กรณีศึกษา โรงพยาบาลยันฮี จากแทบไม่มีลูกค้า วันนี้รายได้ 2,000 ล้าน

กรณีศึกษา โรงพยาบาลยันฮี จากแทบไม่มีลูกค้า วันนี้รายได้ 2,000 ล้าน | BrandCase

รู้ไหมว่า โรงพยาบาลยันฮี โรงพยาบาลชื่อดังด้านการศัลยกรรมความงามนั้น ช่วงที่เปิดใหม่ ๆ แทบจะไม่มีลูกค้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลเลย

แต่ในวันนี้ โรงพยาบาลยันฮี ถือเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงด้านการศัลยกรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
และตอนนี้ ก็มีรายได้แตะ 2,000 ล้านบาท

เรื่องราวของ โรงพยาบาลยันฮี น่าสนใจอย่างไร
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

โรงพยาบาลยันฮี ก่อตั้งโดย คุณหมอสุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา

โดยก่อนที่คุณหมอสุพจน์จะมาเปิดโรงพยาบาล คุณหมอได้เปิดคลินิกเสริมความงามเล็ก ๆ ชื่อว่า ยันฮีโพลีคลินิก ที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

แต่ว่าการทำธุรกิจในรูปแบบคลินิกนั้นค่อนข้างที่จะมีข้อจำกัด
ทำให้คุณหมอและเพื่อน ๆ ผู้ร่วมก่อตั้ง อยากยกระดับจากคลินิกขึ้นมาเป็นโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถรองรับและให้บริการคนไข้ได้มากขึ้น และตั้งเป็นโรงพยาบาลยันฮี ขึ้นมา

แต่ทว่าในตอนแรก ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณหมอคิดเอาไว้ เพราะโรงพยาบาลยันฮี แทบจะไม่มีลูกค้าเข้าเลย..

แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร ?

ต้องบอกว่าในตอนนั้น ประเทศไทยเองยังไม่ค่อยเปิดรับในเรื่องของการศัลยกรรมความงามกันเท่าไรนัก

หรือพูดง่าย ๆ ว่า คนไทยยังค่อนข้างต่อต้านกับการศัลยกรรมความงาม เพราะเชื่อว่า สิ่งที่ธรรมชาติให้มานั้นดีอยู่แล้ว

สังเกตได้จากดารา หรือคนในยุคสมัยก่อนหน้านี้ที่ทำศัลยกรรม ส่วนใหญ่ก็มักจะเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะกลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมและคนรอบข้าง

อีกเรื่องก็คือ หลาย ๆ คนก็ยังไม่เชื่อมั่นในฝีมือหรือมาตรฐานการรักษาของแพทย์ชาวไทย

ทำให้ลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะบินไปศัลยกรรมที่ต่างประเทศ อย่างเช่น เกาหลีใต้ หรือสหรัฐอเมริกา มากกว่า

แล้ว คุณหมอสุพจน์ มีวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไร ?

เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วว่า ปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่ ความไม่เชื่อมั่น เนื่องจากทางโรงพยาบาลเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน
สิ่งที่คุณหมอทำก็คือ การใช้การตลาด โดยการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เรื่องของความสวยงามอย่างปลอดภัย

ด้วยการใช้แพทย์ที่เชี่ยวชาญโดยตรง รวมถึงพยายามให้ความรู้เกี่ยวกับการศัลยกรรมความงามในรูปแบบต่าง ๆ

ทำให้ลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้บริการนั้นรู้สึกค่อย ๆ ไว้วางใจทางโรงพยาบาลมากขึ้นไปเรื่อย

สิ่งที่เกิดตามมาคือ เริ่มมีการบอกปากต่อปาก ว่าทำที่นี่แล้วปลอดภัย ได้มาตรฐานดี

รวมถึงยังมีการจัดแพ็กเกจ ราคาดี ทำให้คนที่อาจจะยังไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอ สามารถตัดสินใจเข้ามาใช้บริการได้ง่ายขึ้น

ทำให้ชื่อเสียงของโรงพยาบาลยันฮีนั้นเติบโตขึ้นเรื่อยมา จนกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของวงการศัลยกรรมความงามของประเทศไทย

แล้ววันนี้ โรงพยาบาลยันฮี ใหญ่แค่ไหน

ถ้าลองมาดู ผลประกอบการล่าสุดของ บริษัท โรงพยาบาลยันฮี จำกัด
ปี 2563 รายได้ 1,519 ล้านบาท ขาดทุน 102 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 1,383 ล้านบาท ขาดทุน 92 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 2,063 ล้านบาท กำไร 257 ล้านบาท

ต้องบอกว่าในช่วงปี 2563-2564 นั้น ทางโรงพยาบาลได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาด และเริ่มที่จะฟื้นตัวกลับมาในปีที่ผ่านมา
จนมีรายได้ในปีที่ผ่านมา มากกว่า 2,000 ล้านบาท

และอีกเรื่องที่ดูเป็นเส้นทางการเติบโตใหม่ คือการทำ ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ ออกมาขาย

ซึ่งรู้ไหมว่า จุดเริ่มต้นของน้ำดื่มยันฮี วิตามิน วอเตอร์ เริ่มมาจากการ “แจกฟรี” โดยจ่ายน้ำวิตามินแทนยา เพื่อให้ผู้ป่วยได้ดื่มหลังพักฟื้นจากการผ่าตัด

ซึ่งกลายเป็นว่า มีผู้ป่วยกลุ่มนี้หลายคน เริ่มสอบถามมายังโรงพยาบาลว่า น้ำดื่มยี่ห้อนี้มีขายหรือไม่

สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า โรงพยาบาลจะผลิตน้ำดื่ม ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ ออกมาขายแบบจริงจัง

ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา มีรายได้จากการขายน้ำดื่ม ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ มากถึง 931 ล้านบาท เลยทีเดียว..

References
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-https://th.yanhee.net/about/about-us/