ส่องความเป็นที่สุด Central Park แลนด์มาร์กระดับโลกแห่งใหม่ เตรียมเปิดยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง 4 กันยายน นี้

ส่องความเป็นที่สุด Central Park แลนด์มาร์กระดับโลกแห่งใหม่ เตรียมเปิดยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง 4 กันยายน นี้

18 ก.ค. 2025
ถ้าถามว่าในปีนี้ ศูนย์การค้า แห่งไหนในเมืองไทย ที่คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวทั่วโลก ต่างเฝ้ารอคอยการเปิดตัวมากที่สุด 
Central Park น่าจะเป็นคำตอบยอดนิยมอันดับหนึ่ง
เพราะนี่คือศูนย์การค้าที่ใช้ชื่อแบรนด์ใหม่ใน Portfolio ของ เซ็นทรัล พัฒนา และมีสถานะเป็นแบรนด์ระดับ Flagship ที่ประกอบด้วยศูนย์การค้าและออฟฟิศ Premium Grade A
โดย Central Park จะตั้งอยู่ในโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่ Dusit Central Park ที่มีทั้งโรงแรม, ศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน ฯลฯ บนทำเลที่มีศักยภาพสูงสุดในกรุงเทพฯ “แยกศาลาแดง” ที่มีถนนสีลมตัดกับถนนพระราม 4 เชื่อมทั้ง BTS และ MRT
เหตุผลนี้เองที่ทำให้ เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มทั้งเงินทุนมหาศาลและศาสตร์การสร้างศูนย์การค้าที่สั่งสมมานาน 45 ปี เพื่อให้ Central Park กลายเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ
ด้วยการคัดสรรรวบรวม “ที่สุด” ในทุก ๆ ด้านจากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่ในศูนย์การค้าแห่งนี้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการพัฒนาศูนย์การค้านานถึง 6 ปี เพื่อให้ทุกอย่างออกมา “ดีที่สุด”  
แล้วการรอคอยที่ยาวนานก็สิ้นสุดลง เมื่อทางเซ็นทรัลพัฒนาประกาศอย่างเป็นทางการว่า Central Park จะเปิดบริการในเฟสแรกในวันที่ 4 กันยายน ปีนี้ และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเฟส 2 ช่วงเดือน พฤศจิกายนในปีนี้ เช่นกัน  
โดย Central Park จะเป็นศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน ที่มีแนวคิดการดิไซน์ ผสานชีวิตเมืองเข้ากับธรรมชาติที่สวยงาม เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมืองยุคนี้ โดยอยู่บนที่ดิน 23 ไร่ มีพื้นที่ศูนย์การค้า 130,000 ตร.ม. มีแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยและแบรนด์ระดับเวิลด์คลาส มารวมกันที่นี่
Central Park จึงไม่ใช่แค่ศูนย์การค้า Flagship ของทาง เซ็นทรัลพัฒนา อย่างเดียว
แต่..ยังเป็นศูนย์การค้า Flagship ระดับประเทศที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก 
หลายคนคงอยากจะรู้ว่า Central Park ที่จะเปิดบริการเฟสแรก เร็ว ๆ นี้ มีอะไรบ้างที่ Wow และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งนักช็อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก 
BrandCase จะพาไปสำรวจความเป็นที่สุดของ Central Park ด้วยข้อมูลที่ได้รวบรวมมา
รู้หรือไม่ ประเทศไทยเราจะมีพาร์กระดับโลก โดยอยู่บนชั้น 7 ของศูนย์การค้า Central Park ที่เรียกว่า Roof Park เป็นสวนลอยฟ้าใจกลางกรุงเทพฯ ขนาดใหญ่สุดในเมืองไทย ที่มีพื้นที่ถึง 7 ไร่ เทียบชั้นพาร์กระดับโลกอย่าง Central Park ในมหานครนิวยอร์ก หรือ Hyde Park ในมหานครลอนดอน ลองคิดดูว่าเมื่อเราอยู่บนชั้น 7 ของ Central Park นอกจากจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังมองเห็นวิวพาโนรามิกมุมกว้างย่านใจกลางกรุงเทพฯ
ทีนี้ลองมาดูในส่วนศูนย์การค้า ว่ามีอะไรที่น่าตื่นเต้นและเป็น “ที่สุด” กันบ้าง 
1. FOOD AS ART & CULTURE 
เวลาเราไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล สิ่งแรก ๆ ที่นึกถึงคือ แหล่งรวมร้านอาหารอร่อย ๆ อีกทั้งยังมีหลายร้านเลยทีเดียวที่เปิดสาขาเฉพาะศูนย์การค้าเซ็นทรัล
Central Park จึงเลือกที่จะวาง Positioning เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมอาหารแห่งใหม่ในเอเชีย ที่จะคัดสรรรวบรวมร้านอาหารชื่อดังทั้ง Michelin Guide ร้านจากต่างประเทศ รวมถึง Street Food เจ้าดังหลายร้านในกรุงเทพฯ ที่จะมาเปิดเมนูความอร่อยใน Central Park รวมไปถึงยังมีโซน Coffee-Tea-Sweets ที่รวมของหวานและเครื่องดื่มครบครัน 
ที่น่าตื่นเต้น คือ มีหลายร้านอาหารชื่อดังจากต่างประเทศ เลือกมาเปิดสาขาแรกใน Central Park ส่วนจะเป็นแบรนด์อะไรบ้าง คงต้องรอไปสำรวจเองในวันเปิดตัวศูนย์การค้า  
2. CURATED EXPERIENCE 
อีกหนึ่งเทรนด์การแข่งขันของศูนย์การค้าในยุคนี้คือ “สร้างประสบการณ์” ที่หาไม่ได้จากที่อื่น เพื่อใช้เป็นแม่เหล็กในการดึงดูดผู้คนให้มายังศูนย์การค้า Central Park เข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง
ทำให้มีการคัดสรรเทรนด์ระดับโลกและประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมืองยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ศิลปะ, วัฒนธรรม, ดนตรี, กาแฟ ตัวอย่างเช่น Fit on the Roof เวิร์กช็อปฟิตเนส สไตล์เอกซ์คลูซิฟจากแบรนด์ชั้นนำ, Coffee & Conversations, ฟังดนตรีพร้อมวิว Roof Park ยามเย็น 
3. NATURE CONNECTION 
นอกจากสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่พูดถึงไปแล้ว ในศูนย์การค้าแห่งนี้ยังดิไซน์ด้วยแนวคิด Biophilic Design ที่จะมีพื้นที่พักใจที่เชื่อมโยงผู้คนกับธรรมชาติ เช่น Wellness Trails เส้นทางเดิน-วิ่งในบรรยากาศธรรมชาติ, Outdoor Amphitheatre พื้นที่กลางแจ้งสำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วมของคอมมิวนิตีต่าง ๆ รวมไปถึงยังมีโซน Pet-Friendly Parks โซนสีเขียวสำหรับคนรักสัตว์ 
4. CITY-INTEGRATION
ด้วยทำเลที่ตั้ง “สี่แยกศาลาแดง” ที่เปรียบเสมือน “หัวใจธุรกิจกรุงเทพฯ” อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่ในแต่ละวันจะมีผู้คนเดินทางผ่านจุดนี้ จำนวนมาก 
Central Park จึงถูกคิดมาเพื่อเชื่อมโยงชีวิตคนเมืองให้สมบูรณ์แบบ โดยมีทั้งพื้นที่ Co-working Space, กิจกรรม Community Engagement ที่เน้น Wellness Integration, พร้อมด้วยโซน Grab & Go ที่มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายในสไตล์ “หยิบ-จ่ายเงิน” ที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตของคนเมืองทั่วโลก พร้อมกับมีช็อปมากมายที่มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เร่งรีบ 
ส่วนใครที่ชอบใช้ชีวิต Slow Life ก็จะมี Day-to-Night Lifestyle ทั้งจิบกาแฟยามเช้าหรือจิบไวน์ยามเย็น ให้ดื่มด่ำสุนทรีย์ของชีวิตได้อย่างมีความสุข  
ส่วนอีกไฮไลต์ที่ต้องพูดถึงนั้น คือโซนอาคารสำนักงาน เพราะนี่คือธุรกิจที่โดดเด่นของกลุ่ม เซ็นทรัลพัฒนา ที่มีอัตราการเช่าพื้นที่มากกว่า 90% จากพื้นที่ทั้งหมด 
โดย Central Park จะมีการแบ่งพื้นที่เป็นโซนอาคารสำนักงานให้เช่า ที่มีทั้งดิไซน์สุดโมเดิร์น พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำตอบโจทย์คนทำงานออฟฟิศยุคใหม่ในตัวเมือง ที่ต้องการความสะดวกสบาย 
ต้องบอกว่าทั้งหมดเป็นข้อมูลที่ทาง BrandCase รวบรวมมาเท่านั้น
เชื่อว่า ยังมี “ที่สุด” อีกหลาย ๆ อย่างที่จะสร้างความตื่นเต้นให้เราได้สัมผัสอย่างคาดไม่ถึง
เพราะ Central Park ไม่ใช่ศูนย์การค้าธรรมดาทั่วไป แต่ถูกวางตำแหน่งทางการตลาด ให้เป็นแลนด์มาร์กระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน
Reference 
- ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.