สรุปไอเดียใช้ กฎ 80/20 วัดผลว่า ไอเดียธุรกิจเรา เวิร์กไม่เวิร์ก จากเคสจริงของ เถ้าแก่น้อย

สรุปไอเดียใช้ กฎ 80/20 วัดผลว่า ไอเดียธุรกิจเรา เวิร์กไม่เวิร์ก จากเคสจริงของ เถ้าแก่น้อย

8 พ.ค. 2025
คุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ หรือ ต๊อบ CEO บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เพิ่งเล่าเรื่องนี้ในรายการ Company Snapshot ของ ลงทุนแมน
โดยเล่าผ่านเคส การพัฒนาสินค้าใหม่ หรือที่เรียกว่า NPD : New Product Development ของบริษัท เถ้าแก่น้อย
คุณต๊อบ บอกว่าที่เถ้าแก่น้อย ถ้าพัฒนาสินค้าใหม่ 100% คิดไว้แล้วว่า 80% fail ได้ แต่ก็พยายามให้มี 20% ที่สำเร็จ
ซึ่งสินค้าใหม่ที่สำเร็จ 20% มักจะครอบคลุม 80% ที่พลาดไปได้ และทำดี ๆ มีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต
ซึ่งคำว่า สินค้าใหม่ หรือ New Product หมายรวมตั้งแต่สินค้าใหม่ที่ไม่เคยทำเลย
รวมถึงสินค้าเดิม แต่ดีเทลใหม่ เช่นของเถ้าแก่น้อยก็คือ สาหร่ายอบ ทอด เหมือนเดิม แต่รสชาติใหม่
-ทีนี้มาดูไอเดียการวัดผลว่า สินค้าใหม่ที่คิดมา เวิร์กไม่เวิร์ก แบบเถ้าแก่น้อย
คุณต๊อบ บอกว่า ทุกไตรมาสจะมีการทำ ‘Pareto Test’ คือกฎ 80/20
สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ยินคำว่า Pareto Principle หรือ กฎ 80/20 สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ
คือกฎที่บอกว่า ปัจจัยในสัดส่วนเพียง 20% ของทั้งหมด สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ในสัดส่วนกว่า 80% ได้
แต่ในโลกความเป็นจริง ความสัมพันธ์บางอย่างอาจจะไม่ได้เท่ากับ 80/20 แบบเป๊ะ ๆ แต่มีสัดส่วนใกล้เคียง หรือลู่เข้าหาตัวเลข 80/20 ก็ได้เหมือนกัน
เพราะแก่นของทฤษฎีนี้คือ “สิ่งเล็กน้อยจำนวนไม่มาก สามารถมีอิทธิพลในภาพรวมทั้งหมดได้”
วิธีการทำ Pareto Test ของเถ้าแก่น้อยคือ
เอาสินค้าทุกอย่างที่ TKN ทำมา รวมถึงสินค้าใหม่มากางดูยอดขายและความสามารถในการทำกำไร แล้วตัดเกรดเป็น เขียว เหลือง แดง
-เขียว => ขายดี กำไรดี >> ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม 20% ที่ทำยอดขายได้ 80% และทำอัตรากไรได้ดีด้วย
-เหลือง => ขายดี แต่ทำกำไรบางมาก >> กลุ่มนี้เอามาลองปรับกลยุทธ์หรือดีเทลใหม่ คิดใหม่ว่าทำอย่างไรให้เป็นเขียว คือขายดีด้วย แล้วได้อัตรากำไรดีด้วย
-แดง => ขายไม่ดี ทำกำไรไม่ดีด้วย >> นี่คือกลุ่มที่ต้องทำใจตัดทิ้งไป ถ้าเป็นสินค้าใหม่ที่คิดมาแล้วไม่เวิร์กมาตกในกลุ่มนี้ ก็ต้องพิจารณาไม่ทำต่อ
เรื่องสำคัญคือ ต้องคอยมอร์นิเตอร์ คอยรีวิวยอดขาย กำไร ของแต่ละสินค้าอยู่เป็นระยะ ๆ และพยายามสร้างกลุ่มสีเขียวให้มากที่สุด
เพราะสุดท้ายจะทำให้ภาพรวมบริษัท มีรายได้ที่ดี พร้อมกับอัตรากำไรที่ดี ไปพร้อมกัน
ตัวอย่างเคสที่ Success เช่น
สาหร่ายท็อปปิงโรยข้าว ที่ตอนแรกคิดว่าลองทำมาขายดูแค่ล็อตเดียว (อาจจะตกกลุ่มสีแดง) แต่พอมารีวิวยอดขาย กำไร แล้วปรากฏว่า
กลายเป็นขายดี และทำ Margin หรืออัตรากำไรได้ และก็กลายเป็นอีกสินค้าตัวหลักในไทย ในปีที่ผ่านมา
แต่ก็จะมีอีกมุมคือ สินค้าจากเดิมเคยอยู่กลุ่มเขียว อาจจะกลายเป็นเหลืองได้ หรือจากเดิมเคยอยู่กลุ่มสีเหลือง อาจจะกลายเป็นกลุ่มสีแดงได้เหมือนกัน
เช่น ถ้ามีการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้านั้น ก็อาจจะกดดันการทำกำไรของสินค้านั้นได้
ซึ่งก็จะเป็นตัวบอกให้ต้องกลับมาปรับแก้เกมกันต่อไป
สรุปแก่นหลัก ๆ ของ Pareto Test หรือใช้กฎ 80/20 มาเทสไอเดียธุรกิจเรา ว่าเวิร์กไม่เวิร์ก แบบภาษาง่าย ๆ คือ
-ลองทำ >> วัดผลหาตัวที่ทำน้อยได้เยอะ >> ตัดไอเดียที่ไม่ดีออก >> ปรับปรุงตัวที่มีศักยภาพให้ทำน้อยได้เยอะกว่าเดิม >> ทำวนไปเรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ
พยายามสร้างสินค้าที่ทำน้อยได้มาก ทั้งในมุมรายได้และกำไร ให้ได้มากที่สุด..
Reference
-วิดีโอ ‘เถ้าแก่น้อย’ ซื้อหุ้น ‘เจ้าสัว’ จับมือรุกตลาดต่างประเทศ จาก YouTube Channel : ลงทุนแมน
https://www.youtube.com/watch?v=XjPSFI1NNRk&t=225s
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.