เรียนรู้แนวคิด “Better Futures Project” จากเซ็นทรัลพัฒนา กับอิเวนต์รถพุ่มพวงไฟฟ้าสร้าง Move ทั่วประเทศ สื่อสารแบรนด์ยั่งยืนให้เข้าใจและเข้าถึงทุกคน

ถ้าถามว่าศูนย์การค้าไหน ที่คนไทยผูกพันและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
“เซ็นทรัล” น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่เรานึกถึง เพราะนี่คือศูนย์การค้าที่อยู่คู่คนไทยมานาน 45 ปี มีสาขาทั่วประเทศ และในปีนี้จะมีครบ 44 สาขา

เมื่อแบรนด์ เซ็นทรัลพัฒนา ใกล้ชิดกับคนไทยมากขนาดนี้ ทำให้ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา แนวทางของ เซ็นทรัลพัฒนา นอกจากขยายธุรกิจและพัฒนาศูนย์การค้าให้เป็น “Centre of Life” หรือ “ศูนย์กลางการใช้ชีวิต” ของผู้คน ที่เป็นมากกว่าสถานที่ช็อปปิง แต่ยังมอบประสบการณ์ดี ๆ คอยสร้างความสุขทุกครั้งให้แก่ผู้มาเยือน

นั่นคือภาพความรู้สึกที่เรามีต่อศูนย์การค้าอันดับหนึ่งในเมืองไทย แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนอาจไม่รู้มาก่อน นั่นคือ เซ็นทรัลพัฒนา เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่สร้างความยั่งยืนให้แก่ประเทศไทยในหลากหลายมิติ

รู้หรือไม่ว่า.. ตลอดเวลา 45 ปี ที่ผ่านมา บริษัทแห่งนี้มี Project มากมายที่เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คนในสังคมจนถึงชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ

เหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ มาจากที่ทาง เซ็นทรัลพัฒนา เชื่อว่า ทุก ๆ อย่างที่อยู่ในวงจรธุรกิจจะต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กันอย่างยั่งยืน หรือที่เรียกว่า The Ecosystem for All

โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่โลกมีอุณหภูมิเดือดขึ้นเรื่อย ๆ โดยเพิ่มขึ้นปีละราว ๆ 0.6-0.9 องศาเซลเซียส

ความน่าสนใจคือ แม้ เซ็นทรัลพัฒนา จะปรับตัวเข้าสู่การดำเนินธุรกิจคาร์บอนต่ำในหลายมิติ พร้อมลงทุนจัดตั้งบริษัท “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” เพื่อลดการปล่อย CO2 อย่างจริงจัง เช่น ติดตั้ง Solar Rooftop ผลิตไฟฟ้าสะอาดเพิ่มขึ้นรวมกว่า 35 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมกันกว่า 68 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 1.8% ของกำลังการผลิตโซลาร์ทั้งประเทศ

แต่ที่น่าสนใจคือ “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” ยังคอยหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อผลิตพลังงานสะอาดให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุก ๆ โครงการของ เซ็นทรัลพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้า, ออฟฟิศสำนักงานให้เช่า และโรงแรม พร้อมมีแผนต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ในอนาคต นั่นคือ การเป็นผู้ให้บริการพลังงานสะอาดแก่บริษัทอื่น ๆ

ทั้งหมดนี้เพื่อให้ เซ็นทรัลพัฒนา ก้าวสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)
ภายในปี 2050 นั่นเอง

ความน่าสนใจคือ ภารกิจนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พนักงานในองค์กร อย่าลืมว่าปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นวันนี้ มันไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันได้ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ทั่วโลก นั่นหมายถึงทุก ๆ คนต้องร่วมมือกัน

ทำให้เราเห็นโครงการ “Better Futures Project” ของทาง เซ็นทรัลพัฒนา ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 โดยปีนี้ใช้แนวคิด (RE) Lifestyle Roadshow รักษ์โลก | รักชุมชน ที่เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน กระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับภารกิจช่วยลดโลกร้อนและสร้างความยั่งยืนในสังคม

โดยไฮไลต์ของงานนี้ ต้องยกให้ รถกระบะรักษ์โลกสไตล์รถพุ่มพวง ที่สื่อถึงการเข้าไปหาชุมชนของเซ็นทรัลพัฒนาที่ใกล้ชิดขึ้น และไม่ได้รอให้ลูกค้าเข้ามาหา ด้วยไอเดียสุดชิค ที่ใครเห็นก็อยากจะทำความรู้จักและสัมผัสกับรถคันนี้ไม่มากก็น้อย

เพราะนอกจากการตกแต่งรถกระบะไฟฟ้าคันนี้ให้มีรูปลักษณ์สะดุดตา เป็นมากกว่ารถธรรมดาทั่วไป จนกลายเป็น “อิเวนต์เคลื่อนที่” ที่จะเดินทางไปยัง 5 ภูมิภาคใน 6 จังหวัด ผ่านสถานที่สำคัญมากมาย เพื่อเล่าเรื่องสภาวะโลกร้อนและความยั่งยืนพร้อมกิจกรรมมากมาย ที่จะอยู่ในรูปแบบเข้าใจง่าย ๆ แฝงไปด้วยความสนุก

เป็นทริกการสร้างแรงบันดาลใจที่แนบเนียน แต่สามารถทำให้คนทั่วไปตื่นตัวและเข้าใจคำว่า “ความยั่งยืน” เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ใคร ๆ ก็ทำได้

อีกทั้งยังมีสารพัดกิจกรรมมาบิลด์ความสนุกที่แฝงไปด้วยไอเดียเจ๋ง ๆ เช่น

- การปรับรถเป็นแพลตฟอร์มค้าขายรูปแบบใหม่ ๆ ช่วยสร้างรายได้สไตล์ Green Entrepreneurs
- เมื่อร่วมเล่นเกมต่าง ๆ กับรถในงานจะได้รับของรางวัลอื่น ๆ ที่สื่อถึงการรักษ์โลก รักชุมชน

เชื่อว่าเบื้องหลังรถกระบะไฟฟ้าพุ่มพวงคันนี้ น่าจะทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์ ที่จะเป็นการเดินทาง Road Show ใน 6 ศูนย์การค้า นั่นคือ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล เชียงใหม่, เซ็นทรัล นครสวรรค์, เซ็นทรัล โคราช, เซ็นทรัล จันทบุรี และ เซ็นทรัล กระบี่

โดยจะเดินทางจากเหนือจรดใต้ มีระยะทาง 2,000 กิโลเมตร โดยระหว่างการเดินทาง จะแวะชาร์จไฟฟ้าในศูนย์การค้า เซ็นทรัล ซึ่งมีกว่า 40 สาขา กว่า 600 จุดชาร์จที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

เป็นการตอกย้ำว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พร้อมเป็นหนึ่งพื้นที่ ในการสนับสนุนสังคมไทยให้มุ่งหน้าสู่ Zero Carbon Lifestyle หรือ การใช้ยานพาหนะพลังงานสะอาด เพื่อการเดินทางและท่องเที่ยวทั่วไทย เพื่อโลกและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ทำให้ภารกิจการเดินทาง “อิเวนต์เคลื่อนที่” ของรถกระบะไฟฟ้าพุ่มพวงคันนี้ เมื่อเทียบกับรถบรรทุก 6 ล้อเครื่องยนต์สันดาป จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ได้ถึง 355 KG เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 16 ต้น

ขณะเดียวกันในโครงการ “Better Futures Project” ยังมีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ลุ้นรับทุนการศึกษาที่มีมูลค่ารวมกัน 100,000 บาท โดยจะมีการแข่งขันประกวดคลิปสั้นจากนั้นก็แชร์ VDO เป็นสาธารณะผ่าน TikTok และ/หรือ Facebook ตามกติกาการสมัคร โดยกิจกรรมนี้เป็นการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ

ขณะที่อีกมิติหนึ่ง เซ็นทรัลพัฒนา ที่อยู่ในสถานะเบอร์หนึ่งในธุรกิจศูนย์การค้าเมืองไทย ทำให้มีแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ไทยต่างมาเปิดร้านผ่านศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ

“ทำไม เราถึงไม่ชวนคู่ค้ามาสร้างสิ่งดี ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้โลกใบนี้ยั่งยืน”

ตรงนี้เองที่ทำให้เกิดโครงการ Green Partnership ที่ได้รับความร่วมมือจาก 165 แบรนด์ ที่รวมกันจะมีถึง 2,656 สาขาทั่วประเทศ ที่จะมาร่วมกันช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้มากถึง 4,374,397 กิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือคิดเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 217,144 ตัน

นับเป็นกรณีศึกษา ที่น่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อในช่วงที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินว่าหลายบริษัทต้องการก้าวสู่การเป็นองค์กร Net Zero พร้อมปรับเปลี่ยนธุรกิจในหลายมิติเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยมีพนักงานทุกระดับเป็นคนขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย

เซ็นทรัลพัฒนาเอง แม้จะขับเคลื่อนตามแนวคิดนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างนั้น คือความเชื่อที่ว่า ความยั่งยืนเป็นไลฟ์สไตล์ที่อยู่ใกล้ตัว ไม่ได้จำกัดแค่ในรูปแบบบริษัท

แต่หมายถึงทุก ๆ คนบนโลกใบนี้ ต้องร่วมมือกัน ด้วยการ Re Lifestyle ปรับไลฟ์สไตล์เปลี่ยนโลกใบนี้ไปพร้อม ๆ กัน

References : 
- ข่าวประชาสัมพันธ์และข้อมูล บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
- https://www.marketthink.co/43237