การตลาด Ray-Ban เปลี่ยนตัวเองจาก แว่นตานักบิน จนเป็นสินค้าแฟชั่น

การตลาด Ray-Ban เปลี่ยนตัวเองจาก แว่นตานักบิน จนเป็นสินค้าแฟชั่น

9 ก.พ. 2023
การตลาด Ray-Ban เปลี่ยนตัวเองจาก แว่นตานักบิน จนเป็นสินค้าแฟชั่น | BrandCase
ถ้าพูดถึง แว่นกันแดด แบรนด์แรกที่หลาย ๆ คนนึกถึง คงหนีไม่พ้น Ray-Ban
แต่รู้หรือไม่ว่า Ray-Ban ในอดีต ไม่ได้แมสขนาดนี้
เพราะเคยเป็นแค่แว่นที่ใช้ในทางทหาร แค่เฉพาะนักบินของกองทัพ
แล้วแบรนด์แว่นตาอายุ 86 ปี รายนี้ เปลี่ยนไปเป็นสินค้าแฟชั่นได้อย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
ย้อนกลับไปในปี 1929 คุณ John Jacob Bausch และคุณ Henry Lomb เจ้าของร้านผลิตเลนส์แว่นตาอย่าง Bausch & Lomb
ได้รับคำขอจากกองทัพสหรัฐอเมริกา ให้ผลิตเลนส์แว่นตาแบบพิเศษสำหรับนักบิน ที่สามารถป้องกันแสง UV ได้มากกว่าเลนส์แว่นตาทั่ว ๆ ไป
เนื่องจากแว่นตาของนักบินที่มีอยู่ในขณะนั้น
มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะ และยังไม่สามารถป้องกันแสง UV บนเพดานบินระดับสูงได้
ซึ่งเรื่องพวกนี้ กลายเป็นปัญหาที่รบกวนการมองเห็นของนักบิน
หลังจากการพัฒนากว่า 8 ปี Bausch & Lomb ก็เปิดตัวแบรนด์ Ray-Ban รุ่นแรกในชื่อ Aviator
Ray-Ban ตัวนี้ ผลิตเจาะจงมาสำหรับนักบิน
ซึ่งด้วยตัวแว่นที่มีน้ำหนักเบา และแข็งแรงทนทาน Ray-Ban จึงได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ประเด็นคือ หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง บริษัทรู้ว่า ความต้องการแว่นกันแดดนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในกองทัพอีกต่อไป
บริษัทจึงพยายามทำแว่นให้จับกลุ่มคนทั่วไปมากขึ้น
ด้วยการผลิตแว่นกันแดดรุ่นถัดมาอย่าง The Wayfarer ในปี 1956 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยการตลาดที่ Ray-Ban นำมาใช้เจาะตลาดลูกค้าทั่วไปก็คือ
ดึงบรรดาดารา และคนดังที่มีชื่อเสียงในช่วงนั้น มาเป็นพรีเซนเตอร์ รวมถึงนำแว่นตา Ray-Ban ไปอยู่ในภาพยนตร์ต่าง ๆ
โดยเฉพาะในช่วงยุค 80’s ที่แว่นตา Ray-Ban ถูกเหล่าดาราฮอลลีวูด นำไปสวมใส่ในรายการทีวี และภาพยนตร์ให้เห็นกันบ่อยมาก
พูดง่าย ๆ ว่าใครอยากดูดีแบบดาราในหนัง ก็ต้องมี Ray-Ban ไว้สวมใส่..
ซึ่งมันทำให้ในปี 1983 ยอดขายของ Ray-Ban รุ่น The Wayfarer ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 50%
จากการที่แว่นตานั้นปรากฏอยู่บนโปสเตอร์หนังคู่กับ Tom Cruise ในหนังเรื่อง Risky Business
และในปี 1987 ที่ยอดขายของรุ่น Aviator ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 40% จากหนังเรื่อง Top Gun ที่ Tom Cruise ก็ใส่แว่นรุ่น Aviator ตลอดทั้งเรื่อง
อย่างไรก็ตามความนิยมของ Ray-Ban กลับไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในยุค 90’s เนื่องจากปริมาณในการผลิตและการตั้งราคาขายที่ผิดพลาด
แต่ต่อมาในปี 1999 ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
เพราะ Ray-Ban เปลี่ยนเจ้าของจาก Bausch & Lomb ไปเป็น Luxottica ผู้ผลิตแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี
ซึ่ง Luxottica ได้ทำการปรับภาพลักษณ์ของ Ray-Ban ใหม่อีกครั้ง ให้ดู High End และดูแพงมากขึ้น
รวมถึงจับมือกับเหล่าดาราและเซเลบริตีชื่อดังต่าง ๆ
จนทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ กลับมาพรีเมียม อีกครั้ง..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.