สรุปกลยุทธ์ ห้าดาว ที่ทำให้แบรนด์อยู่มาได้ มากกว่า 30 ปี
3 พ.ย. 2022
พอพูดถึงไก่ย่างแบรนด์ดัง ๆ เชื่อว่า “ห้าดาว” (หรือ ไก่ย่าง 5 ดาว ในสมัยก่อน) น่าจะเป็นหนึ่งในชื่อ ที่หลายคนน่าจะนึกถึง
เส้นทางของไก่ย่าง 5 ดาว เป็นอย่างไร ถึงเป็นแบรนด์ที่ยังคงอยู่มากว่า 3 ทศวรรษ
BrandCase จะสรุปให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ
ปี 2528 หรือเมื่อ 37 ปีที่แล้ว เป็นปีแรกที่ “ไก่ย่าง 5 ดาว” เปิดตัวออกมาให้คนไทยรู้จัก
โดยเปิดขายครั้งแรก ในซอยลาดพร้าว 80
ก่อตั้งโดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF
ต่อมาในปี 2530 ไก่ย่าง 5 ดาว ก็เริ่มทำโฆษณา เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น จนเป็นประโยคติดหูสมัยนั้นคือ “อย่าลืมแวะซื้อไก่ย่าง 5 ดาวก่อนกลับบ้าน”
จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงไก่ย่างหมุนร้อน ๆ ในตู้กระจก มาวันนี้ธุรกิจของ 5 ดาว มีสินค้าที่หลากหลายมากกว่าเดิม เช่น
- ไก่ย่าง - ไก่ทอด
- ข้าวมันไก่
- บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง
- ไส้กรอก
- เป็ดย่าง
นอกจากนี้ ไก่ย่าง 5 ดาว ยังมีการรีแบรนด์ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า “Fivestar” หรือ ห้าดาว
ซึ่งคาดการณ์กันว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะทาง CPF ต้องการทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ดูทันสมัยมากขึ้น
รวมไปถึงการมีอาหารที่หลากหลาย ไม่ใช่มีเพียงแต่เฉพาะไก่ย่าง เหมือนที่หลายคนคุ้นเคยในอดีตนั่นเอง
ปัจจุบัน ธุรกิจของ Fivestar เป็นรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์
โดยปัจจุบัน สาขาของ Fivestar มีมากกว่า 6,000 สาขา ในประเทศไทย และมากกว่า 1,600 สาขาในต่างประเทศ เช่น ที่เวียดนาม อินเดีย ลาว และกัมพูชา
โดยธุรกิจของ Fivestar อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด ซึ่งก็ถือเป็นธุรกิจปลายน้ำ ของเครือ CPF
รายได้ และกำไรของ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด
ปี 2563 รายได้ 4,041 ล้านบาท กำไร 198 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,861 ล้านบาท กำไร 374 ล้านบาท
แต่ต้องหมายเหตุว่า นอกจากธุรกิจ Fivestar แล้ว ยังมีธุรกิจร้านอาหารอย่าง ร้านอาหารเชสเตอร์ และร้านอาหารซีพี คิทเช่น รวมอยู่ในบริษัทนี้ด้วย
คำถามที่น่าสนใจต่อมาก็คือ แล้ว Fivestar ทำอย่างไรถึงยังเป็นแบรนด์ที่คนยังจดจำมากว่า 3 ทศวรรษ ?
- เพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลาย
แม้สินค้าที่เริ่มต้นเป็นที่รู้จักจะเป็น ไก่ย่าง แต่ธุรกิจของ Fivestar ก็พยายามเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลาย
พูดง่าย ๆ คือ พยายามที่จะพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
- ขายสินค้าในราคาที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่ สามารถลิ้มลองสินค้าของ Fivestar คือ ราคาที่มีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยบาท ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างได้มากขึ้น
- พัฒนาและปรับปรุงแบรนด์ให้มีความทันสมัย รวมถึงปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของลูกค้า
ถ้านับจากจุดเริ่มต้นที่เป็นไก่ย่าง 5 ดาว มาเป็น Fivestar ในวันนี้ ก็เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้ว แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าในสมัยนั้นก็เติบโตขึ้น
ดังนั้น Fivestar จึงมีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของธุรกิจให้มีความทันสมัย มีการตกแต่งร้านให้ดูเหมาะกับวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนี้มากขึ้น
เช่น มีการออกแบบ รูปแบบซุ้มแบบใหม่ที่ชื่อว่า “Five Star Glass House” ซุ้มร้านค้าแบบให้ลูกค้านั่งทานได้
ที่สำคัญคือ การทำตลาดให้คนเห็นแบรนด์บ่อย ๆ บน Food Delivery Platform หลายแห่ง เช่น GrabFood, Foodpanda, LINE MAN
เราจะเห็นว่า เมื่อเปิดแอปพลิเคชันเหล่านี้ไป จะชอบเจอดีลของ Fivestar อยู่บ่อย ๆ นั่นเอง..
References