เปิดวิธีคิดแบบครีเอเตอร์ ที่ Tofusan และ บ๊วยรัศมีแข ใช้สร้าง Brand Love

เปิดวิธีคิดแบบครีเอเตอร์ ที่ Tofusan และ บ๊วยรัศมีแข ใช้สร้าง Brand Love

9 พ.ย. 2023
7-Eleven x BrandCase
ใครที่เข้าไปใช้บริการ 7-Eleven บ่อย ๆ
คงจะคุ้นตากับแบรนด์นมถั่วเหลือง Tofusan และ บ๊วยรัศมีแข
หนึ่งในสินค้ายอดฮิต ที่หลายคนติดใจ
มองผิวเผิน ทั้งสองแบรนด์ ซึ่งมีสินค้าที่เป็นตัวชูโรงต่างกัน ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้
แต่สิ่งที่ทั้งสองแบรนด์มีเหมือนกัน และนำไปสู่การสร้าง Brand Love ให้กับแบรนด์ อย่างน่าสนใจ
นั่นคือ แนวคิดในการปั้นแบรนด์ ที่ต่อยอดจากวิธีคิดแบบครีเอเตอร์
แล้ว Tofusan และ บ๊วยรัศมีแข นำวิธีคิดแบบครีเอเตอร์ มาใช้อย่างไร ?
BrandCase จะสรุปเคล็ดลับที่คุณนาม-สุรนาม พานิชการ เจ้าของแบรนด์นมถั่วเหลือง Tofusan
และคุณแข-รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น เจ้าของแบรนด์บ๊วยรัศมีแข นำมาถ่ายทอดแบบไม่มีกั๊ก
ให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ
ในยุคที่ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นพ่อค้าแม่ขายได้ง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว
แถมยังมีช่องทางโซเชียลมีเดียไว้เป็นช่องทางโปรโมต แจ้งเกิดให้กับแบรนด์ได้ไม่ต่างจากแบรนด์ขนาดใหญ่
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมโซเชียลมีเดียถึงมีอิทธิพล ต่อการสร้างแบรนด์ในยุคนี้เป็นอย่างมาก
โดยคุณนาม บอกว่า เป็นธรรมดา หากที่ไหนมีคนเยอะ ที่นั่นก็จะขายของได้
สมัยก่อนมีคนดูทีวีเยอะ แบรนด์ก็ทำโฆษณาออกทีวี
แต่ยุคนี้คนเล่นโซเชียลมีเดียมาก เลยทำให้โซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางที่ทรงอิทธิพล​
แต่โจทย์สำคัญในการใช้พลังของโซเชียลมีเดีย คือ ต้องรู้ว่า กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คือใคร
แล้วเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับแคมเปญที่แบรนด์จะทำ ที่สำคัญต้องขยันอัปเดตเทรนด์ตลอด
ขณะที่คุณรัศมีแข เสริมว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคระบาด
ผู้คนยึดติดกับความสะดวกสบาย ของการสั่งสินค้าออนไลน์จนถึงปัจจุบัน
จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ใครก็ตาม สามารถสร้างแบรนด์ และชื่อเสียงได้ผ่านโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนรู้แล้วว่า ช่องทางโซเชียลมีเดียคือ ประตูแห่งโอกาสในการแจ้งเกิดแบรนด์
แล้วเราจะทำอย่างไร เพื่อปั้นแบรนด์ให้ครองใจชาวโซเชียลมีเดีย ?
คุณนามบอกว่า ก่อนอื่นต้องเริ่มจากเข้าใจตัวเอง ด้วยการประเมินความสามารถของแบรนด์ก่อนว่า มีความพร้อมแค่ไหน
ยกตัวอย่าง Tofusan เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องแช่เย็น มีอายุการเก็บรักษา (Shelf life) 20 วัน
ดังนั้น การจะสื่อสารผ่านออนไลน์ ให้ผู้ชมดูแล้วอยากสั่งซื้อออนไลน์ เพื่อไปส่งที่บ้าน อาจจะไม่ตอบโจทย์กับแบรนด์ เพราะการขนส่งสินค้าที่ต้องแช่เย็นทำได้ยาก และมีค่าใช้จ่าย​
ดังนั้น รูปแบบการสื่อสารของแบรนด์ที่ดีกว่า คือ ทำให้คนดู ดูแล้วอยากมาลอง อยากมาชิม โดยเดินไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านอย่าง 7-Eleven แทน
หลังจากเข้าใจตัวเองแล้ว ถัดมาคือ ต้องเข้าใจลูกค้า ​ที่มีพฤติกรรมแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม​
ดังนั้น แบรนด์ก็ต้องเลือกวิธีการสื่อสารที่เหมาะสม
เข้าใจตัวเอง เข้าใจลูกค้าแล้ว ก็ต้องอาศัยค่อย ๆ ทดลองดูว่า ช่องทางไหนที่เหมาะกับแบรนด์ ​
เพราะด้วยความเป็น SME ทำให้เจ้าของธุรกิจอาจจะไม่ได้มีงบมากมาย มาทุ่มซื้อโฆษณา
ทางออกง่าย ๆ คือ ต้องพยายามหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ แล้วพยายามนำเสนอในมุมมองที่แตกต่างออกไป
“อย่าง Tofusan เราแตกต่าง ตั้งแต่แพ็กเกจจิง ไปจนถึงสินค้า
ที่เราให้ความสำคัญกับการพัฒนามาก เน้นทำของดี ในราคาที่เหมาะสม
ที่สำคัญเรายังใช้ Storytelling ในการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์
แทนที่เราจะชูประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ ว่าเราเป็นนมถั่วเหลืองโปรตีนสูง แต่น้ำตาลน้อย
เราเลือกที่จะเล่าอีกมุมที่ทัชใจมากกว่า นั่นคือ การบอกว่านมถั่วเหลืองของเราดี จนเรากล้าให้คนที่เรารักดื่ม”
ถามว่า การใช้ Storytelling ใช้เวลาไหม แน่นอน แต่รับรองว่า ถ้าทำแล้ว ผลิดอกออกผลแน่นอน
ขณะที่คุณรัศมีแข เสริมว่า หัวใจสำคัญในการปั้นแบรนด์ คือ passion และความซื่อสัตย์
“ด้วยความที่เป็นคนมีชื่อเสียง พอมาทำสินค้าเอง อาจจะดูเหมือนมีแต้มต่อ หรือมีช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีคนติดตาม แล้วคิดว่า จะทำผลิตภัณฑ์ออกมาขายก็ได้
ในทางกลับกัน การที่มีชื่อเสียงเป็นเดิมพัน ทำให้ยิ่งต้องทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้ดี มีคุณภาพที่สุด”
สำหรับการทำตลาด นอกจากจะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียที่ตัวเองมี
คุณแข ยังชอบไป Collab กับแบรนด์อื่น ที่เป็นพี่น้องในวงการ ด้วยการร่วมไลฟ์ขายผลิตภัณฑ์แบบง่าย ๆ
ซึ่งผลลัพธ์บางครั้งอาจจะไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่เป็นการสร้างชื่อเสียง และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก
ขณะที่คุณนามบอกว่า Tofusan เคยมีประสบการณ์ Collab กับทั้งแบรนด์ใหญ่อย่าง Disney และแบรนด์ที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน หรือเล็กกว่าเล็กน้อย
โดยส่วนตัวคุณนามชอบการ Collab กับแบรนด์ที่อยู่ในระดับใกล้ ๆ กัน หรือเล็กกว่าหน่อยมากกว่า
นอกจากจะได้เพิ่มยอดขาย สร้าง Brand Awareness ยังมีความสนุกที่ได้ทำงานร่วมกัน
ในแง่การทำงานกับครีเอเตอร์ต่าง ๆ คุณนามบอกว่า หัวใจสำคัญคือ การไม่ยัดเยียด
เพราะถ้าเน้นว่า ต้องให้ข้อมูลแบบที่แบรนด์ต้องการ ผลลัพธ์ที่ออกมาส่วนใหญ่จะไม่ดี
ทางที่ดี คือ การสื่อสารให้ครีเอเตอร์เข้าใจแบรนด์ และสื่อสารในสไตล์ของตัวเอง ซึ่งยาก
แต่ถ้าทำได้ ผลตอบรับจะออกมาดีกว่า
อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งสองแบรนด์จะใช้วิธีคิดแบบครีเอเตอร์ในการปั้นแบรนด์
แต่อีกหนึ่งข้อสำคัญ ที่ช่วยต่อยอดแบรนด์ให้ไปได้ไกล คือการมีอีกหนึ่งช่องทางขายที่ทรงพลังอย่าง 7-Eleven

ทั้งคุณนามและคุณแข เห็นตรงกันว่า “ความสะดวกสบาย” คือ หนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำแบรนด์
คุณนามมองว่า ด้วยตัวสินค้าที่ต้องแช่เย็น
ดังนั้น การที่มี 7-Eleven คือ หนึ่งใน Touch Point สำคัญในการเข้าถึงลูกค้าที่หากต้องการดื่มแบบเย็นก็หยิบจากตู้ได้เลย หรือถ้าต้องการดื่มแบบร้อน ก็สามารถให้พนักงานอุ่นร้อนให้ได้เช่นกัน
ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ทีม 7-Eleven เข้ามาช่วยแนะนำในการพัฒนาสินค้าของเราหลายอย่าง
เพราะจุดแข็งของทีม 7-Eleven คือ เข้าใจอินไซต์ของลูกค้าเป็นอย่างดี
แต่พอทำงานกันมาเรื่อย ๆ เราก็ได้แชร์อะไรกับ ทีม 7-Eleven ด้วย”
ขณะที่คุณแข มองว่า การที่บ๊วยรัศมีแขได้เข้าไปอยู่ 7-Eleven
นอกจากจะเป็นการพิสูจน์ว่า สินค้ามีคุณภาพ ได้มาตรฐานเพียงพอ ยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการโปรโมตสินค้า​ ทำให้แบรนด์มีโอกาสเป็นที่รู้จัก และเพิ่มยอดขายมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ คือ ส่วนหนึ่งในเคล็ดลับที่ Tofusan และบ๊วยรัศมีแข ใช้ปั้นแบรนด์จนกลายเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค นั่นเอง
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.