รวม 30 อินไซต์ ธุรกิจร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ในไทยปี 2568 ไอเดียสำหรับ คนทำธุรกิจ จากศูนย์วิจัยกสิกรไทย

KResearch หรือศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีการเผยแพร่ Industry Analysis and Outlook เรื่องแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม
BrandCase สรุปอินไซต์น่าสนใจให้ ใน 30 ข้อ

1. เดิมที ณ เดือนธันวาคม 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยคาดว่า ปีนี้ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในไทย จะโตเกือบ 4.6% ตอนนี้ปรับคาดการณ์ใหม่ ภาพรวมเหลือแค่โต 2.8%

2. แยกประเภทเป็น ธุรกิจร้านอาหารในปี 2568 คาดเติบโต 3.0% จากปี 2567 และร้านเครื่องดื่ม (รวมร้านเบเกอรีและไอศกรีม) คาดเติบโต 1.9% จากปี 2567

3. เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นเต็มที่ และมีความไม่แน่นอนสูง จากกำลังซื้อคนไทยยังไม่กลับมาเท่าไร ทำให้คนระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายนอกบ้านมากขึ้น

4. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เป็นไปตามคาด จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงราว 1% ตั้งแต่ต้นปี 2568 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจร้านอาหารที่พึ่งพานักท่องเที่ยว

5. จำนวนคนไทยที่เที่ยวในประเทศ แม้ยังมีทิศทางขยายตัว แต่จากปัจจัยทางเศรษฐกิจทำให้บางกลุ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

6. ปัจจัยหลักที่ยังสนับสนุนธุรกิจนี้อยู่ ได้แก่
- ไลฟ์สไตล์ที่เคยชินกับการทานอาหารนอกบ้าน
- การสั่งมารับประทานมากขึ้น
- แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ ที่เข้ามาทำตลาด
- การขยายสาขาของผู้ประกอบการ
- และการจัดโปรโมชันร่วมกับแอปพลิเคชัน Food Delivery

7. ไตรมาส 1 ปี 2568 ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มมีการจดทะเบียนจัดตั้งกิจการใหม่ 973 ราย ลดลง 11.0% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

8. แต่จากข้อมูลของ LINE MAN Wongnai พบว่า ไตรมาส 1 ปี 2568 พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีร้านอาหารเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 4.8% จากสิ้นปี 2567

9.ผู้ประกอบการไม่ว่าจะรายเล็กใหญ่ เก่าหรือใหม่ ยังคงให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเปิดร้านใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม

10. กรุงเทพมหานคร ยังคงเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร โดยเฉพาะเขตจตุจักร ปทุมวัน ประเวศ พระนคร และลาดกระบัง ที่มีการกระจุกตัวสูงสุดของร้านอาหารและเครื่องดื่มมากสุด

11. จังหวัดอื่น ๆ ที่ร้านอาหารและเครื่องดื่มเปิดตัวเยอะ ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งทั้งหมดเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวปริมาณมาก

12. ภาวะการแข่งขันของอุตสาหกรรมยังรุนแรง การลงทุนเปิดร้านใหม่อาจต้องระมัดระวัง

13. หลายร้านมีการปรับโมเดลการทำธุรกิจโดยการสร้างแบรนด์ใหม่ หรือการรีแบรนด์เดิม เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ ส่วนบางรายมีการปิดสาขาหรือร้านที่ไม่สามารถแข่งขันได้

14. ร้านร่วมสมัย หรือ Contemporary Casual กำลังเป็นที่นิยม โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่ม Gen Z

15. แบรนด์ต่างประเทศบุกไทยมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีน ที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนร้านอาหารสูงสุดทั้งในช่วงปี 2567 และไตรมาสแรก ปี 2568

16. ร้านระดับกลาง-บน (ราคาเฉลี่ยประมาณ 500 บาทต่อจานขึ้นไป) จับกลุ่มผู้บริโภคกำลังซื้อสูง มีการเปิดตัวมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงตลาด Mass และผลกระทบจากเศรษฐกิจ

17. ร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ คาดเติบโต 1.1% แต่อาจเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และการที่ผู้บริโภคมีการปรับลดค่าใช้จ่าย หรือความถี่ในการทานอาหารนอกบ้าน

18. ร้านบุฟเฟต์ ยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่มองเรื่องความคุ้มค่า

19. ร้านที่ลูกค้าต้องเดินมาสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ และบริการตัวเองในบางส่วน เช่น ร้านอาหาร Fast Food คาดเติบโต 2.7% จากปี 2567
เพราะการขยายสาขา และการเปลี่ยนรูปแบบร้านจาก Full Service มาเป็นแบบ Quick Service มากขึ้น

20. ร้าน Street Food ที่มีหน้าร้าน คาดเติบโต 4.7% จากปี 2567 เพราะเป็นเมนูพื้นฐาน เข้าถึงง่าย ราคาไม่แพง แถมยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและโซเชียลมีเดีย

21. มูลค่าตลาดร้านเครื่องดื่ม (รวมร้านเบเกอรีและไอศกรีม) คาดเติบโต 1.9% จากปี 2567 จากการขยาย
สาขาของผู้ประกอบการไทย รวมถึงการขยายแฟรนไชส์ร้านเครื่องดื่มของชาวต่างชาติ ที่น่าจะเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น

22. ร้านเครื่องดื่มและเบเกอรีใหม่ ๆ จากต่างประเทศ รวมถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพพรีเมียมที่ได้รับความนิยมมีส่วนกระตุ้นความต้องการบริโภคเครื่องดื่มและเบเกอรีมากขึ้น

23. ต้นทุนผู้ประกอบการพุ่งไม่หยุด ทั้งค่าแรง ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และที่หนักสุดคือ ราคาวัตถุดิบที่ผันผวน

24. โดยราคาวัตถุดิบ คิดเป็นประมาณ 35% ของต้นทุน มีทิศทางผันผวนสูง จากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น, สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง, นโยบายภาษีจากสงครามการค้า

25. ราคาไข่ไก่ และเนื้อหมูสดแพงขึ้น ขณะที่สินค้านำเข้า เช่น นมผง เนย ชีส แป้งสาลีโกโก้ และเมล็ดกาแฟ ผันผวนในระดับสูง ทำให้กลุ่มร้านเครื่องดื่ม ร้านเบเกอรี ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

26. พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว

27. ความภักดีต่อแบรนด์ของผู้บริโภคต่ำลง เปลี่ยนตามกระแสได้ตลอดเวลา

28. โจทย์ที่ท้าทายของผู้ประกอบการในปีนี้ คือ ความสามารถในการปรับรูปแบบธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

29. การรักษาผลกำไรของธุรกิจให้สม่ำเสมอ ก็เป็นอีกโจทย์ท้าทายสำคัญ เพราะตลาดที่เข้าง่าย ทำให้มีการแข่งขันสูงจากจำนวนผู้ให้บริการที่มีมาก

30. 5 ปัจจัยสำคัญ ที่กลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ได้แก่
- ความแปลกใหม่
- ประสบการณ์
- คุณภาพ
- สุขภาพ
- ราคาสมเหตุสมผล

Reference
-https://media.settrade.com/settrade/Documents/2025/May/20250523-K-Research-Restaurant-Industry_update.pdf