วิเคราะห์เบื้องหลังความสำเร็จของ เซ็นทรัล วิลเลจ เอาท์เล็ต  ชนะด้วยประสบการณ์ ดึงดูดทราฟฟิกนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติต่อเนื่องตลอดปี

วิเคราะห์เบื้องหลังความสำเร็จของ เซ็นทรัล วิลเลจ เอาท์เล็ต  ชนะด้วยประสบการณ์ ดึงดูดทราฟฟิกนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติต่อเนื่องตลอดปี

24 ธ.ค. 2025
หลังจากเปิดตัวมาได้ประมาณ 6 ปี ตอนนี้เรียกได้ว่า เซ็นทรัล วิลเลจ เอาท์เล็ต น่าจะเป็นอีกหนึ่ง Outlet ที่เป็นจุดหมายของใครหลาย ๆ คน โดยปี 2568 ที่ผ่านมานี้ ก็มียอดทราฟฟิกเติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และคาดว่าจะโตต่อไปอีกในปี 2569 นี้ 
แล้วทำไม เซ็นทรัล วิลเลจ เอาท์เล็ต  ถึงกลายเป็นแหล่งรวมเหล่านักช็อป ที่ไม่ว่าจะคนไทยหรือชาวต่างชาติก็อยากมา 
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ 
1. ดึงแบรนด์ใหม่ ๆ มาเสริมทัพ พร้อมกับมีแบรนด์ให้เลือกเยอะมาก เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ 
ต้องบอกว่าตอนนี้ เซ็นทรัล วิลเลจ นั้นมีแบรนด์ให้เลือกซื้อกว่า 200 แบรนด์ คือมีแบรนด์ให้เลือกเยอะมาก และก็ยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามาเรื่อย ๆ อย่างในปีที่ผ่านมานั้น ก็มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ๆ หลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น 
Asics, SMILEY, Paul Smith Outlet, Hoka Outlet, Watsons, Kiddoland, Teva, O Sportland, Beverly Hills Polo Club, Boost Juice, Fuku, O&B Outlet, The Sport Warehouse, Ducati และ Nautica 
และล่าสุดก็ได้ดึงแบรนด์อย่าง Italasia Outlet มาเปิดโมเดล Outlet เป็นแห่งแรกในไทย รวมถึง Jaspal Outlet ที่เปิดสาขา Outlet เป็นครั้งแรกเช่นกัน
2. การคัดเลือกแบรนด์ให้ถูกใจผู้บริโภค 
ต้องบอกว่า 200 กว่าแบรนด์ที่ทาง เซ็นทรัล วิลเลจ เลือกมานั้น เป็นแบรนด์ที่ทางเซ็นทรัล วิลเลจคัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงนี้ 
อย่างเช่น ตอนนี้ไลฟ์สไตล์คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ก็จะมีแบรนด์สปอร์ตเป็นสัดส่วนมาก โดยตอนนี้มีแบรนด์ในหมวดสปอร์ตแฟชั่นกว่า 95 แบรนด์ ให้นักช็อปมาเลือกเดินกันได้แบบจุใจ
นอกจากนี้ อีกแบรนด์กีฬาชั้นนำอย่าง Nike ก็ได้มาเปิด Nike Outlet ที่เป็นเอาท์เล็ตล่าสุด  บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร โดยจะมีการเอาคอลเลกชันยอดนิยมและรุ่นเอกซ์คลูซิฟมาขายเฉพาะที่ Outlet สาขานี้ด้วย พร้อมจัดโปรโมชันเอาใจนักช็อปแบบจัดเต็ม 
โดยคาดว่า Nike Outlet นี้จะเป็นอีกหนึ่ง Magnet ที่จะมาช่วยดึงดูดนักช็อปทั้งคนไทยและต่างชาติ ให้มาเดินที่นี่กันมากขึ้น
3. เป็นมากกว่าแค่แหล่งช็อปปิง แต่มีอะไรให้ทำแบบอยู่ได้ทั้งวัน 
ที่ เซ็นทรัล วิลเลจ เอาท์เล็ต นั้นไม่ได้มีเพียงแค่แหล่งช็อปปิงอย่างเดียว แต่มีการออกแบบสถานที่ให้สามารถนั่งพักนั่งชิลกันได้ มีร้านอาหาร อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ Pet-Friendly ด้วย คือสามารถพาน้องหมามาช็อปไปกับเราได้ 
อย่างล่าสุดก็มีการปรับปรุงและเปิดตัวเฟสใหม่อย่าง Green Courtyard ซึ่งเป็นคอร์ตยาร์ดสีเขียวขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เป็นโซนพักผ่อนหย่อนใจ จุดเดินเล่น และมุมถ่ายภาพใหม่ 
ให้ลูกค้าสามารถพาน้องหมามาเอนจอยและใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศเอาต์ดอร์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ลูกค้าสามารถอยู่ใน Outlet แห่งนี้ได้แบบยาว ๆ ไม่มีเบื่อ
นอกจากนี้ ทางเซ็นทรัล วิลเลจ ก็ยังมีการจัดอีเวนต์ อยู่เรื่อย ๆ อย่างช่วงสิ้นปีนี้ก็จะมีการจัดงาน Enchanted Pine Forest Christmas หรืองาน “ป่าสนมหัศจรรย์” คริสต์มาสกลางป่าสน ที่ได้แรงบันดาลใจจากป่าสนยุโรป 
โดยภายในงานยังมีลานเบียร์หน้า Food Village ตอบโจทย์กลุ่มที่ต้องการสังสรรค์และผ่อนคลาย ฟังเสียงเพลงเบา ๆ จิบเครื่องดื่มแก้วโปรด และอร่อยกับอาหารดี ๆ ที่คัดมาแล้ว และยังมีการบรรเลงเพลงคริสต์มาสให้ฟังกันแบบเพลิน ๆ ด้วย 
4. Rewards Program ที่ยกระดับทุกการใช้จ่ายให้กลายเป็นประสบการณ์พิเศษ
นอกจากจะได้ของถูกแล้ว ยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มมากขึ้นไปด้วย 
โดยโปรแกรม Top Spender Reward นี้มีเงื่อนไขคือ ต้องมียอดซื้อสะสมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ธันวาคมนี้ ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท 
ก็จะได้รับรางวัลใหญ่สุดพิเศษ แพ็กเกจที่พักสุดหรูที่ Centara Maldives แบบฟรี ๆ 
หรือแคมเปญ Year End Top Spender Reward สำหรับคนที่มียอดซื้อมากกว่า 1 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2568 จะได้รับรางวัลเครื่องฟอกอากาศ Dyson รุ่น EC TP10 Wh/Wh โดยจะแจกให้เดือนละ 1 รางวัล
ทั้งหมดนี้ ก็น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไม เซ็นทรัล วิลเลจ ถึงเป็นอีกหนึ่ง Top of Mind ของใครหลาย ๆ คนเมื่อคิดถึง Outlet ดี ๆ น่าเดินสักแห่งในไทยนั่นเอง.. 
Reference:
- ข่าวประชาสัมพันธ์ จากเซ็นทรัล วิลเลจ 
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.