สรุป 15 คำศัพท์ธุรกิจ-การสร้างแบรนด์ จากงาน ลงทุนแมน SUMMIT

สรุป 15 คำศัพท์ธุรกิจ-การสร้างแบรนด์ จากงาน ลงทุนแมน SUMMIT

8 ต.ค. 2025
1. NPD (New Product Development) = การพัฒนาสินค้าใหม่
โดยสินค้าใหม่หรือ New Product หมายรวมทั้ง สินค้าใหม่ที่แบรนด์ไม่เคยทำเลย เพื่อมาต่อยอดหรือเสริมระบบนิเวศของแบรนด์ เช่น เถ้าแก่น้อย ที่เพิ่งพัฒนาบุกรสหม่าล่า SUPER GROOB
หรือพัฒนาสินค้าเดิม แต่ดีเทลใหม่ เช่น เถ้าแก่น้อย พัฒนาสาหร่ายทอด รสชาติใหม่ ๆ ตามฤดูกาล
2. BOM (Bill of Material) = รายการแสดงวัตถุดิบและปริมาณที่ใช้ในการผลิตสินค้า 1 หน่วย เพื่อให้การผลิตเป็นระบบ วางแผนต้นทุน และตรวจสอบสต็อกได้ง่ายขึ้น
เช่น BOM สำหรับ “กาแฟ Latte เย็น 1 แก้ว” ประกอบด้วย กาแฟเอสเพรสโซ 1 ช็อต, นมสด 150 มิลลิลิตร, น้ำแข็ง 1 ถ้วย, แก้วพลาสติก 1 ใบ และฝาพร้อมหลอด 1 ชุด
3. COGS (Cost of Good Sold) ภาษาไทยคือ “ต้นทุนขาย” = ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการโดยตรง ถ้าขาดต้นทุนตรงนี้ไป สินค้าหรือบริการเรา จะออกมาสู่ตลาดไม่ได้เลย
เช่น ต้นทุนขาย (COGS) ของอิชิตัน กรุ๊ป ได้แก่ ค่าวัตถุดิบ, ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานในไลน์ผลิต, ค่าสาธารณูปโภค (เชื้อเพลิงแก๊ส, ไฟฟ้า, ประปา), ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
4. TAM (Total Addressable Market) = มูลค่าตลาดหรือยอดขายทั้งหมดในตลาด ที่สินค้าหรือบริการของเราจะเข้าไปอยู่
เช่น ตลาดอาหาร มีมูลค่าตลาดทั้งหมดในไทยประมาณ 900,000 ล้านบาท
การรู้ TAM จะทำให้เราเห็นภาพใหญ่ว่า ตลาดที่เราจะเข้าไปขอส่วนแบ่ง ใหญ่ขนาดไหน น่าสนใจพอไหม
5. GMP (Good Manufacturing Practice) = มาตรฐานการผลิตที่รับรองว่ากระบวนการผลิตสินค้า โดยเฉพาะอาหาร ยา และเครื่องสำอาง มีความปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ และมีคุณภาพสม่ำเสมอ
เช่น โรงงานผลิตนมวัว ผ่านมาตรฐาน GMP เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าสะอาดและปลอดภัย ต่อผู้บริโภค
6. POS (Point of Sale) = ระบบรับชำระเงินและบันทึกยอดขายของร้านค้า ที่มักเชื่อมกับสต็อกสินค้าและรายงานยอดขายแบบเรียลไทม์ ทำให้ช่วยคิดเงินแม่น ตัดสต็อกอัตโนมัติ และบริหารร้านได้สะดวกขึ้น
เช่น ร้านสะดวกซื้อ มักใช้เครื่อง POS สำหรับคิดเงินและตัดสต็อกสินค้าอัตโนมัติ หรือร้านอาหารที่ใช้เครื่อง POS ในการจัดการออร์เดอร์ของลูกค้า
7. UGC (User-Generated Content) = คอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้า หรือบริการของแบรนด์ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยลูกค้า โดยที่แบรนด์ไม่ต้องจ้างโปรโมต ข้อดีคือดูจริงใจ และน่าเชื่อถือกว่าการโฆษณาจากแบรนด์โดยตรง
เช่น ลูกค้าถ่ายคลิปรีวิว Shio Pan หรือขนมปังเกลือ ลงเอาไปลง TikTok แล้วแท็กชื่อแบรนด์ White Story
8. CRM (Customer Relationship Management) = ระบบการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อรักษาลูกค้าเก่าและกระตุ้นให้กลับมาซื้อซ้ำ
เช่น ChocoCRM ที่มีบริการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น ระบบสมาชิก, ระบบสะสมแต้ม แลกของรางวัล ที่ใช้ได้กับหลากหลายธุรกิจ
9. Consumer Journey = เส้นทางที่ลูกค้าเดินทางตั้งแต่ รู้จักแบรนด์ ตัดสินใจซื้อ รวมถึงบอกต่อหรือกลับมาซื้อซ้ำ โดยแต่ละขั้นคือโอกาสที่แบรนด์จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้า
เช่น เห็นโฆษณาน้ำหอมใน IG > เข้าเว็บอ่านรีวิว > ไปลองกลิ่นที่ห้าง > ซื้อ > รีวิวต่อให้เพื่อน > ใช้จนหมดและกลับมาซื้อซ้ำ
10. Market Share = สัดส่วนยอดขายของบริษัทเรา เทียบกับมูลค่าทั้งตลาด
เช่น เรามียอดขายไก่ทอดปีนี้ 40 บาท และทั้งตลาดไก่ทอด มียอดขายรวมในปีนี้ 100 บาท หมายความว่าเรามี Market Share 40%
11. Hero Product = สินค้าที่เป็นภาพจำของแบรนด์ หรือสร้างยอดขายหลัก ให้กับแบรนด์
เช่น บลัชดำ ที่สร้างชื่อเสียงและภาพจำให้แบรนด์ LA GLACE เป็นสินค้าที่สร้างรายได้สำคัญ และจุดกระแสความนิยมของแบรนด์ขึ้นมา
12. Business Growth Cycle = ช่วงต่าง ๆ ของการเติบโตของธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มต้น เติบโต อิ่มตัว จนถึงถดถอย และพอเข้าใจว่ากำลังอยู่ในช่วงไหนของธุรกิจ ก็จะช่วยให้วางแผน และปรับกลยุทธ์ได้เหมาะสมกับแต่ละช่วงได้
โดยมีหลัก ๆ 4 ช่วง
-Start-up => เริ่มต้นธุรกิจ เปิดตัวสินค้าใหม่ ยังอยู่ในช่วงทดลองตลาด เช่น ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เพิ่งเปิดสาขาแรก
-Growth => ยอดขายเติบโต ลูกค้ารู้จักแบรนด์มากขึ้น เช่น แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ ที่เริ่มมีฐานลูกค้าประจำ
-Maturity => ตลาดเริ่มอิ่มตัว คู่แข่งเยอะ ต้องสร้างความแตกต่าง เช่น แบรนด์มือถือรายใหญ่ ที่อัปเกรดฟีเชอร์ใหม่ทุกปี
-Decline => ยอดขายเริ่มลดลงเพราะเทรนด์หรือเทคโนโลยีเปลี่ยน เช่น ร้านเช่าวิดีโอที่หายไป เมื่อมีแพลตฟอร์มสตรีมมิง
13. Brand Positioning = การวางตำแหน่งทางการตลาด ว่าแบรนด์เราวางตัวอยู่ตรงไหนในตลาดนั้น
เช่น สุกี้ตี๋น้อย วางตำแหน่งเป็นแบรนด์ระดับ Mass คือเน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง ในราคาเข้าถึงง่าย และคุ้มค่า ทำสุกี้บุฟเฟต์ราคา 276 บาท Net
14. Personalized Branding (การสร้างแบรนด์เฉพาะบุคคล) = การทำการตลาด ที่ปรับให้เข้ากับตัวตนของลูกค้าแต่ละคน โดยอิงจากข้อมูลส่วนตัว เช่น อายุ เพศ ความชอบ
เช่น Spotify จัดเพลย์ลิสต์ “เพลงที่คุณน่าจะชอบ” ตามประวัติและสไตล์การฟังของแต่ละคน
15. Precision Branding (การสร้างแบรนด์แบบเจาะจง) = ขั้นกว่าการ Personalize เพราะต้องรู้ลึกถึง “สถานที่” และ “เวลา” ของลูกค้า
ซึ่งอาศัยการเก็บข้อมูลจากเครื่องมือเช่น Social Listening Tools หรือเครื่องมือ CRM
เสร็จแล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์และสื่อสารให้ ตรงคน ถูกที่ และถูกเวลา
เช่น การส่งคูปองส่วนลดให้กับลูกค้า ที่กำลังจะเดินเข้าร้านของคู่แข่ง เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาสนใจร้านของเราแทน
___________
ใครพลาดงานนี้ เรามีให้ดูย้อนหลัง ! ลงทุนแมน SUMMIT 2025 รวมสุดยอด 30 นักธุรกิจและนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทย
จัดเต็มเกือบ 20 SESSIONS & WORKSHOPS
บัตร RERUN ดูย้อนหลัง มีจำนวนจำกัด รีบจองก่อนหมดได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/longtunmansummit2025
บัตรราคา 990 บาท (ไม่รวม VAT)
สามารถได้ทุก Main Stage Sessions และทุก Workshop Sessions
เป็นระยะเวลา 2 เดือนหลังจบงาน ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม - 9 ธันวาคม 2568
งานนี้เหมาะกับใคร ?
✅ผู้ที่ต้องการสร้างหรือต่อยอดความมั่งคั่งให้ตัวเอง
✅ผู้ที่ต้องการหาแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจของตัวเอง
✅ผู้ที่สนใจเรื่องธุรกิจ การตลาด
✅ผู้ที่สนใจและอยากหาไอเดียการลงทุน
จองบัตร ดูย้อนหลังได้ที่ที่ลิงก์นี้ https://www.zipeventapp.com/e/longtunmansummit2025
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.