กรณีศึกษา XPEL ขายฟิล์มติดรถหรู ติดบ้าน ติดเรือยอช์ต รายได้หลัก 10,000 ล้าน | BrandCase

กรณีศึกษา XPEL ขายฟิล์มติดรถหรู ติดบ้าน ติดเรือยอช์ต รายได้หลัก 10,000 ล้าน | BrandCase

18 ต.ค. 2023
ถ้าพูดชื่อ XPEL คนไทยส่วนใหญ่น่าจะไม่คุ้นกัน
แต่นี่คือบริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่มีชื่อเสียงมาก และมีสินค้าสำคัญคือ ฟิล์มกันรอย ที่ได้ทั้งติดรถหรู ติดบ้าน ไปจนถึงติดเรือยอช์ต
XPEL ยังมีนวัตกรรมฟิล์มกันรอย ที่ซ่อมตัวเองได้ด้วย..
ธุรกิจของ XPEL น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
XPEL เกิดขึ้นมาในปี 2540 โดยเริ่มต้นจากการทำธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เอาข้อมูลของรถยนต์รุ่นต่าง ๆ มาประกอบในการติดฟิล์มรถยนต์ ให้พอดีคัน
ต่อมาในปี 2550 จึงเริ่มขายฟิล์มป้องกันพื้นผิวและสีรถยนต์ เป็นแบรนด์ของตัวเองด้วย เพื่อเสริมธุรกิจซอฟต์แวร์ที่มีอยู่แต่เดิม
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ XPEL เกิดขึ้นในปี 2554
เมื่อบริษัทได้เปิดตัวนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ฟิล์มกันรอยรถยนต์รุ่น ULTIMATE
ซึ่งเป็นฟิล์มกันรอยที่มีคุณสมบัติ Self-Healing หรือซ่อมแซมตัวเองได้
คือ สามารถย้อนกลับไปอยู่ในสภาพเดิม หลังจากที่ฟิล์มได้รับความเสียหาย
ที่เป็นแบบนี้ได้ เพราะ XPEL ใช้วัสดุที่มาจากยางพอลิยูรีเทน (Polyurethane Elastomer)
ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ชนิดหนึ่ง ที่มีความยืดหยุ่น และมีความทนทานสูง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ ถ้าติดฟิล์มกันรอยแบบ ULTIMATE ของ XPEL ที่ตัวรถยนต์
ถ้าเราขับรถไปเฉี่ยวเสา ตัวฟิล์มที่โดนขูดเป็นรอย จะสามารถหดกลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงแบบเดิมได้ และป้องกันรถไม่ให้เป็นรอยได้ง่าย ๆ
นวัตกรรมนี้ ได้เข้ามาสร้างความแปลกใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมผู้ผลิตฟิล์มรถยนต์
และทำให้ผลิตภัณฑ์ของ XPEL สร้างรายได้ได้อย่างมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แล้วโมเดลธุรกิจของ XPEL น่าสนใจอย่างไร ?
ปัจจุบัน ธุรกิจหลักของ XPEL เน้นไปที่การผลิตฟิล์มป้องกันพื้นผิวและสีรถยนต์
รวมทั้งยังมีสินค้าและบริการอื่น ๆ อีก
ฟิล์มป้องกันพื้นผิวและสีสำหรับเคลือบผิว
ซึ่งก็มีหลายระดับ หลายคุณสมบัติมาก
ไล่ตั้งแต่ ป้องกันคราบสกปรก ซ่อมแซมตัวเองได้
ไปจนถึงฟิล์มและสีเคลือบผิว ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบนผิวได้
โดยมีทั้งฟิล์มและสีเคลือบที่ใช้ได้กับทั้ง รถหรู บ้าน ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงเรือยอช์ต
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ XPEL PRIMEฟิล์มกรองแสงที่ใช้กับสิ่งปลูกสร้าง ภายใต้แบรนด์ VISIONแพลตฟอร์มออนไลน์ DAP
ที่รวบรวมฐานข้อมูลรถยนต์และยานยนต์อื่นกว่า 80,000 รุ่น ซึ่งช่วยในการตัดฟิล์มป้องกันพื้นผิวและฟิล์มกรองแสง
ให้ออกมาเป็นรูปทรงรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ
โดยแพลตฟอร์มออนไลน์ DAP สร้างรายได้ให้ XPEL ในรูปแบบ Subscription ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของแพลตฟอร์มก็คือ ร้านรับติดฟิล์มรถยนต์
บริการติดตั้งฟิล์ม
เป็นบริการติดตั้งฟิล์มรถยนต์ที่ทาง XPEL เป็นผู้ดำเนินการเอง และผ่านตัวแทนจำหน่ายสินค้าอื่น ๆ เช่น ม้วนฟิล์มที่ยังไม่ได้ตัด ฟิล์มเคลือบเซรามิก เครื่องมือที่ใช้ในการติดตั้งฟิล์ม
โดยผลประกอบการ ของ XPEL เป็นดังนี้
ปี 2563 รายได้ 5,600 ล้านบาท กำไร 640 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 9,100 ล้านบาท กำไร 1,100 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 11,100 ล้านบาท กำไร 1,450 ล้านบาท
โดยในปี 2565 XPEL มีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น
ฟิล์มป้องกันพื้นผิวและสีเคลือบผิว 62%บริการติดตั้งฟิล์ม 16%ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 15%ฟิล์มกรองแสงที่ใช้กับสิ่งปลูกสร้าง 2%แพลตฟอร์มออนไลน์ DAP 2%สินค้าอื่น ๆ 3%
แล้วสินค้าของ XPEL ถูกส่งไปขายที่ไหนบ้าง ?
สหรัฐอเมริกา 59%จีน 10%แคนาดา 12%ยุโรป 7.6%ตะวันออกกลาง/แอฟริกา 3.2%สหราชอาณาจักร 3.2%เอเชียแปซิฟิก 2.8%ลาตินอเมริกา 1.7%อื่น ๆ 0.5%
สรุปคือ รายได้ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 60%
ส่วนตลาดรองลงมาคือ จีน แคนาดา และยุโรป
ส่วนในไทย ก็มีบริษัทหรือร้านที่รับติดฟิล์ม XPEL อยู่บ้างเหมือนกัน
โดยปัจจุบัน XPEL จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ในสหรัฐอเมริกา
และมีมูลค่าตลาดกว่า 77,000 ล้านบาท
References
-Annual Report 2022 Form 10-K XPEL
-https://www.nasdaq.com/market-activity/stocks/xpel/financials
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.