โมเดลรายได้ NSL เจ้าของแซนด์วิชอบร้อน ใน 7-Eleven 9 เดือนแรกปีนี้ ทำเงิน 4,200 ล้าน

หลายคนชอบทานแซนด์วิชอบร้อน ใน 7-Eleven เพราะซื้อสะดวก อร่อย แถมราคาไม่แพงด้วย
ซึ่งรู้หรือไม่ว่า NSL เจ้าของแซนด์วิชอบร้อน ใน 7-Eleven นี้ เป็นอีกธุรกิจที่เติบโตน่าสนใจมาก ในช่วงที่ผ่านมา

NSL หรือ บมจ.เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์
ผู้ผลิตแซนด์วิชอบร้อน เบเกอรีรองท้อง เน้นส่งขายให้กับร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven

บริษัทเพิ่งรายงานงบการเงินในช่วง 9 เดือนแรก ของปี 2567

-รายได้ 4,209 ล้านบาท +21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

-กำไร 394 ล้านบาท +70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยโมเดลรายได้ของ NSL ในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2567 ทุก ๆ 100 บาท มาจาก

- รายได้จากแซนด์วิช เบเกอรี อาหารและขนมรองท้อง ที่รับจ้างผลิตให้กับ CPALL และขายใน 7-Eleven = 87.3 บาท

- รายได้จากสินค้าของแบรนด์ในเครือ NSL อย่าง ข้าวแท่ง และขนม Snacks ต่าง ๆ และสินค้าที่ซื้อมาขายไป = 6.5 บาท

- รายได้จาก Food Services = 4.8 บาท

- รายได้อื่น ๆ เช่น รายได้จาก OEM = 0.7 บาท

- รายได้ค่าสิทธิ์แฟรนไชส์ (เช่น แฟรนไชส์ร้านข้าวแท่ง) = 0.2 บาท

- รายได้อื่น ๆ = 0.5 บาท

จะเห็นว่า โมเดลรายได้ของ NSL เกือบ 90% มาจากการรับจ้างผลิตสินค้า ส่งขายให้กับเครือ CPALL เจ้าของ 7-Eleven

และบริษัทบอกสาเหตุที่รายได้ของ NSL เพิ่มมากขึ้น หลัก ๆ ก็เนื่องมาจาก

- ทางคู่ค้า นั่นคือ CPALL ได้เน้นขายสินค้าผ่านช่องทาง Delivery มากขึ้น และมีการเล่นโปรโมชัน จับคู่ลดราคามากขึ้น จึงทำให้ยอดขายแซนวิชเพิ่มมากขึ้น

- สินค้าของแบรนด์ในเครือ NSL และสินค้าที่ซื้อมาขายไป มียอดขายที่ปรับตัวสูงมากขึ้น
เพราะได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และออกบูทอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าในงวดก่อน

- นอกจากนี้ทาง NSL ก็ยังบอกว่า สามารถควบคุมต้นทุนหลักสำหรับการผลิต อย่างเช่น ต้นทุนวัตถุดิบ ได้ดีมากยิ่งขึ้นจนเกิด Economies of scale

ด้วยรายได้ที่เติบโตมากขึ้น และสามารถควบคุมการผลิตได้ดีขึ้น
จึงทำให้ NSL มีกำไรที่เติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

และมีอัตรากำไรที่เพิ่มมากขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย

โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 NSL มีอัตรากำไรสุทธิ = 7%
และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 NSL มีอัตรากำไรสุทธิ = 9%

Reference
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาส 3 ปี 2567 บมจ.เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์