กรณีศึกษา ลูกอมแตงโม Playmore เปลี่ยนความสนุก ให้เป็นสินค้าติดตลาด

กรณีศึกษา ลูกอมแตงโม Playmore เปลี่ยนความสนุก ให้เป็นสินค้าติดตลาด

30 มิ.ย. 2022
กรณีศึกษา ลูกอมแตงโม Playmore เปลี่ยนความสนุก ให้เป็นสินค้าติดตลาด | BrandCase
หากพูดถึงลูกอม ที่มีวางจำหน่ายเฉพาะใน 7-Eleven เราจะนึกถึงลูกอมอะไรกัน
หนึ่งในนั้นเราคงจะนึกถึงลูกอมแตงโม ในขวดสีแดง ที่โดดเด่นเรื่องความหอม อมแล้วเย็นสดชื่น
โดยลูกอมนี้อยู่ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า Playmore ของบริษัท เอเวอร์มอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายขนมและลูกอม เช่น เจลลี, กัมมี่ และลูกอมอัดเม็ด
ถึงแม้ว่า Playmore จะเป็นผู้เล่นรายเล็กในตลาดขนมและลูกอม
แต่รู้ไหมว่า ? ในวันนี้ Playmore กำลังตั้งเป้าหมายที่จะเป็น World Class Thai Brand ขยายสู่ตลาดต่างประเทศ
แล้วเรื่องนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ?
จุดเริ่มต้นของ Playmore เกิดขึ้นจากคุณเจสซี หว่อง และคุณจักษ์ ลีละเทพาวรรณ ที่ต้องการสร้างดีมานด์ใหม่ ให้กับผู้บริโภคด้วยความสนุก
จากคอนเซปต์ของแบรนด์ที่สนุก ทำให้ Playmore แบ่งกลุ่มเป้าหมายตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และเน้น Insight ของผู้บริโภคไปที่ความสนุก ผสมผสานกับจินตนาการ
เพราะ Playmore เชื่อว่าความสนุกนั้น สามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย และทุก ๆ คนย่อมต้องมีมุมสนุก ๆ ในแบบของตัวเอง
ส่วนสินค้าของ Playmore นั้น นอกจากความสนุกที่ใส่เข้าไปในสินค้าแล้ว ยังมีเรื่องของจินตนาการที่ต่อยอดไปสู่แนวคิด และดีไซน์ในการออกแบบสินค้าด้วย
ซึ่งจากจุดนี้ จึงทำให้สินค้าของ Playmore มีความแตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ
ตัวอย่างสินค้า เช่น
- กัมมี่ บล็อค รูปตัวต่อเลโก 4 มิติ ที่สามารถนำมาต่อกันเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้ตามจินตนาการ
- ลูกอมอัดเม็ดกลิ่นแตงโม ที่มีความเย็นแตกต่างจากลูกอมเมนทอลทั่วไป รวมทั้งมีกลิ่นและรสชาติที่เป็นซิกเนเชอร์ จนทำให้ลูกค้าเรียกกันติดปากว่า “ลูกอมแตงโม”
นอกจากนี้ ในการผลิตสินค้า Playmore ได้ใช้วิธีจ้าง Outsource ในการผลิต
หรือพูดง่าย ๆ คือ เลือกผลิตสินค้าจากโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ และความถนัดในการผลิตที่แตกต่างกัน
ทำให้ Playmore สามารถผลิตสินค้าได้อย่างหลากหลาย และมีคุณภาพตามมาตรฐาน
มากไปกว่านั้น การเป็นคู่ค้าหลักกับ 7-Eleven เพื่อนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายเฉพาะ “Only at 7-Eleven” ทำให้สินค้าของ Playmore สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง และติดตลาดได้อย่างรวดเร็ว
มาถึงตรงนี้ คงพูดได้ว่า Playmore ก้าวผ่านความสำเร็จจากตลาดภายในประเทศไทยไปได้แล้ว
เป้าหมายต่อไปคือ การเป็นแบรนด์ระดับโลก หรือ World Class Thai Brand
โดยการขยับสู่แบรนด์ระดับโลกของ Playmore นั้น จะเริ่มต้นจากการวางจำหน่ายสินค้า ในตลาดประเทศเพื่อนบ้านก่อน
ซึ่งปัจจุบันสินค้าของ Playmore ได้เริ่มส่งออกไปยังตลาดในเวียดนาม เมียนมา กัมพูชา และสิงคโปร์แล้ว
และกำลังขยายตลาดต่อไปยังมาเลเซีย จีน และอินเดีย ก่อนจะก้าวกระโดดไปสู่ตลาดในฝั่งยุโรปและอเมริกาต่อไป
อย่างไรก็ตาม Playmore มองว่าการจะเป็นแบรนด์ระดับโลกได้นั้น
สิ่งสำคัญคือ คุณภาพสินค้า เพราะการครองใจผู้บริโภคให้ได้นาน ๆ นอกจากความอร่อยแล้ว คุณภาพของสินค้าก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน
เรื่องนี้ก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่า หากเราตั้งใจจะทำธุรกิจใดก็ตาม สินค้าไทยก็สามารถส่งออกไปยังตลาดโลกได้ไม่ยาก
เช่นเดียวกับ Playmore ที่เริ่มต้นจากความสนุกและจินตนาการ และกำลังจะก้าวไปสู่ตลาดโลก
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า ในอนาคตเราอาจจะซื้อสินค้า Playmore ได้ง่าย ๆ แม้จะอยู่ในต่างประเทศก็ตาม..
References
-https://www.playmorethailand
-https://www.facebook.com/playmorethailand/photos/?ref=page_internal
-https://forbesthailand.com/people/strategies/ดรีมทีม-เพลย์มอร์-ลูกอ.html
-https://food.trueid.net/detail/VXPkG5Ax3gja
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.