การนำซูเปอร์สตาร์ระดับโลก มาโปรโมทสินค้า SME อาจไม่ใช่เรื่องที่เห็นได้บ่อยนัก การดึง “แจ็คสัน หวัง” และ “เตนล์-ชิตพล ลี้พรชัยกุล” 2 ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก มาร่วมกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย
ทำไม ผู้ผลิตสินค้า ถึงยอมที่จะให้ 7-Eleven ติดหนี้ โดยการส่งของไปวางขายก่อน แล้วค่อยรับเงินค่าสินค้าทีหลัง
สรุป 7-Eleven ปี 2566 รายได้เกือบ 400,000 ล้าน กำไร 15,000 ล้าน
รู้หรือไม่ ประเทศไทย เกือบจะไม่มี 7-Eleven เพราะเจ้าของแบรนด์ในสหรัฐอเมริกา บอกว่า GDP ต่อหัวของคนไทย ยังน้อยเกินไป ถ้าเอา 7-Eleven ไปเปิด ก็เตรียมตัวขาดทุนได้เลย
หลายคนน่าจะชอบซื้อ “ข้าวกล่องเซเว่น” กินกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลัง การผลิตและส่งอาหารกล่อง รวมถึงอาหารสำเร็จรูปหลาย ๆ รายการให้แก่ร้าน 7-Eleven กว่าหมื่นสาขาก็คือ “ซีพีแรม” บริษัทลูก CPALL เจ้าของ 7-Eleven ในประเทศไทย และช่วงนี้หลาย ๆ คนคงสังเกตเห็นว่า อาหารพร้อมทานใน 7-Eleven มีหลาย ๆ รายการที่เป็น “Plant Based Food” หรืออาหารที่ทำมาจากพืช ซีพีแรม กำลังเห็นโอกาสอะไรจากเรื่องนี้ THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
“หลายคนบอกว่าวิกฤติโควิด 19 ครั้งนี้รุนแรงมาก แต่ผมคิดว่าวิกฤติต้มยำกุ้งรุนแรงกว่าครั้งนี้เยอะมาก เพราะครั้งนี้แม้ว่าทุกอย่างถูกหยุด เกิดปัญหาเยอะแยะ แต่ทุกอย่างยังอยู่พร้อม ไม่ได้ถูกทำลาย” ท่ามกลางโลกที่เกิดภาวะเศรษฐกิจหยุดชะงักจากโรคระบาดโควิด 19 คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสของเครือ CP มองว่า โควิด 19 “ในอนาคต” อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งโรคธรรมดาในโลก และไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับโรคระบาดอื่น ๆ ในอดีต เพราะยุคนี้การแพทย์และวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าไปมาก ที่น่าสนใจก็คือ คุณธนินท์ มองเห็นโอกาสของธุรกิจไทยต่อไปจากนี้อยู่ไม่น้อย ขอเพียงแค่ธุรกิจไทยต้องปรับตัวและหมุนตามโลกให้ทัน..