Adidas VS Puma แบรนด์เยอรมัน ที่เกิดจากศึกสายเลือด พี่น้องร่วมตระกูล

Adidas VS Puma แบรนด์เยอรมัน ที่เกิดจากศึกสายเลือด พี่น้องร่วมตระกูล

24 พ.ค. 2023
Adidas VS Puma แบรนด์เยอรมัน ที่เกิดจากศึกสายเลือด พี่น้องร่วมตระกูล | BrandCase
รู้หรือไม่ ? Adidas กับ Puma มีจุดเริ่มต้นมาจาก 2 พี่น้องตระกูลเดียวกัน คือตระกูล Dassler
2 พี่น้องตระกูลนี้ ร่วมกันสร้างธุรกิจรองเท้ามาด้วยกัน แต่จบลงด้วยการกลายเป็นคู่แข่งในเวลาต่อมา
แล้วเรื่องราวของ Adidas และ Puma เริ่มต้นขึ้นอย่างไร ?
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ 2 พี่น้องต้องแตกหักกัน
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นในปี 1918
Adolf Dassler ได้เกิดไอเดียที่ต้องการพัฒนารองเท้าสำหรับกีฬาโดยเฉพาะ
แต่เนื่องจากในช่วงนั้นเยอรมนี เพิ่งจะผ่านสงครามโลกครั้งที่ 1 มา ทำให้การหาวัสดุและเครื่องจักรมาผลิตรองเท้า จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
นั่นทำให้ Adolf ต้องนำของเหลือจากสงคราม
อย่างเช่น หนัง จากหมวกทหาร และผ้า จากร่มชูชีพ มาผลิตรองเท้า
ก่อนที่ในอีก 5 ปีต่อมาก็มีตัวละครเพิ่มขึ้นอีกคน คือ Rudolf Dassler พี่ชายของ Adolf Dassler
Rudolf ตัดสินใจเข้ามาช่วยธุรกิจ และร่วมมือกันตั้งโรงงานผลิตรองเท้า ชื่อว่า Dassler Brothers Sports Shoe Factory ขึ้นในเยอรมนี
โดยสินค้าหลักของโรงงานนี้ คือ รองเท้าวิ่ง และรองเท้าฟุตบอล
แต่กว่าที่รองเท้าของ 2 พี่น้อง จะเริ่มได้รับความนิยม ก็คือปี 1936
จากการที่นักวิ่งชื่อ Jesse Owens ใส่รองเท้าของพวกเขาลงแข่งขันวิ่งโอลิมปิก และสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 4 เหรียญทอง
รองเท้าของพี่น้อง Dassler เริ่มขายดิบขายดี จนต้องแตกไลน์สินค้าออกไปเป็นรองเท้ากีฬาถึง 11 ชนิด
และเพิ่มกำลังการผลิตเป็นหลัก 1,000 คู่ต่อวัน
อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้น
Rudolf ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ในขณะที่ Adolf กลับได้อยู่ดูแลโรงงาน เพื่อผลิตสินค้าป้อนให้กับทางกองทัพ
เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับ Rudolf เป็นอย่างมาก
และเริ่มคิดว่า Adolf น้องชายของเขา สมคบคิดกับฝ่ายทหาร เพื่อต้องการจะ Takeover โรงงานไปเป็นของตัวเอง
โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ความบาดหมางระหว่างพี่น้อง ก็ยกระดับไปอีกขั้น
เมื่อมุมมองในการทำธุรกิจของทั้งคู่นั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
Adolf ต้องการจะพัฒนารองเท้าที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้เหมาะกับกีฬาแต่ละประเภทมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ Rudolf ต้องการโฟกัสไปกับผลกำไรของบริษัท โดยการเน้นบริหารต้นทุน มากกว่าโฟกัสการพัฒนารองเท้าประสิทธิภาพสูง
และจุดแตกหักก็มาถึงในปี 1948
เมื่อ Rudolf ตัดสินใจ ออกจากบริษัท และนำพนักงาน 1 ใน 3 ไปตั้งโรงงานรองเท้าใหม่ อีกฟากหนึ่งของเมือง
โดยตั้งชื่อบริษัทว่า Ruda ที่มาจาก 2 ตัวอักษรแรกของชื่อและนามสกุล ก่อนที่ในภายหลังจะเปลี่ยนเป็น Puma
ในด้านคนน้องอย่าง Adolf ก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น Adidas
ซึ่งก็มาจากชื่อเล่นและนามสกุลเหมือนกัน
โดยหลังจาก 2 พี่น้องกลายเป็นคู่แข่งกันไปแล้วนั้น ในด้านของ Adidas ก็ยังคงพัฒนารองเท้ากีฬาหลาย ๆ ชนิด
โดยมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพของรองเท้าเป็นหลัก
และมีเอกลักษณ์เป็น แถบ 3 เส้น ที่กลายเป็นภาพจำของ Adidas มาจนถึงวันนี้
ส่วน Puma ก็หันไปโฟกัสกับการพัฒนารองเท้าฟุตบอลและรองเท้าวิ่ง
โดยเลือกใช้โลโก “สิงโตภูเขา” บนรองเท้า เพื่อแสดงถึง ความคล่องตัวและความรวดเร็ว
โดยปี 2022 ที่ผ่านมา Adidas มีรายได้ 838,483 ล้านบาท กำไร 9,464 ล้านบาท
ส่วน Puma มีรายได้ 315,359 ล้านบาท กำไร 13,170 ล้านบาท
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
แม้ว่าทั้ง 2 แบรนด์ จะมีจุดเริ่มต้นมาจาก 2 พี่น้อง Dassler
แต่ปัจจุบัน ทายาทของทั้ง 2 พี่น้อง ไม่ได้มีส่วนสำคัญในการบริหารบริษัทเลย
โดย Adidas ประกอบไปด้วยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อย่าง Investment company และกองทุนรวม
ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Puma คือ Kering
บริษัทเจ้าของแบรนด์หรู อย่างเช่น Gucci และ Balenciaga
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.