้พัฒนา...เพราะความสุขของคุณ คือความภูมิใจของเรา”

โดยเล่าเรื่องผ่านภาพ Brand Film ถ่ายทอดเรื่องราวและทุกโมเมนต์ที่มีความหมายของผู้คนที่อยู่ใน Ecosystem ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่มาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในศูนย์การค้า พนักงานที่ทำงาน, ร้านค้ารอบ ๆ ศูนย์การค้า เพื่อเป็นพื้นที่ที่ผู้คนได้มาใช้ชีวิตและมีความสุข รวมถึงยังเป็น “พื้นที่แห่งโอกาส” สำหรับทุกคน

“เราดีใจเสมอ ที่เห็นร้านค้าขายดี รู้สึกเอาใจช่วย เวลาที่เห็นใครสักคนทำสิ่งใหม่ ๆ...และเราตั้งใจจะพัฒนาเพื่ออนาคตที่ดี ที่จะเห็นผู้คนได้ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยโอกาส”

สำหรับผู้เช่า เซ็นทรัลไม่ใช่เพียง “ให้พื้นที่ค้าขาย” แต่เป็น “Business Partner” ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเพื่อให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยกันในระยะยาว นี่คือ Core Messaging ที่ทรงพลัง เพราะเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้จากความเชื่อมั่นของแบรนด์ต่าง ๆ ที่ขยายสาขาไปพร้อมกันทุกครั้งที่เซ็นทรัลเปิดโครงการใหม่

จากการประกาศแผนงาน จะเห็นว่าเซ็นทรัลพัฒนา ลุยกลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development เต็มสูบ ในกรุงเทพฯ เองเตรียมผุดเมกะโปรเจ็กต์หลายแห่ง และที่เมืองศักยภาพต่างๆ ก็จะทยอยได้เห็นโครงการมิกซ์ยูสที่ไม่เพียงพาคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ กระจายไปยังจังหวัดต่างๆ แน่นอนว่าต้องพกพาอิมแพคด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตามไปด้วย

อีกมุมหนึ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจในการสื่อสารผ่าน Brand Film คือการเล่าเรื่องเล็กๆ ที่มีความหมายรอยยิ้มของ พี่วินมอเตอร์ไซค์, รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ประกอบอาชีพอยู่รอบ ๆ บริเวณด้านนอกศูนย์การค้า สะท้อนให้เห็นว่า เซ็นทรัลพัฒนา คิดและมองไปถึงการเติบโตแบบครบทุกมิติ

จากศูนย์กลางของเมือง สู่ผู้นำการพัฒนาเมืองในอนาคต

ภายใต้ยุทธศาสตร์ Retail-Led Mixed-Use Development เซ็นทรัลพัฒนากำลังผลักดันโครงการระดับ “เมกะโปรเจกต์” ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองศักยภาพทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากจะยกระดับไลฟ์สไตล์แล้ว ยังสร้างอิมแพคต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของผู้คนในวงกว้าง

หาก Connect the Dots ตั้งแต่ ลาดพร้าว ราชประสงค์ ปริมณฑล เมืองต่างๆ จังหวัด จะเห็นเส้นทางการเติบโตที่ทำหน้าที่เหมือน “Strategic Rings ของการเชื่อมเมืองและผู้คนเข้าด้วยกัน”

ใจกลางเมืองมี CentralWorld ที่เป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ฝั่งสีลมมี Central Park ที่เพิ่งสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และวันนี้... ถึงเวลาที่เซ็นทรัลพัฒนาจะบุกเบิก New Milestone สำคัญของเมือง ด้วยโครงการ The Central พหลโยธิน แลนด์มาร์กแห่งอนาคต ที่จะพลิกโฉมกรุงเทพฯ ตอนเหนือให้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ New CBD ซึ่งมีศักยภาพสูงทั้งในด้านทำเลและกำลังซื้อ โดยจะเป็นการปั้นโครงการ ที่จะยกระดับมาตรฐานรีเทลของกรุงเทพฯ พร้อมดึงดูดแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลก

The Central Phahonyothin – The Flagship of the Future

ความสำเร็จของ centralwOrld ในฐานะแฟลกชิประดับเอเชีย เป็นหลักฐานชัดเจนถึงศักยภาพของเซ็นทรัลพัฒนา และ “The Central” คือการต่อยอดความสำเร็จนี้ไปสู่บทใหม่ของการพัฒนาเมือง

“The Central จะเป็นแรงขับเคลื่อนยุคใหม่ พร้อมยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นหนึ่งในมหานครที่สำคัญโลก”

ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Flagship-Reimagined Destination” โครงการถูกออกแบบให้ตอบโจทย์แบรนด์ระดับโลกและแฟลกชิพสโตร์ในเชิงสากลทั้งด้านสถาปัตยกรรมและประสบการณ์การใช้งานนี่คือแลนด์มาร์กใหม่ที่จะยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ตอนเหนือและวางฐานให้เกิด New CBD ที่แท้จริง

สุดท้ายแล้ว “ความภูมิใจที่ได้พัฒนา” ของเซ็นทรัลพัฒนาไม่ได้อยู่เพียงในแลนด์มาร์กที่สร้างขึ้น แต่อยู่ในรอยยิ้มของผู้คนที่มาใช้ชีวิตในพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อยู่ในการเติบโตของร้านค้าที่เริ่มต้นจากสาขาแรกสู่ความสำเร็จ และอยู่ในการเปลี่ยนแปลงของเมืองที่ดีขึ้น เพราะมีเซ็นทรัลพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางนั้น

ทุกความทรงจำ ทุกเรื่องราว และทุกโอกาสที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่แบรนด์ได้พัฒนามาตลอด 45 ปี คือแรงบันดาลใจให้เห็นถึงบทต่อไปของการสร้างอนาคตที่งดงามขึ้นสำหรับทุกคนที่เติบโตไปพร้อมกับเซ็นทรัลพัฒนา

Reference : ข้อมูลโดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)