เจาะกลยุทธ์ Mekha V บริษัทเทคในเครือ ปตท. ผู้อยู่เบื้องหลัง ระบบดิจิทัลของบริษัทใหญ่ในไทยหลาย ๆ เจ้า

ปัจจุบันมีองค์กรไทยจำนวนไม่น้อยที่ลงทุนกับเทคโนโลยี แต่ผลลัพธ์กลับไม่ตอบโจทย์
ซื้อระบบมาแล้วใช้ไม่ได้จริง พนักงานไม่เข้าใจ หรือระบบที่ใช้กลับไม่เข้ากับขั้นตอนการทำงานจริงในองค์กร

ที่สำคัญ หลายระบบถูกออกแบบมาในรูปแบบ One Size Fits All สำหรับต่างประเทศ ไม่สอดคล้องกับบริบทในไทย เช่น วัฒนธรรมองค์กรที่ซับซ้อน หรือขั้นตอนอนุมัติที่มีความยืดหยุ่นเฉพาะตัว

และยังมีอีกหลายองค์กรในไทยที่ยังสะดุดกับคำว่า “Digital Transformation”
หรือการเปลี่ยนผ่านองค์กรด้วยเทคโนโลยี

ซึ่งในทางปฏิบัติไม่ใช่แค่เรื่องของการซื้อซอฟต์แวร์ใหม่ แต่ต้องเข้าใจคน กระบวนการ และบริบทเฉพาะของแต่ละองค์กรเป็นอย่างดี

ซึ่งตอนนี้มีหนึ่งในผู้เล่นไทยที่พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้
นั่นคือ Mekha V บริษัทเทคโนโลยีในเครือ ปตท.

แล้ว Mekha V ทำอะไรได้บ้าง และมีกลยุทธ์อะไรในการเจาะตลาดไทย ?
BrandCase สรุปให้แบบเข้าใจง่าย ๆ ในบทความนี้

Mekha V หรือ บริษัท เมฆา วี จำกัด เป็นบริษัทเทคโนโลยีในเครือ ปตท. ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็น Tech Enabler ซึ่งเป็นเหมือนผู้สนับสนุน ให้ธุรกิจอื่น ๆ ในไทยสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สิ่งที่ทำให้ Mekha V แตกต่างจากที่ปรึกษาทั่วไปคือ ความเข้าใจในภาพรวมของการเปลี่ยนแปลง ที่ไม่ใช่แค่ด้านเทคโนโลยี แต่รวมถึงคน กระบวนการ และวัฒนธรรมองค์กรในไทย

จุดเด่นเหล่านี้ทำให้ Mekha V สามารถช่วยองค์กรในไทยหลายราย ให้สามารถเปลี่ยนการทำธุรกิจในแบบเก่า ๆ ไปสู่รูปแบบดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ผ่านการให้บริการตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการ (Consulting) ไปจนถึงการพัฒนาและดูแลระบบ (Implementation & Support)

โดย Mekha V จะมี Solutions หลักที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ AI and Digital Transformation และ Sustainability Solutions ซึ่งเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการปรับตัวในยุคดิจิทัลและต้องการความยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน

ด้วยการใช้ 3 กลยุทธ์หลักในการบุกตลาดไทย ได้แก่

1. การออกแบบโซลูชันแบบเฉพาะเจาะจง (Tailor-Made Solutions)

ถ้าดูตลาดเทคโนโลยีไทยในปัจจุบัน ส่วนใหญ่บริษัทจะขายซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ แล้วให้ลูกค้าไปหาทางใช้เอง แต่สิ่งที่ Mekha V ทำคือ การศึกษาปัญหาของลูกค้าก่อน แล้วค่อยออกแบบระบบที่ตอบโจทย์เฉพาะสำหรับงานนั้น ๆ ออกมา

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ แทนที่ Mekha V จะขายระบบ AI ทั่วไป แต่ Mekha V จะพัฒนาโซลูชันที่ใช้ AI ที่สามารถอ่านและแยกประเภทเอกสารราชการได้

เพราะทีมงานรู้ว่า หนึ่งใน Pain Point สำคัญของหน่วยงานรัฐที่เป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนธุรกิจเข้าสู่ดิจิทัลคือ เรื่องของเอกสารที่มีจำนวนเยอะและมีความซับซ้อน

ซึ่งการขายโซลูชันสำหรับแก้ปัญหาแบบเฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าแต่ละราย จะช่วยให้ลูกค้าได้ระบบที่พร้อมใช้งานจริง ไม่ต้องมาปรับแต่งเองให้เปลืองเวลา

ที่สำคัญคือ เมื่อลูกค้าใช้แล้วได้ผล การเปลี่ยนไปใช้ของคนอื่นก็จะยากขึ้น เพราะต้องเริ่มต้นใหม่หมด

2. ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก สร้าง Ecosystem ให้มีคนเก่ง ๆ ในตลาดไทยมากขึ้น

Mekha V เป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่าง Microsoft ซึ่ง​​การร่วมมือนี้ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และทำให้ Mekha V สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น

การเป็นพาร์ตเนอร์นี้ทำให้ Mekha V สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจากเจ้าใหญ่ ๆ ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องวิจัยพัฒนาทุกอย่างเอง แต่สามารถใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาแล้วจากยักษ์ใหญ่เหล่านี้ มาปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของตลาดในไทย

มากไปกว่านั้นคือ Mekha V ไม่ได้แค่นำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเดียว แต่ยังมีการสร้างบุคลากรไทยผ่านการอบรม และการร่วมพัฒนา Use Case จริงกับบริษัทชั้นนำเหล่านี้ ซึ่งเป็นการสร้าง Ecosystem ที่ทำให้มีคนเก่ง ๆ ในตลาดไทยมากขึ้น

3. ขายผลงานจริง มากกว่าขายแค่ Concept

หนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ Mekha V แตกต่างคือ ความเข้าใจในบริษัทไทยอย่างลึกซึ้ง
ไม่ใช่แค่รู้ว่าต้องทำอะไร แต่รู้ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น

ข้อได้เปรียบของ Mekha V คือ การเข้าใจดีว่าหน้างานในองค์กรไทยมีปัญหาอะไรจริง ๆ ความต้องการที่แท้จริงคืออะไร และแต่ละบริษัทมีข้อจำกัดแบบไหน

จากประสบการณ์ที่เล่ามานี้ ช่วยให้ Mekha V เข้าใจวัฒนธรรมองค์กรไทย ตั้งแต่รูปแบบการตัดสินใจ ขั้นตอนอนุมัติ ไปจนถึงการระบุว่าใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจตัวจริง ซึ่งจุดนี้เองที่บริษัทต่างชาติมักมองข้าม

เมื่อเข้าใจพื้นฐานการทำงานทั้งหมดนี้ เวลาที่ Mekha V เข้าไปพัฒนาระบบให้ลูกค้า จึงสามารถเข้าใจปัญหาและเสนอวิธีแก้ที่ตรงจุดกับปัญหาเฉพาะของแต่ละบริษัทได้เป็นอย่างดี

เช่น นำ AI เข้ามาช่วยในการจัดการงานเอกสารที่มีความซับซ้อนและข้อมูลเยอะ, การวางระบบ Digital Twin ให้โรงงานอุตสาหกรรม หรือการพัฒนาแช็ตบอตภาษาไทยที่มีความแม่นยำสูง

แล้ว Mekha V สามารถทำอะไรได้บ้าง ?

หนึ่งในผลงานเด่นของ Mekha V คือ โครงการ Smart Building ในจังหวัดระยอง

โครงการนี้เป็นการเปลี่ยนอาคารให้กลายเป็นต้นแบบของ Smart Building ที่รวมเทคโนโลยีเข้ากับแนวคิดเรื่องพลังงานสะอาด ตั้งแต่

- Solar Rooftop ผลิตพลังงานหมุนเวียน ใช้จริงในอาคาร
- IoT Sensor ครอบคลุมทั้งอาคาร วัดสภาพอากาศ (แดด, ลม, ความชื้น) แสดงผลแบบเรียลไทม์
- AI Camera ตรวจจับความหนาแน่นและจำนวนผู้เข้าออก แยกรายชั้นได้ทันทีผ่าน Dashboard
- Energy Dashboard วิเคราะห์การใช้พลังงานแยกชั้น ทั้งไฟฟ้าปกติและพลังงานสะอาด
- Fall Detection ระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดการล้ม เพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่

โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกประมวลผลแบบเรียลไทม์ผ่าน Dashboard ที่ Mekha V ออกแบบ ทำให้ผู้ดูแลอาคารสามารถควบคุมพลังงานและความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากโครงการ Smart Building แล้ว Mekha V ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกหลากหลายอย่างที่เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จในหลายอุตสาหกรรม เช่น

- CarbonNote แพลตฟอร์มบริหารจัดการคาร์บอนที่เปลี่ยนวิธีการติดตามและจัดการการปล่อยคาร์บอนขององค์กรแบบครบวงจร ตั้งแต่การเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ผ่านระบบ IoT

และการวิเคราะห์การใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอนแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการแสดงผลผ่าน Dashboard ที่ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจภาพรวมได้ทันที

- OLAF AI เป็นผู้ช่วยจดประชุมอัตโนมัติที่เข้าใจภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาการบันทึกรายงานการประชุม (MoM) ที่เคยใช้เวลานานและต้องอาศัยคนจำนวนมาก

ด้วยการเร่งกระบวนการทำงานได้มากกว่า 67% ลดเวลาการบันทึกรายงานเหลือน้อยกว่า 40 นาทีโดยแทบไม่ต้องใช้แรงงานคน และเปลี่ยนงานที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงให้เสร็จสิ้นในเวลาเพียงไม่กี่นาที

- ABDUL AI เป็นผู้ช่วยตอบคำถามขององค์กรที่แก้ปัญหาการค้นหาข้อมูลในองค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดเวลาการเตรียมข้อมูลก่อนตัดสินใจลงได้ 60-70% เปลี่ยนการทำงานที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงให้เสร็จในไม่กี่วินาที

- AI for Documentation ที่ช่วยตรวจสอบเอกสารจำนวนมากที่ซับซ้อนและซ้ำซ้อนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ช่วยลด Human Error จากการตรวจสอบทีละใบได้อย่างมีนัยสำคัญ

จากที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เราจะเห็นได้ว่า Mekha V ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทคโนโลยีขั้นสูงกับภาคธุรกิจ

ช่วยให้หลายองค์กรในไทยสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานจากรูปแบบเดิม ไปสู่การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเติบโตของ Mekha V จึงไม่ได้เป็นแค่ความสำเร็จของบริษัทเดียว
แต่เป็นเหมือนสัญญาณดี ๆ ที่บอกเราว่า เมืองไทยเรากำลังจริงจังกับเรื่องดิจิทัลแล้ว..