
“Sitcom Model” วิธีเล่าเรื่องยาว ให้คนดูจบ ในยุคคนติดวิดีโอสั้น ไอเดียจาก คุณวิชัย Salmon House
22 ก.ย. 2025
คุณวิชัย มาตกุล จาก Salmon House มาแชร์เรื่องนี้ในงาน MARKETING CONFERENCE 2025
Sitcom Model ที่คุณวิชัยเล่าให้ฟัง เป็นแบบไหน ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
สมัยนี้คนนิยมดูคลิปสั้นกันเป็นปกติ สั้นคือหมายถึง 15 วินาที หรือไม่เกิน 1 นาที ซึ่งกลายเป็นรูปแบบใหม่ที่โฆษณาของหลาย ๆ แบรนด์ ก็พยายามทำออกมากัน
คุณวิชัย แชร์ว่า ปัญหาสำคัญของโฆษณาแบบคลิปสั้น คือข้อจำกัดด้านเวลา
อย่างหนังโฆษณา 15 วินาที ที่มักมีข้อมูลจำนวนมากเกินกว่าจะสื่อสารได้ครบ
คุณวิชัย จึงเกิดการทดลองรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Sitcom Model”
แนวคิดคือการนำ ซิตคอม ซึ่งปกติถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิง มาปรับใช้เป็น แพลตฟอร์มการขาย และดึงให้คนอยู่กับคอนเทนต์ได้นาน
โดยสร้างเนื้อเรื่องที่สนุก มีตัวละครน่าสนใจ แต่แทรกสินค้าจริงเข้าไปเป็นเส้นเรื่องหลัก
ตัวอย่างเช่น การทำซิตคอมที่เล่าเรื่องบริษัทโฆษณา ในเรื่องมีการพูดถึงสินค้าสมมติชื่อ “มามะ” แต่จริง ๆ แล้วคือการขายสินค้าจริงอย่าง “มาม่า”
การเล่าเรื่องในรูปแบบนี้ช่วยให้ผู้ชมอินกับเนื้อหา โดยไม่รู้สึกว่ากำลังถูกบังคับให้ดูโฆษณามากไป
ผลลัพธ์ที่ได้คือ บางวิดีโอ คนดูสามารถอยู่กับคอนเทนต์ได้นานถึง 17 นาที และยังรู้สึกสนุกไปกับเรื่องราว
นี่คือจุดที่แตกต่างจากโฆษณาสั้น ที่ยัดข้อมูลเยอะ ๆ ไม่เหลือเรื่องราวตรงอื่นให้ใส่ จนผู้ชมปิดหนี
คุณวิชัยมองว่า ซิตคอม จะเป็นทางออกสำหรับแบรนด์ที่ต้องการพื้นที่เล่าเรื่อง
โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการการอธิบายรายละเอียด ต้องเล่าเรื่องราว ซึ่งโฆษณาสั้น ๆ แบบ Single Mind Message หรือใช้คำเดียวอธิบายสินค้า ไม่สามารถตอบโจทย์ได้
อีกเรื่องที่สำคัญคือ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์มหาศาล การทำเพียงแค่เรียกร้องความสนใจ (Attention) หรือสร้างการรับรู้ (Awareness) อาจไม่เพียงพอ
แบรนด์ต้องสร้าง Engagement คือทำให้คนดูอินกับแบรนด์ มีส่วนร่วมกับแบรนด์ และต่อยอดเรื่องราวไปจนถึงจุดขายได้จริงด้วย
พูดง่าย ๆ คือ สื่อสารให้มีมิติมากขึ้นกว่าขายตรง ๆ
แล้วเทคนิคการทำคอนเทนต์ แบรนด์ หรือคนทำคอนเทนต์ ต้องพูดอะไร ทำอย่างไรให้ลูกค้าอิน ?
คำตอบตรง ๆ ก็คือ เข้าใจผู้บริโภค หรือคนดู “ในเชิงลึก”
เรื่องนี้มี คุณดมิสาฐ์ องค์ศิริวัฒนา จาก Sour Bangkok มาร่วมแชร์กับ คุณวิชัย Salmon House ด้วยว่า
หากเข้าใจสิ่งที่อยู่ใจลึก ๆ ของกลุ่มคนดู ผู้บริโภคมากพอ จะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่เขาอิน ได้อย่างถูกจังหวะและมีประสิทธิภาพ
ในทางกลับกัน ถ้าไม่ได้เข้าใจลึกจริง การพยายามเล่นกับกระแส เช่น การใช้มีมหรือวัฒนธรรม มีมในอินเทอร์เน็ต มาเล่นแบบไม่รู้บริบท อาจกลายเป็นความเด๋อ ไม่เข้าที่เข้าทาง จนทำให้เสียโอกาสมากกว่าจะได้ใจคนดูหรือลูกค้า
ตัวอย่างวิธีสร้างความเข้าใจที่ว่าคือ เข้าไปดูโลกที่พวกเขาอยู่จริง ๆ
เช่น หากอยากเล่นมีม ก็ควรเข้าไปอยู่ในพื้นที่มีม เห็นรูปแบบการเล่าเรื่อง เข้าใจอารมณ์ขัน และวิธีที่ผู้คนสื่อสารกันในนั้น
หรือหากอยากสื่อสารกับกลุ่มคนชอบแอนิเมชัน ก็ต้องเข้าไปเสพ เข้าไปอยู่ในคอมมิวนิตี เข้าไปดูสื่อแอนิเมชันที่ลูกค้ากลุ่มนี้สนใจ ไม่ใช่อ่านเอาแค่ผิว ๆ พอให้เข้าใจเรื่อง
อีกหนึ่งกุญแจสำคัญ คือการพึ่งพาคนรุ่นใหม่ในทีมการตลาด ที่เข้าใจพฤติกรรมและวัฒนธรรมดิจิทัล เพราะพวกเขาใกล้ชิดกับสิ่งที่ผู้บริโภคยุคนี้เสพจริง ๆ
พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าอยากสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มไหน ก็ต้องเข้าไปดูสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนั้นเสพ ให้เข้าใจลึกจริง
เพื่อจะได้พูดกับคนดู กับลูกค้า ในภาษาที่ถูกใจ และตรงใจมากที่สุด
#MKTCON2025