
กรณีศึกษา ตรานกพิราบ ขายผักกาดดอง รายได้ 1,400 ล้าน
31 ต.ค. 2022
กรณีศึกษา ตรานกพิราบ ขายผักกาดดอง รายได้ 1,400 ล้าน | BrandCase
ต้มกระดูกหมูร้อน ๆ ใส่ผักกาดดอง น่าจะเป็นหนึ่งในเมนูที่หลายคนชื่นชอบ
พอพูดถึงผักกาดดองแล้ว หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คือ “ผักกาดดอง ตรานกพิราบ”
พอพูดถึงผักกาดดองแล้ว หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คือ “ผักกาดดอง ตรานกพิราบ”
รู้ไหมว่าผักกาดดองกระป๋องเล็ก ๆ แบบนี้ แต่สามารถทำรายได้ระดับพันล้านบาท
ทั้ง ๆ ที่แทบจะไม่ค่อยโฆษณาเท่าไร
ทั้ง ๆ ที่แทบจะไม่ค่อยโฆษณาเท่าไร
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของผักกาดดอง ตรานกพิราบ ต้องย้อนกลับไปในปี 2493 ไปรู้จักกับ คุณแก้ว รัชตสวรรค์
คุณแก้ว เป็นอดีตพ่อค้าชาวจีนที่สร้างตัวมาจากการเป็นลูกจ้างส่งของร้านของชำ จนสามารถเก็บออมเงินได้จำนวนหนึ่ง แล้วตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อน เป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจโรงงานผลิตผักดองเล็ก ๆ แถวเยาวราช
โดยเขาตั้งชื่อโรงงานว่า “ฮั่วเพ้ง” ซึ่งแปลว่า สันติภาพ เพราะเกิดขึ้นมาจากความร่วมแรงร่วมใจของเพื่อนหลายคน ช่วงแรกเขานำผักดองใส่ไหไปขาย
เวลาต่อมาโรงงานของเขาจึงเริ่มนำผักดองมาใส่กระป๋อง แทนการใส่ไห ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ในสมัยนั้น ที่ผู้คนคุ้นเคยกับการกินผักกาดดองจากไหมากกว่า
ด้วยรสชาติที่ถูกปากผู้บริโภคคนไทย ทำให้ผักกาดดองฮั่วเพ้งได้รับการตอบรับที่ดี
ทำให้ในปี 2501 คุณแก้วและเพื่อน ตัดสินใจขยายโรงงาน รวมทั้งมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น “บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด”
โดยมีรูปนกพิราบเป็นตราสัญลักษณ์ เพื่อสื่อถึงความสันติสุขและเสรีภาพ
โดยมีรูปนกพิราบเป็นตราสัญลักษณ์ เพื่อสื่อถึงความสันติสุขและเสรีภาพ
วันเวลาผ่านไป จากธุรกิจที่มีเพียงแค่ผักดอง แบรนด์นกพิราบ ยังมีสินค้าอื่น ๆ ตามมาอีก ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ เช่น
-นกพิราบคู่ ที่มีรูปนก แบรนด์นี้จะผลิตสินค้า 3 กลุ่ม คือ ผักกาดดอง ผัก และผลไม้ดอง
-นกพิราบคู่ ที่มีแต่ตัวอักษร แบรนด์นี้จะผลิตสินค้าประเภทปลากระป๋อง
-พีเจี้ยน (Pigeon) แบรนด์นี้มุ่งเน้นการผลิตผลไม้กระป๋องอย่างเดียว เช่น ลิ้นจี่ ลำไย เงาะ ส้มโอ มะม่วง ขนุน แห้ว และลูกตาล
-เจ-ฟู้ดส์ (J-Food) เน้นการผลิตสินค้าพร้อมทาน เช่น เห็ดสี่สหายปรุงรส หน่อไม้จีนทรงเครื่อง กะหล่ำปลีผสมเห็ดหอม และแกงจืดมะระใส่ผักกาดดองเจ เป็นต้น
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะแทบไม่ค่อยได้เห็นสินค้าของแบรนด์นกพิราบ ทำการตลาดหรือโฆษณามากเท่าไร แต่ตัวสินค้าก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอดหลายทศวรรษ
ซึ่งก็ต้องบอกว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้แบรนด์นกพิราบ ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ เช่น
-ควบคุมคุณภาพการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ
ผักกาดถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิต ดังนั้น บริษัทจึงต้องการควบคุมคุณภาพการผลิต ตั้งแต่เพาะต้นกล้า ลดการใช้ปุ๋ยเคมี เพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต และส่งผลดีต่อผู้บริโภค
รวมไปถึงการทำ Contract Farming กับเกษตรกร เพื่อรับประกันการซื้อวัตถุดิบกับเกษตรกร ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่า บริษัทมีวัตถุดิบเพียงพอสำหรับผลิตสินค้า
-พัฒนาสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ
แม้จุดเริ่มต้นจะขายผักดองในไห แต่แบรนด์นกพิราบก็ไม่เคยหยุดนิ่ง มีการพัฒนาปรับปรุงสินค้ามาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็นการปรับใช้กระป๋อง แทนการบรรจุไห รวมไปถึงการออกสินค้าใหม่ ๆ นอกจากผักกาดดอง ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท ทำให้แบรนด์นกพิราบ สามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น
-ขยายไปยังตลาดในต่างประเทศ
โดยตลาดหลักมีทั้งในยุโรป อเมริกา จีน เกาหลีใต้ และอาเซียน
และนอกจากจะผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์นกพิราบ บริษัทยังจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามที่ลูกค้ากำหนด (OEM)
และนอกจากจะผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์นกพิราบ บริษัทยังจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามที่ลูกค้ากำหนด (OEM)
ผลประกอบการปีที่ผ่านมา ของ บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด
รายได้ 1,434 ล้านบาท
กำไร 66 ล้านบาท
รายได้ 1,434 ล้านบาท
กำไร 66 ล้านบาท
ท่ามกลางโลกธุรกิจยุคใหม่ที่หลายแบรนด์ ทุ่มงบโฆษณา เพื่อหวังที่จะสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่สินค้าบางอย่าง กลับไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพียงแค่คงคุณภาพที่ทำมาอย่างต่อเนื่องเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
เหมือนที่หลายคนบอกว่า “ของบางอย่าง เมื่อมันดีจริงแล้ว ก็ไม่ต้องโฆษณา ยังไงก็ขายได้”
ซึ่งกรณีของผักกาดดองตรานกพิราบ คือหนึ่งในตัวอย่างนั้น..