
แจก Sheet ช่วยคำนวณ ตั้งราคาสินค้า ให้ได้ %กำไร ตามต้องการ ไม่ว่าต้นทุนจะเท่าไร ด้วย “Markup Pricing” กับ “Margin Pricing”
15 ต.ค. 2025
- Markup Pricing = การตั้งราคาขายโดยเอาต้นทุนตั้งต้นมาเป็นฐาน แล้วบวกเปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการเมื่อเทียบกับต้นทุนลงไป เพื่อให้ได้ราคาขายสุดท้ายออกมา
สูตรตั้งราคาขายแบบ Markup Pricing คือ
ราคาขาย = ต้นทุน + (ต้นทุน × เปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ)
ราคาขาย = ต้นทุน + (ต้นทุน × เปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ)
โดยเปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ ให้เทียบกับ 1 เช่น 30% = 0.3 หรือ 50% = 0.5
สมมติว่าเราเปิดร้านขายชาเขียว มีต้นทุนต่อแก้วอยู่ที่ 50 บาท
ถ้าใช้วิธีตั้งราคาขายแบบ Markup Pricing โดยต้องการกำไร 50% ของต้นทุน
วิธีคิดราคาขายคือ 50 + (50 x 0.5) = 75 บาท
วิธีคิดราคาขายคือ 50 + (50 x 0.5) = 75 บาท
หรือถ้าสมมติต้นทุนชาเขียวต่อแก้ว 50 บาท
ถ้าอยากได้กำไร 30% เพิ่มไปจากต้นทุน
เราก็ต้องตั้งราคาขาย 50 + (50 x 0.30) = 65 บาท
ถ้าอยากได้กำไร 30% เพิ่มไปจากต้นทุน
เราก็ต้องตั้งราคาขาย 50 + (50 x 0.30) = 65 บาท
- Margin Pricing = การตั้งราคาขายที่เริ่มต้นจากการ ตั้งเป้าหมายกำไร ว่าต้องการให้กำไรคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขาย
สูตรตั้งราคาขายแบบ Margin Pricing คือ
ราคาขาย = ต้นทุน / (1 − เปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ)
ราคาขาย = ต้นทุน / (1 − เปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ)
และเหมือนเดิม คือเปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ ให้เทียบกับ 1 เช่น 30% = 0.3 หรือ 50% = 0.5
ถ้าใช้ Margin Pricing และเราตั้งเป้าว่ากำไรต้องเป็น 50% ของยอดขายชาเขียวต่อแก้ว
วิธีคิดราคาขายต่อแก้ว ก็จะเป็น 50 / (1 - 0.5) = 100 บาท
วิธีคิดราคาขายต่อแก้ว ก็จะเป็น 50 / (1 - 0.5) = 100 บาท
หรือถ้าสมมติต้นทุนชาเขียวต่อแก้ว 50 บาท
ถ้าอยากได้อัตรากำไร 30% จากราคาขาย
เราก็ต้องตั้งราคาขาย 50 / (1 - 0.30) = 71.4 บาท
ถ้าอยากได้อัตรากำไร 30% จากราคาขาย
เราก็ต้องตั้งราคาขาย 50 / (1 - 0.30) = 71.4 บาท
จะเห็นว่าไม่ว่าเคสไหน เราก็จะได้อัตรากำไร เทียบกับ ราคาขาย ตามตัวเลขที่ต้องการ
และเราจะเห็นว่า แม้กำไรที่ต้องการจะอยู่ในอัตราที่เท่ากัน แต่ 2 วิธีนี้ จะคิดออกมา ได้ราคาขายที่ไม่เท่ากัน
เพราะว่า วิธี Markup Pricing ต้องคิดอัตรากำไร เทียบกับต้นทุน
ส่วนวิธี Margin Pricing ต้องคิดอัตรากำไร เทียบกับราคาขาย
ซึ่ง 2 วิธีนี้ ก็ไม่ได้มีแบบไหน ดีกว่ากัน หรือแย่กว่ากัน อยู่ที่ว่าเราเลือกจะมองมุมไหนมากกว่า
อ่านถึงตรงนี้ จะพอเข้าใจคอนเซปต์ของการตั้งราคาทั้ง 2 แบบนี้แล้ว คราวนี้เราลองมาซ้อมตั้งราคาสินค้ากันดีกว่า..
BrandCase สร้างชีตไว้ให้ ผูกสูตรตั้งราคาทั้ง 2 แบบนี้ไว้ให้แล้ว พร้อมมีคู่มือการใช้งานให้ด้วย
กดลิงก์ในนี้ แล้วเข้าไปลองซ้อมตั้งราคากันได้เลย
https://docs.google.com/spreadsheets/d/13tdihX9ZIcE-gnU1TitQF-7CfEKILl-C/copy?gid=246076603#gid=246076603
กดลิงก์ในนี้ แล้วเข้าไปลองซ้อมตั้งราคากันได้เลย
https://docs.google.com/spreadsheets/d/13tdihX9ZIcE-gnU1TitQF-7CfEKILl-C/copy?gid=246076603#gid=246076603