POP MART ทำอย่างไร ขายกล่องสุ่มฟิกเกอร์ ได้ 20,000 ล้าน

POP MART ทำอย่างไร ขายกล่องสุ่มฟิกเกอร์ ได้ 20,000 ล้าน

1 ธ.ค. 2022
POP MART ทำอย่างไร ขายกล่องสุ่มฟิกเกอร์ ได้ 20,000 ล้าน | BrandCase
POP MART เป็นร้านขายกล่องสุ่มโมเดลฟิกเกอร์สัญชาติจีน โดยแบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2010
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ บริษัทแห่งนี้ มีรายได้กว่า 22,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
จึงน่าสนใจที่จะมาตั้งคำถามกันว่า
POP MART ทำอย่างไร ให้ขายกล่องสุ่มฟิกเกอร์ จนมีรายได้ หลัก 20,000 ล้านบาท
BrandCase จะอธิบายเคสนี้ให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
ปูพื้นฐานกันสักนิดว่า โมเดลของ POP MART ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “กาชาปอง” หรือตู้ขายของเล่นอัตโนมัติ ในประเทศญี่ปุ่น
คือผู้ซื้อจะต้องหยอดเหรียญ เพื่อกดแคปซูลออกมา แล้วลุ้นว่าจะได้ตัวการ์ตูนอะไร
ซึ่งถ้ามีกิมมิกแค่นี้ มันก็อาจจะยังดูธรรมดาเกินไป
แต่สิ่งที่ทำให้กล่องสุ่มฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนของ POP MART ขายดิบขายดี ก็มีเรื่องที่น่าสนใจกว่านั้น เพราะว่า..
-POP MART สร้างความน่าสนใจ ด้วยการดึงศิลปินดัง ๆ มาออกแบบคอลเลกชันฟิกเกอร์ให้
เช่น ไปดึงตัว Kenny Wong ศิลปินชื่อดังชาวฮ่องกง เจ้าของผลงาน Art Toy ชื่อว่า “Molly” ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น ให้มาออกแบบคอลเลกชัน Molly และวางขายที่ POP MART เท่านั้น
ต่อมา บริษัทก็ร่วมมือกับศิลปินอีกหลายราย เพื่อสร้างสรรค์ผลงานลิขสิทธิ์รุ่นต่าง ๆ เช่น Dimoo, SKULLPANDA, Bunny
รวมถึงไป Collapse แบบถูกลิขสิทธิ์ กับการ์ตูนและหนังดัง เช่น Spongebob หรือ Harry Potter ทำคอลเลกชันน่ารัก ๆ ให้สาวกซื้อไปสะสม
-กิมมิกการสุ่มที่ชัดเจน และมีวิธีดึงให้ลูกค้ายอมจ่าย แบบเหมาทั้งเซตไปเลย
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ
ส่วนใหญ่แล้ว POP MART จะขายกล่องสุ่มฟิกเกอร์ กล่องละ 360 บาท (ราคาตาม Official Shop ใน Shopee และ Lazada)
โดยแต่ละคอลเลกชัน ส่วนใหญ่จะจัดฟิกเกอร์เป็นเซตละ 12 ตัว เช่น คอลเลกชัน Spongebob ก็จะมีฟิกเกอร์ 12 รูปแบบให้สะสม
ทีนี้ POP MART ก็ทำกิมมิกขึ้นมาอีกว่า
ถ้าหากเราซื้อแยกเป็นกล่อง ๆ ในคอลเลกชันนั้น ๆ ก็จะมีโอกาสสุ่มได้ตัวซ้ำเดิม
แต่ถ้าเหมาซื้อเป็นเซต 12 ตัวของคอลเลกชันนั้นเลยทีเดียว จะการันตีว่า ไม่ได้ตัวซ้ำแน่นอน
หมายความว่า ก็จะมีลูกค้าที่อยากได้ครบทั้งคอลเลกชัน แบบไม่ซ้ำแบบกันเลย จึงยอมเสียเงินซื้อเหมาทั้งเซตไปเลย นั่นเอง..
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะแต่ละคอลเลกชัน มักจะมี “ตัวพิเศษ” ที่หายากกว่าตัวทั่วไป ให้ได้ลุ้นอีก 2 ตัว
โดยทาง POP MART ก็บอกไว้อย่างชัดเจนว่า โอกาสที่จะได้ตัวพิเศษ จะอยู่ที่ 1:144 หรือก็คือ ทุก 144 ตัว จะมีตัวพิเศษโผล่มาด้วย
ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นกิมมิก ระบบการสุ่มที่ดูมีชั้นเชิง
จนสามารถดึงดูดให้หลายคน ยอมจ่ายเงินซื้อทีเดียวทั้งเซต 12 ตัว แทนที่จะซื้อทีละกล่อง
ผลประกอบการของ POP MART ที่ผ่านมา
ปี 2019 รายได้ 8,300 ล้านบาท กำไร 2,200 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 12,400 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 22,200 ล้านบาท กำไร 4,200 ล้านบาท
เห็นตัวเลขแบบนี้ ก็น่าจะพอบอกได้ว่า
โมเดลและกลยุทธ์แบบนี้ของ POP MART ก็ดูจะไปได้สวยในตอนนี้
เพราะมันทำให้บริษัท ขายกล่องสุ่มฟิกเกอร์ จนมีรายได้ กว่า 22,000 ล้านบาท เลยทีเดียว..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.