“ธุรกิจร้านอาหาร เกิดง่าย ตายง่าย ส่วนธุรกิจออนไลน์ ชอบเจอปัญหา ขายดีจนเจ๊ง เพราะเน้นแต่ยอดขาย แต่ไม่ดูต้นทุน”

SME ไทย ล้มลุกคลุกคลาน อยากโตสวนเศรษฐกิจ ต้องทำอย่างไร ? | BrandCase
-คุณธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด พูดถึงภาพรวมของ SME ไทย ในรายการ Talk ลงทุนแมน ถึงประเด็นว่า “SME ไทย ล้มลุกคลุกคลาน อยากโตสวนเศรษฐกิจ ต้องทำอย่างไร ?”

ในรายการมีหลายเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ที่คนทำธุรกิจในยุคนี้จำเป็นต้องรู้
รวมถึงกลยุทธ์ที่จะทำให้ธุรกิจเจ้าเล็ก ๆ อยู่รอดในตลาด

BrandCase สรุปออกมาได้เป็น 4 ข้อ

ที่ผ่านมาว่าแย่แล้ว แต่ยังแย่ได้อีก

อาจารย์ธันยวัชร์มองว่า ปี 2569 จะยากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจโลกเริ่มรุนแรงขึ้น

สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่รุนแรงมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

เรียกได้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของ SME ไทยอยู่ในช่วงที่น่าเป็นห่วง ธุรกิจขนาดเล็กและกลางหลายรายทยอยปิดตัวลง ส่วนที่ยังอยู่ก็ต้องแบกรับภาระการขาดทุนสะสม

ในขณะที่ธุรกิจรายใหญ่ยังพออยู่รอดได้ เพราะมีกระแสเงินสด (Cash Flow) ที่แข็งแกร่ง
แต่รายเล็กหากสายป่านไม่ยาว ก็รอดยาก

กลุ่มธุรกิจที่เสี่ยงเจ๊งมากที่สุดในปีหน้า

ธุรกิจร้านอาหารเป็นกลุ่มที่ “เกิดง่าย ตายง่าย” โดยเฉพาะร้านบุฟเฟต์ราคาเดียวที่บริหารต้นทุนไม่ดีธุรกิจออนไลน์ จะเริ่มเจอปัญหา “ขายดีจนเจ๊ง” เพราะเน้นแต่ยอดขาย แต่ลืมคำนวณต้นทุนแฝง อย่างค่าไฟ ค่าพนักงาน และค่าขนส่ง

4 Pain Point ที่ทำให้ SME ไทยเจ๊ง

การแข่งขันจากจีนที่ไม่เป็นธรรม
ไทยกำลังเสียอธิปไตยทางเศรษฐกิจให้จีน สินค้าจีนทะลักเข้ามาขายตัดราคา โดยไม่ต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมเหมือนผู้ประกอบการไทย ทำให้โรงงานไทยหลายเจ้าเจ๊งเพราะสู้ต้นทุนไม่ได้แพลตฟอร์มต่างชาติ
ตอนนี้ SME ไทยกำลังกลายเป็นเหมือนลูกจ้างของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างชาติ ที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม (GP) ค่าขนส่ง และค่าโฆษณาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบไม่เหลือกำไร

รวมถึงข้อมูลลูกค้าที่ซื้อของจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ ไม่ได้ถูกส่งต่อมาถึงเจ้าของแบรนด์ที่เข้ามาขาย

พูดง่าย ๆ ก็คือทั้งข้อมูลลูกค้าและเงินไหลออกไปอยู่กับแพลตฟอร์มต่างชาติเสียส่วนใหญ่

ทุนสีเทาฆ่าตลาด
มีทุนผิดกฎหมายเข้ามาทำธุรกิจเพื่อฟอกเงิน โดยไม่สนใจกำไรขาดทุน ทำให้สามารถขายสินค้าต่ำกว่าทุนในราคาที่ถูกมาก เพื่อฆ่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่เป็นธุรกิจสุจริตหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อที่หดตัว
คนไทยมีหนี้สินสูง กำลังซื้อลดลง แม้แต่เด็กจบใหม่ก็มีรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจไม่หมุนเวียน และเงินไม่มีในระบบ

4 กลยุทธ์ ที่จะทำให้ SME ไทยรอด

อาจารย์ธันยวัชร์บอกว่า ผู้ประกอบการที่จะรอดได้ในยุคนี้ต้องมีทั้ง “เก่ง” และ “เฮง”

ซึ่งในทางธุรกิจ “เฮง” ไม่ใช่หมายถึงแค่ โชคชะตา
แต่คือ Timing (จังหวะเวลา) + People (คน) ที่มีความพร้อม

ซึ่งผู้ประกอบการที่จะรอดได้ ต้องมี 4 อย่างนี้ ได้แก่

มองเห็นโอกาสก่อนคนอื่น
เจ้าของธุรกิจต้องเรียนรู้ที่จะมองจากศักยภาพที่ตัวเองมีก่อน จากนั้นจึงมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้เจอ
และนำไปสู่ ความรุ่งเรืองหรือการเติบโตอย่างมั่งคั่ง

ตัวอย่างเช่น การมองเห็นเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ หรือธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ก่อนที่ตลาดจะเริ่มมีคนเข้ามาทำเยอะ

รู้เรา รู้โครงสร้างต้นทุน
เจ้าของธุรกิจต้องรู้จุดแข็งของตนเอง เข้าใจโครงสร้างต้นทุนทั้งหมด และบริหารการเงินให้เป็น ไม่ใช่แค่ทำการตลาดเก่งอย่างเดียว เพราะการตลาดที่ดีแต่การเงินแย่จะนำไปสู่ความล้มเหลวสร้างความแตกต่าง
อย่าทำธุรกิจแบบ “Me too” คือทำเหมือน ๆ กับคนอื่น ใครทำอะไรก็ทำตาม ต้องหาจุดเด่นที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ และสร้างคุณค่าที่ไม่ซ้ำใครเรียนรู้การ Scaling
เมื่อธุรกิจโตถึงจุดหนึ่ง ต้องรู้วิธีขยายขนาด (Scale up) ซึ่งอาจหมายถึงการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น หรือการจ้างมืออาชีพเข้ามาบริหารแทนระบบครอบครัว

เพราะบางธุรกิจ เจ้าของอาจเป็น Founder ที่ดี
แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรให้ Scaler เข้ามาขยายธุรกิจ

Reference
-https://youtu.be/RCFBJtFl4Ik?si=z3XFN7b5CYr7o0Sk