วิธีตั้งราคาขาย ให้ไม่ขาดทุน และคิดสินค้าใหม่ ให้ขายดี ไอเดียจาก คุณแวว White Story

วิธีตั้งราคาขาย ให้ไม่ขาดทุน และคิดสินค้าใหม่ ให้ขายดี ไอเดียจาก คุณแวว White Story

22 ก.ย. 2025
คุณแวว-วาศิณี สุรชาติชัยฤทธิ์ ผู้ก่อตั้ง White Story เล่าเทคนิคการทำธุรกิจน่าสนใจไว้เยอะมาก ในรายการ DAY BUILD ของลงทุนแมน ดูแล้วจะถอดไอเดียไปใช้ได้เยอะ
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก White Story แบรนด์นี้เป็นร้านขายอาหารกล่อง เบเกอรี และเครื่องดื่ม แบบ Grab & Go ตอนนี้มีมากกว่า 100 สาขา ตั้งอยู่ตามห้าง คอมมิวนิตีต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
วิธีการพัฒนาสินค้าใหม่ ให้ออกมาแล้วขายดี
รวมถึงแนวคิดการคำนวณต้นทุน เพื่อเอามาตั้งราคาขายให้ไม่ขาดทุน ของเจ้าของ White Story เป็นอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
-การคิดสินค้าใหม่ ให้ขายดี ต้องดูเทรนด์ และดูว่าความต้องการตลาด มีมากพอไหม
คุณแววแชร์ว่า
“ถ้ามีแค่เทรนด์ แต่ไม่มีความต้องการ หรือมีไม่มาก จะยังไม่นำมาโฟกัสทำเป็นสินค้า ต้องดูให้ครบทั้งเทรนด์โลก และความต้องการของคนไทย”
โดยเกณฑ์การเลือกเมนูใหม่ของคุณแววมี 4 ข้อสำคัญ
-ต้องเป็นเทรนด์ที่เข้าได้กับพฤติกรรมของลูกค้าในประเทศไทย
-ต้องทำรสชาติถูกใจคนไทยได้
-มีความต้องการจากตลาด ที่มากพอ
-หากสินค้ามีแค่เทรนด์แต่ไม่มีความต้องการ หรือมีไม่มาก จะยังไม่นำมาโฟกัสหรือไม่ทำ
ตัวอย่างสินค้าที่ผ่านเกณฑ์นี้ และออกมาเป็นสินค้าใหม่ของ White Story ก็อย่างเช่น Shio Pan หรือขนมปังเกลือ
และไดฟูกุไส้ช็อกโกแลตดูไบ ที่ใช้พิสตาชิโอและเส้นคูนาฟา เนื่องจากทาง White Story มีข้อมูลว่า ลูกค้าชอบ Texture หรือเนื้อสัมผัสนุ่ม ๆ ยืด ๆ ของไดฟูกุ
กลยุทธ์นี้ทำให้ White Story สามารถพัฒนาสินค้าได้หลากหลายจาก เค้กกับกาแฟในยุคแรก ไปเป็นขนมปังในหมวดเบเกอรี
เช่น ฟอคคาเซีย (ขนมปังน้ำมันมะกอกสไตล์อิตาลี) และขนมปังไส้กรอก
รวมไปถึงเมนูข้าวกล่องที่มีเมนูตั้งแต่ผัดกะเพราไปจนถึงข้าวหน้าแซลมอน และเครื่องดื่มต่าง ๆ จนมีสินค้าเกือบ 300 SKU ในปัจจุบัน
-วิธีตั้งราคาขาย ให้ไม่ขาดทุน และได้กำไรตามต้องการ
หลักการตั้งราคา จะเริ่มจากการคำนวณต้นทุนวัตถุดิบของแต่ละเมนู ให้ละเอียด
จากนั้นเอาไปประเมินคู่กับ Retail Selling Price (RSP) หรือก็คือ “ราคาขายปลีกหน้าร้าน” ที่ทาง White Story ตั้งใจอยากจะให้เป็น
ราคาขายปลีกหน้าร้านของ White Story ก็จะเน้นราคาเข้าถึงง่าย เช่น กล่องละ 60-70 บาท และโปรโมชัน 2 กล่อง 100 บาท
การมีข้อมูล 2 ขานี้ชัดเจน จะทำให้รู้ว่า
1.สินค้ากล่องนี้ ควรอยู่ในช่วงราคาเท่าไร 60 บาท หรือ 70 บาท เพื่อให้ขายในราคาขายปลีกหน้าร้าน แล้วทางแบรนด์ยังได้อัตรากำไรตามต้องการ และลูกค้าก็ได้สินค้าคุณภาพดี
2.สินค้ากล่องนี้ ควรมีปริมาณเท่าไร เพื่อคุมต้นทุน ให้ขายในราคาขายปลีกหน้าร้าน แล้วทางแบรนด์ยังได้อัตรากำไรตามต้องการ และลูกค้าก็ได้สินค้าคุณภาพดี
เช่น หากต้นทุนสูงเกินราคาขายปลีกหน้าร้านที่ตั้งไว้ เช่น 60-70 บาทต่อกล่อง หรือ 2 กล่อง 100 บาท
แบรนด์จะเลือกปรับลดจำนวนชิ้นหรือขนาดสินค้าในกล่องลง ในระดับที่ลูกค้ายังแฮปปี้ แทนที่จะลดคุณภาพวัตถุดิบ
วิธีคิดนี้ทำให้ลูกค้ายังคงได้สินค้าที่ดี และใช้วัตถุดิบคุณภาพตามมาตรฐานของแบรนด์
ส่วนแบรนด์ ก็ควบคุมต้นทุนได้ ขายไปไม่ขาดทุน เพราะคำนวณต้นทุนมาแล้วอย่างดี
สรุปแล้ว Win-Win กันทั้ง 2 ฝ่าย ..
และปิดท้ายด้วยข้อมูลน่าสนใจ
ผลประกอบการ บริษัท โซดา น้ำชา จำกัด เจ้าของแบรนด์ White Story
ปี 2565 รายได้ 166 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 395 ล้านบาท กำไร 49 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 599 ล้านบาท กำไร 68 ล้านบาท
ใครอ่านจบแล้วอยากฟังคุณแวว เจ้าของ White Story เล่าเรื่องธุรกิจสนุก ๆ ได้สาระดี ๆ แบบนี้ต่อ
ดูได้ที่ รายการ DAY BUILD EP. 27 ตอน White Story ทำอย่างไร โตไว 100 สาขา รายได้ 800 ล้าน กดดูได้ที่ลิงก์นี้ https://www.blockdit.com/posts/68ca5a696b515917c1cf4853
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.