สรุปประวัติ Bugatti ไฮเปอร์คาร์ คันละ 300 ล้าน ที่เพิ่งเห็นวิ่งในกรุงเทพฯ

สรุปประวัติ Bugatti ไฮเปอร์คาร์ คันละ 300 ล้าน ที่เพิ่งเห็นวิ่งในกรุงเทพฯ | BrandCase

เมื่อไม่กี่วันก่อน ชื่อของ Bugatti ถูกพูดถึงกันมากในไทย
เพราะมีคนเห็น Bugatti Chiron Sport 110 ANS ขับอยู่บนถนนในไทย
โดยไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้ ราคาประมาณ 115 ล้านบาท ซึ่งหากรวมภาษีนำเข้ามาในไทยราว 300% ราคาก็จะอยู่ที่ราวกว่า “345 ล้านบาท”

โดยไฮเปอร์คาร์ ก็คือ ซูเปอร์คาร์ประเภทหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพและสมรรถนะระดับสูงสุด
หรือพูดง่าย ๆ ว่า เป็นตัวท็อปสุด ในไลน์การผลิตของซูเปอร์คาร์นั้น

แล้วเรื่องราวของ Bugatti แบรนด์นี้ เป็นอย่างไร ?
BrandCase จะมาสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ

Bugatti อ่านว่า บูกัตติ เป็นแบรนด์ซูเปอร์คาร์และไฮเปร์คาร์ ที่มีต้นกำเนิดในฝรั่งเศส ที่ปัจจุบันก็มีอายุกว่า 110 ปี

ที่เห็นมีอายุยาวเช่นนี้ แต่ Bugatti ก็มียุคทองและยุคล่มสลาย และก็มีการเปลี่ยนเจ้าของอยู่บ่อยครั้ง

โดย Bugatti ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้น อยู่ภายใต้บริษัทที่ชื่อ Bugatti Rimac ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือ Volkswagen Group ด้วย

Bugatti ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 โดยคุณ Ettore Bugatti ภายใต้บริษัทชื่อ Automobiles Ettore Bugatti ที่เมือง Molsheim ในประเทศฝรั่งเศส

บริษัท Automobiles Ettore Bugatti ก็มี ธุรกิจอื่น ๆ นอกจากรถยนต์ด้วยก็คือ ธุรกิจรถราง และธุรกิจเครื่องบินสำหรับแข่งขัน ที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1930

โดยในส่วนของธุรกิจรถยนต์ บริษัทก็ผลิตรถยนต์ออกมาราว 8,000 คัน ในช่วงที่ดำเนินกิจการ

ก่อนที่บริษัทจะยุติการผลิตลงในปี 1952 เนื่องจากการเสียชีวิตของคุณ Ettore Bugatti ทำให้กิจการถดถอยลง และบริษัทก็ได้ขายกิจการเครื่องบิน ไปให้กับบริษัทยานยนต์สัญชาติสเปน ในปี 1963

หลังจากยุติการผลิตไป Bugatti ก็พยายามฟื้นคืนชีพอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

จนกระทั่งในปี 1987 นักธุรกิจชาวอิตาลีก็ได้มาซื้อแบรนด์ Bugatti ไป และก่อตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า Bugatti Automobili S.p.A.
โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เมือง Modena ประเทศอิตาลี และกลับมาผลิตรถยนต์อีกครั้ง โดยมีรุ่นแรกคือ Bugatti EB110 GT

แต่สุดท้ายบริษัท ก็ต้องมาเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงอีกครั้ง ในปี 1995

โดยสิทธิบัตรต่าง ๆ ก็ถูกขายให้กับบริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ชื่อว่า Dauer Racing และตัวโรงงานก็ถูกขายให้กับ บริษัทหนึ่ง ที่ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไป

จนมาในปี 1998 Volkswagen Group ก็ได้ทำการเข้าซื้อแบรนด์นี้อีกครั้ง และได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Bugatti Automobiles S.A.S.

โดยในช่วงที่อยู่ภายใต้เครือ Volkswagen Group แบรนด์ Bugatti ก็กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง จากการเปิดตัวรถรุ่นดังอย่าง Veyron และ Chiron

แต่เส้นทางของ Bugatti ยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะในปี 2021 ที่ผ่านมา Bugatti Automobiles S.A.S. ก็ได้ถูกควบรวมกับบริษัทรถยนต์สัญชาติโครเอเชีย อย่าง Rimac Automobili

กลายเป็นบริษัทใหม่ชื่อ Bugatti Rimac ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Rimac Automobili และ Porsche AG (บริษัทในเครือ Volkswagen Group)

สำหรับ Bugatti นั้น ถือเป็นแบรนด์ซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องสมรรถนะ และความเร็ว

โดยมีรถยนต์ที่ทำความเร็วติดอันดับโลกอยู่หลายรุ่น อย่างเช่น รุ่น Veyron EB 16.4 ที่ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 408.47 กม./ชม.
ทำสถิติรถ Production Car หรือรถที่มีขายให้สาธารณชนทั่วไป ที่เร็วที่สุดในโลก ปี 2005

หรือรุ่น Veyron 16.4 Super Sport ที่ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 431.072 กม./ชม. ทำลายสถิติเร็วที่สุดในโลกปี 2010

และสำหรับไฮเปอร์คาร์ที่เห็นกันในประเทศไทยล่าสุด ตามสื่อต่าง ๆ
คือรุ่น Bugatti Chiron Sport 110 ANS

ส่วนเจ้าของ Bugatti ที่มีคนเห็นขับอยู่บนถนนในกรุงเทพมหานครไม่กี่วันที่ผ่านมา คือ นักธุรกิจชาวกัมพูชาท่านหนึ่ง

และ Bugatti คันนั้น เป็นรุ่น Limited Edition ฉลองครบรอบ 110 ปีของ Bugatti ที่มีเพียง 20 คันในโลก..

References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Bugatti
-https://en.wikipedia.org/wiki/Bugatti_Rimac
-https://www.autoinfo.co.th/article/83264/
-https://www.guinnessworldrecords.com/news/2013/4/guinness-world-records-statement-production-car-world-records-48024
-https://en.wikipedia.org/wiki/Production_car_speed_record#cite_note-24
-https://www.matichon.co.th/social/news_3521930
-https://www.supercars.net/blog/the-bugatti-chiron-sport-110-ans-insurance-cost-is-outrageous/