สรุปเรื่อง ร้านสุกี้ Hot Pot Buffet ตอนนี้เหลือ 3 สาขา ทั่วประเทศ

สรุปเรื่อง ร้านสุกี้ Hot Pot Buffet ตอนนี้เหลือ 3 สาขา ทั่วประเทศ

4 มิ.ย. 2024
รู้ไหมว่า ก่อนหน้านี้ Hot Pot Buffet เหลืออยู่ทั้งหมด 4 สาขา คือ 
- ซีคอนบางแค
- เซ็นทรัล พลาซา อุบลราชธานี
- เซ็นทรัล พลาซา อุดรธานี 
- เดอะมอลล์ โคราช 
นั่นหมายความว่า สาขาที่ ซีคอนบางแค ถือเป็นร้าน Hot Pot Buffet สาขาสุดท้ายที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร 
ส่วนที่เหลือนั้นจะตั้งอยู่ในต่างจังหวัดทั้งหมด โดยอยู่ในทางภาคอีสาน 
แต่ล่าสุดเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ก็ได้มีเพจ หาของกิน ได้มาแชร์ว่า 
Hot Pot Buffet ที่สาขาซีคอนบางแคได้ประกาศปิดตัวลงไปแล้ว 
ทำให้ปัจจุบัน Hot Pot Buffet เหลือแค่เพียง 3 สาขาในต่างจังหวัดที่เหลือเท่านั้น 
และสาขาที่เหลือก็น่าจะเจอศึกหนักเช่นกัน เพราะตอนนี้มีคู่แข่งรอบด้านมากมายเต็มไปหมด 
สถานการณ์ของสุกี้บุฟเฟต์เจ้านี้เป็นอย่างไรในตอนนี้
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ ..
ปัจจุบัน Hot Pot Buffet เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือของ บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JCKH
ซึ่งนอกจาก Hot Pot Buffet แล้ว 
JCKH ยังมีแบรนด์ร้านอาหารอื่น ๆ อีกหลายแบรนด์ รวมถึงแบรนด์ปิ้งย่างดังที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันในสมัยก่อนอย่าง Daidomon
แล้ว JCKH มีแบรนด์ในเครืออะไรบ้าง ? 
อ้างอิงจากข้อมูลจากรายงานประจำปี 2566 ที่ผ่านมา 
- ฮอท พอท (Hot Pot) จำนวนสาขา 5 สาขา 
ซึ่งถ้าอ้างอิงจากข้อมูลอัปเดตล่าสุดจะเหลือแค่เพียง 3 สาขา โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี 2567 ก็มีปิดไปแล้ว 1 สาขาคือที่ เซ็นทรัล พลาซา พิษณุโลก และล่าสุดคือ ซีคอนบางแค 
- ไดโดมอน โคเรียน กริลล์ (Daidomon Korea Grill) จำนวน 2 สาขา 
- เจิ้งโต่วแกรนด์ (Zheng Dou Grand) ร้านอาหารจีน จำนวน 1 สาขา 
- ชาบู โทโมะ (Shabu TOMO) ร้านชาบูพรีเมียม จำนวน 5 สาขา
- Burger & Lobster เชนร้านล็อบส์เตอร์ชื่อดังจากอังกฤษ จำนวน 1 สาขา 
- อั่ย หั่ว กัว (AI HUO GUO) ร้านชาบูหม่าล่าสายพานพรีเมียม จำนวน 2 สาขา 
นอกจาก Hot Pot Buffet จะเจอศึกหนักแล้ว แบรนด์อื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะเจอศึกหนักเช่นกัน
อย่างแบรนด์ Daidomon ที่เมื่อสิ้นปีรายงานว่าเหลืออยู่ 2 สาขา แต่ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ประกาศปิดตัวไป 1 สาขา 
ทำให้เหลือเพียงสาขาสุดท้ายเท่านั้นคือที่ สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต 
และล่าสุดเมื่อ วันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง JCKH ก็ได้ออกมาชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า 
ได้ทำการขายทรัพย์สินและสิทธิการเช่า ร้าน Zheng Dou Grand และ Shabu TOMO สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์รวม 2,000,000 บาท 
ให้กับบริษัท อตาลันต้า ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด หรือ AH ซึ่งเป็นบริษัทของหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง คุณอรรถวุฒิ เตชะอุบล
เพื่อนำเงินไปใช้ชำระหนี้ รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และเพื่อลดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 
โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีการปิดตัว Shabu TOMO สาขาเมกาบางนาไปด้วย
ทำให้สรุปแล้ว ณ เวลานี้ ถ้าอ้างอิงจากข่าวทั้งหมด JCKH จะเหลือแบรนด์อยู่ในมือทั้งหมดดังนี้
- ฮอท พอท (Hot Pot) 3 สาขา 
ที่เซ็นทรัล พลาซา อุบลราชธานี, เซ็นทรัล พลาซา อุดรธานี, และเดอะมอลล์ โคราช 
- ไดโดมอน โคเรียน กริลล์ (Daidomon Korea Grill) 1 สาขา 
ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต 
- ชาบู โทโมะ (Shabu TOMO) 3 สาขา 
ที่เซ็นทรัลเวสต์เกต, เซ็นทรัลพระราม 2 และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค 
ส่วนสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ที่ขายไปก็ยังให้บริการตามปกติ 
- Burger & Lobster 1 สาขา 
ที่ศูนย์การค้า Gaysorn Village 
- อั่ย หั่ว กัว (AI HUO GUO) 2 สาขา 
ที่เซ็นทรัลพระราม 2 และ บิ๊กซีราชดำริ
ผลประกอบการย้อนหลังของ JCKH 
ปี 2564 รายได้ 444 ล้านบาท ขาดทุน 340 ล้านบาท 
ปี 2565 รายได้ 544 ล้านบาท ขาดทุน 228 ล้านบาท 
ปี 2566 รายได้ 398 ล้านบาท ขาดทุน 109 ล้านบาท 
ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 รายได้ 49 ล้านบาท ขาดทุน 38 ล้านบาท 
และถ้ามาลองวิเคราะห์ก็จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมธุรกิจร้านอาหารของบ้านเรานั้น มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง โดยจะเห็นได้ว่า ในทุกกลุ่มธุรกิจของ JCKH นั้นมีคู่แข่งมากมาย 
โดยอ้างอิงจากรายงานประจำปี 2566 JCKH ได้ระบุคู่แข่งที่มีลักษณะใกล้เคียงหรือดำเนินธุรกิจคล้าย ๆ กันดังนี้คือ 
- คู่แข่งร้านอาหารประเภทสุกี้
ได้แก่ เอ็มเค เรสโตรองต์, Mo-Mo-Paradise, ชาบูชิ, You&I Premium Suki Buffet, สุกี้ตี๋น้อย, ชาบูนางใน, ข้าน้อยขอชาบู, Nabezo, Shabu baru, HITORI SHABU
- คู่แข่งร้านอาหารประเภทปิ้งย่าง 
ได้แก่ บาร์บีคิวพลาซ่า, Nice2MeatU, Tohkai Yakiniku, Sukishi, Hongdae, Saemaeul, AKA และร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างอื่น ๆ ที่เป็น Stand Alone
- คู่แข่งร้านอาหารประเภทจีน ติ่มซำแบบฮ่องกง
ได้แก่ Din Tai Fung, สมบูรณ์โภชนา, HONGMIN, ฮั่วเซ่งฮง และ Four Seasons
- คู่แข่งร้านอาหารประเภท Lobster 
ได้แก่ Red Lobster, Jumbo Lobster, The Raw Bar, Lobster & More
จะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น มีร้านที่เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งเจ้าตลาดเดิมอยู่ค่อนข้างมาก 
ซึ่งแบรนด์ร้านอาหารเก่าแก่ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมานั้นก็ต้องทำงานหนัก เพื่อให้สามารถครองส่วนแบ่งเดิมต่อไปได้
อย่างที่ว่า การเป็นที่ 1 ว่ายากแล้ว แต่การจะรักษาความเป็นที่ 1 ให้ได้ต่อไปนั้น ยากยิ่งกว่าเสียอีก.. 
References
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.