กรณีศึกษา นิ่มเอ็กซ์เพรส ขนส่งครบวงจร รายใหญ่สุด ในภาคเหนือ

กรณีศึกษา นิ่มเอ็กซ์เพรส ขนส่งครบวงจร รายใหญ่สุด ในภาคเหนือ

15 ม.ค. 2024
กรณีศึกษา นิ่มเอ็กซ์เพรส ขนส่งครบวงจร รายใหญ่สุด ในภาคเหนือ | BrandCase
หากพูดถึงธุรกิจขนส่งพัสดุเจ้าดังในไทย เชื่อว่าหนึ่งในคำตอบที่หลายคนคงนึกถึง
คือ ไปรษณีย์ไทย, Kerry Express และ Flash Express
แต่หากถามคนเชียงใหม่ หรือในภาคเหนือ จะมีอีกเจ้าที่น่าสนใจ ชื่อว่า “นิ่มเอ็กซ์เพรส”
นิ่มเอ็กซ์เพรส ทำธุรกิจขนส่งครบวงจรรายใหญ่สุดในภาคเหนือ
และเติบโตมาจากธุรกิจแรก คือ ส่งผัก ส่งผลไม้
เส้นทางของ นิ่มเอ็กซ์เพรส น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2511 หรือเมื่อ 56 ปีที่แล้ว
ตระกูลสุวิทย์ศักดานนท์ ซึ่งมีฐานะปานกลาง มีอาชีพขายผลไม้อยู่ในตลาดวโรรส จังหวัดเชียงใหม่
ในเวลาต่อมา ร้านขายผลไม้เกิดเพลิงไหม้ในตลาด ทั้งร้านถูกไฟไหม้ไปหมด
เหลือเพียงแต่สามล้อเก่า ๆ
คุณทัต สุวิทย์ศักดานนท์ บุตรชายคนโตต้องลาออกจากโรงเรียน เพื่อมาถีบสามล้อหาเลี้ยงครอบครัว
ต่อมา หลังจากคุณทัตมีเงินเก็บมากพอ ก็ได้นำเงินไปซื้อรถบรรทุกขนาดใหญ่
และนำไปรับจ้างส่งผักและผลไม้ ระหว่างเชียงใหม่-กรุงเทพมหานคร
ซึ่งในช่วงเวลานั้น การขนส่งผักและผลไม้จะนิยมส่งผ่านรถไฟ ซึ่งจะใช้เวลานานถึง 2 วัน
แต่ถ้าส่งผ่านคุณทัต ที่ใช้การขนส่งโดยรถบรรทุก จะใช้เวลาเพียงแค่ 8-9 ชั่วโมง
เมื่อเห็นความแตกต่างของเวลาขนาดนี้.. ก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเริ่มเปลี่ยนมาส่งสินค้าผ่านคุณทัต
เพราะผักและผลไม้นั้นเป็นของสด
ถ้าใช้เวลานานในการขนส่ง จะทำให้ผักและผลไม้เฉาและไม่น่ากิน
และด้วยการที่คุณทัตส่งสินค้าจากเชียงใหม่-กรุงเทพมหานคร อยู่ทุกวัน ทำให้คุณทัตรู้ถึงความแตกต่างของราคาผลไม้บางชนิด
ก็คือผลไม้บางชนิดในกรุงเทพมหานคร ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาท
แต่พอนำเข้ามาในเชียงใหม่ จะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 บาท
พอคุณทัตเห็นแบบนี้ ก็เลยรับผลไม้จากกรุงเทพมหานคร มาขายที่เชียงใหม่ควบคู่ไปด้วยเลย
หลังจากนั้นธุรกิจก็เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้ในปี 2514 คุณทัตได้ก่อตั้งบริษัทชื่อ “นิ่มซี่เส็ง” ขึ้นมา
ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับน้องชายอีก 2 คน
โดยลักษณะของธุรกิจจะไม่ได้รับส่งแค่ผักและผลไม้เหมือนเดิม แต่จะรับสินค้าอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ คุณทัตก็รับหมด
และด้วยธุรกิจขนส่งในสมัยนั้น ยังไม่มีคู่แข่งมากนัก
บวกกับความคิดและความสามารถของคุณทัต ทำให้ นิ่มซี่เส็ง ค่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
จากวิ่งให้บริการแค่จังหวัดใกล้เคียง-กรุงเทพมหานคร กลายเป็นครอบคลุมทั้งภาคเหนือ
จากมีรถให้บริการอยู่ในเครือแค่ 10 กว่าคัน กลายเป็น 500 คัน และ 1,000 คัน ตามลำดับ
โดยลูกค้าส่วนใหญ่นั้น จะเป็นกลุ่ม B2B (ผู้ประกอบการส่งถึงผู้ประกอบการ) ที่จะส่งแต่ของชิ้นใหญ่ ๆ
คุณทัตเลยมีความต้องการที่จะเข้าถึงลูกค้าทั่วไปที่จะส่งของชิ้นเล็ก ๆ เป็นส่วนใหญ่ เพิ่มขึ้นด้วย
ทำให้ในเวลาต่อมา คุณทัตและน้องชายอีก 2 คนได้ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า “Nim Express”
โดยจะให้บริการขนส่งพัสดุทั่วไป และส่งด่วนเกือบทั่วประเทศ
โดย Nim Express จะมีจุดเด่นหลัก ๆ คือ
ถึงแม้จะเป็นธุรกิจท้องถิ่น แต่ Nim Express มีจุดบริการสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ
แถมยังมีบริการ รับสินค้าถึงหน้าประตูบ้านมีบริการส่งแบบรวดเร็ว สินค้าถึงภายในวันเดียว และมีบริการเก็บเงินปลายทางให้บริการส่งสินค้าได้หลายประเภท ทั้งแบบปกติและแบบควบคุมอุณหภูมิ
ทีนี้เราลองมาดูผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัท
บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด
ปี 2563 รายได้ 791ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 767 ล้านบาท กำไร 5 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 807 ล้านบาท ขาดทุน 19 ล้านบาท
บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด
ปี 2563 รายได้ 1,246 ล้านบาท ขาดทุน 23 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 1,320 ล้านบาท ขาดทุน 160 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 1,308 ล้านบาท ขาดทุน 168 ล้านบาท
จุดสังเกตคือ เราจะเห็นธุรกิจของ นิ่มเอ็กซ์เพรส ขาดทุนในหลายปีหลัง ๆ
ซึ่งที่เป็นแบบนี้ น่าจะสะท้อนว่า ธุรกิจขนส่งหลายปีมานี้ แข่งขันด้านราคากันหนักมาก จนผู้ประกอบการหลายรายต้องแบกรับผลขาดทุน รวมถึงนิ่มเอ็กซ์เพรส ด้วย
แต่นอกจากบริการขนส่งแล้ว เครือบริษัทยังมีธุรกิจให้บริการสินเชื่อ ซึ่งถือว่าเป็นอีกเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจในเครือ คือ บริษัท นิ่มลีสซิ่ง จำกัด
ปัจจุบัน นิ่มลีสซิ่ง มีจำนวน 435 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัด ในภาคเหนือตอนบน
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.