สรุปเหตุผลที่ เซ็นทรัลพัฒนา สร้างความสำเร็จด้วยโมเดล The Ecosystem for All ปั้นมิกซ์ยูสแข็งแกร่งทั่วประเทศ

สรุปเหตุผลที่ เซ็นทรัลพัฒนา สร้างความสำเร็จด้วยโมเดล The Ecosystem for All ปั้นมิกซ์ยูสแข็งแกร่งทั่วประเทศ

21 มี.ค. 2024
เซ็นทรัลพัฒนา X BrandCase
“เรามองการเติบโตของแต่ละธุรกิจให้เชื่อมโยงกันทั้ง Retail-Residence-Office-Hotel โดยมี Retail-Led Synergy ให้ทุกธุรกิจที่เชื่อมโยงกันเป็นมิกซ์ยูส มีผลประกอบการสูงขึ้น
เพราะตอบโจทย์ผู้คนครบ 360 องศา ปัจจุบันเรามีมิกซ์ยูส 20 โครงการทั่วประเทศ โดยโมเดล Synergy ภายใน The Ecosystem for All สร้างความสำเร็จอย่างที่เราตั้งเป้าไว้”
คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ President & CEO บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) พูดถึงการพัฒนาโครงการ Retail-Led Mixed-Use ที่เป็นกุญแจความสำเร็จของธุรกิจ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล
แล้วทำไม โมเดล Retail-Led Mixed-Use ถึงเป็นแนวคิดที่ทำให้ เซ็นทรัลพัฒนา ประสบความสำเร็จ
BrandCase จะมาสรุปให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า เซ็นทรัลพัฒนา เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทย ที่ขยายศูนย์การค้าไปในหลาย ๆ ทำเล หลาย ๆ เมืองทั่วประเทศ
ขณะที่เราจะคุ้นเคยกับการพัฒนาศูนย์การค้า ที่ส่วนใหญ่จะจำกัดอยู่แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และเน้นทำเล CBD เป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วย Traffic สร้างโอกาสให้ผู้คนเข้าศูนย์การค้าในแต่ละวัน
ทำไมเซ็นทรัลพัฒนา จึงมองเห็น “ทำเลศักยภาพ” ทั่วประเทศ
แม้ทาง เซ็นทรัลพัฒนา จะมีศูนย์การค้าในทำเล CBD อย่าง เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล พระราม 9 เป็นต้นแล้วนั้น แต่ก็ยังมองอะไรที่ลึกและเหนือชั้นขึ้นไปอีก
เมื่อมองว่าในหลาย ๆ จังหวัดของประเทศไทยเป็นเมืองที่มีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้ว ทั้งเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรม และหลายเมืองเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก
หรือเป็นเมืองรองที่มีโอกาสเติบโตเป็นเมืองหลักทางเศรษฐกิจ เพียงแต่ขาดจิกซอว์เข้าไปเติมเต็ม และโครงการ Landmark ที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นหนึ่งในแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว และผู้คนให้เดินทางมาเยือนจังหวัดนั้น ๆ
เซ็นทรัลพัฒนา จึงมีแนวคิดขอเป็นหนึ่งในจิกซอว์ชิ้นสำคัญของจังหวัดต่าง ๆ โดยใช้ Ecosystem For All ที่มีอยู่ในมือตัวเอง ที่เป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้า, โรงแรม, ออฟฟิศ, คอนโดมิเนียม ฯลฯ
โดยแต่ละธุรกิจนอกจากมีความแข็งแกร่งในตัวเองแล้วนั้น ก็จะมาเชื่อมโยง หรือ Synergy ให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อทำให้แต่ละธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง พร้อมต่อยอดกันและกัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนอย่างสมบูรณ์แบบ
ตัวอย่างล่าสุด เซ็นทรัล นครสวรรค์ แม้จะเพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่สร้าง Traffic มีผู้คนเข้าศูนย์การค้าหลายหมื่นคนต่อวัน
ส่วนคอนโดมิเนียมที่อยู่ในโครงการ Mixed-Use เพียงเปิดขาย 5 วันแรกก็สร้างยอดขายไปแล้วกว่า 70% และเมื่อโรงแรม, โรงพยาบาล และอสังหาฯ อื่น ๆ ในพื้นที่สร้างเสร็จ จะกลายเป็น Mixed-Use ที่สมบูรณ์แบบ ที่มีผู้คนอยู่อาศัยและมาเยือนโครงการในแต่ละวันจำนวนมาก
ผลประโยชน์ก็จะมาอยู่ในพื้นที่ศูนย์การค้า ที่จะมีผู้คนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เหมือนอย่างโครงการ Mixed-Use อื่น ๆ ของทาง เซ็นทรัลพัฒนา ที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้

สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เซ็นทรัลพัฒนา สวมบทบาทเป็น Place Maker หรือนักพัฒนาพื้นที่อสังหาฯ ในเชิงสร้างสรรค์ด้วยแนวคิด The Ecosystem For All ด้วยการนำอสังหาฯ อื่น ๆ ในธุรกิจตัวเอง มาเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อในทำเลขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ผู้คนอย่างครบครัน จนกลายเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต หรือ Centre of Life นั่นเอง
ตรงนี้เองที่ทำให้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ในทุก ๆ สาขามี Quality Traffic ผู้คนที่มีกำลังซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้แบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลก ต่างเลือกเปิดสาขาและหน้าร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัล
โดยปัจจุบันมีแบรนด์ต่าง ๆ มาเปิดสาขารวมกันกว่า 15,000 สาขา ใน 41 ศูนย์การค้าทั่วประเทศ และกำลังจะครบ 42 สาขา เมื่อเปิดเซ็นทรัล นครปฐม ในสิ้นเดือนมีนาคม 2567 นี้ และมีแบรนด์ดังทั้งในประเทศและแบรนด์ระดับโลก เปิดสาขาแรกถึง 72 แบรนด์ และมีสาขาระดับ Flagship Store 41 สาขา อยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ
จนถึงยังมี The 1Biz ที่เป็น Marketing Intelligence Solutions ที่ช่วย “เปิดโอกาส” ให้ร้านค้าได้ติดปีกธุรกิจ
เข้าถึง Database ที่มีฐานสมาชิกกว่า 20 ล้านคนของเครือเซ็นทรัล ที่จะยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่แบรนด์สินค้าที่อยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เพื่อศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าผ่าน Ecosystem ของ The 1 ช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และทำการตลาด โปรโมชันต่าง ๆ ได้ตอบโจทย์ลูกค้าของตัวเอง
กลยุทธ์นี้เองที่ทำให้พื้นที่เช่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ในทุก ๆ สาขาเป็นที่หมายปองของแบรนด์ต่าง ๆ
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบที่แข็งแกร่งและยั่งยืนนี้เอง เซ็นทรัลพัฒนา วางแผนลงทุน ช่วยขับเคลื่อนประเทศ ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ทำให้ล่าสุด ได้เห็นการวางแผนการลงทุนเชิงรุกที่ในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ (พ.ศ. 2567-2571) ที่มาพร้อมเงินลงทุนมหาศาลสูงถึง 121,000 ล้านบาท
โดยในปีนี้ 2567 จะมีการเปิดโครงการใหม่ถึง 13 โครงการ ในธุรกิจศูนย์การค้าที่มีการเปิด เซ็นทรัล นครสวรรค์ไปแล้วก่อนหน้านี้ จากนั้นก็เตรียมจะเปิด เซ็นทรัล นครปฐม ในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้
ในปีหน้า 2568 เตรียมเปิด ศูนย์การค้า เซ็นทรัล กระบี่ มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท และ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการ Mixed-Use ระดับโลก ที่มีจุดขายคือการตีความหมายใหม่ Re: Imagined Luxury ตอบโจทย์การใช้ชีวิตใกล้ชิดพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง
ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยจะเปิดตัวถึง 10 โครงการ และธุรกิจโรงแรมที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ จะอยู่ในจังหวัดระยอง โดยเป็นการจับมือกับ International Chain ระดับโลก
ขณะเดียวกัน จะมีการวางแผนลงทุนปีละ 23,000 ล้านบาท เป็นงบ Asset Enhancement เพื่อมายกระดับเซ็นทรัลสาขาอื่น ๆ เช่น เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, บางนา, แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์, พัทยา และมารีนา เพื่อสร้างประสบการณ์ช็อปปิงใหม่ ๆ รองรับลูกค้ากำลังซื้อสูง และนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความทุ่มเทและวางแผนเทียบเท่าการเปิดศูนย์การค้าใหม่ได้เลย
สุดท้ายถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้โครงการ Mixed-Use ของเซ็นทรัลพัฒนา ประสบความสำเร็จจนเป็น Model ที่ Work คำตอบ ก็คือ การสร้างประโยชน์ support ให้แก่ทุกฝ่าย
เมื่อ Mixed-Use ที่มีทั้งศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงาน หรือการเชื่อมโยงกับพันธมิตรโรงพยาบาล และอื่น ๆ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ผู้คนก็จะได้ใช้ชีวิตบนความสะดวกสบาย ครบทุกไลฟ์สไตล์ในทำเลเดียว และยังส่งเสริมการสร้างงาน กระจายรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมืองนั้น ๆ หรือที่ทาง เซ็นทรัลพัฒนา นิยามว่า The Ecosystem For All นั่นเอง
ส่วนในมุมของแบรนด์ระดับโลก ผู้ประกอบการ และพันธมิตรร้านค้า นอกจากจะได้ประโยชน์ จากผู้คนที่เข้ามาในศูนย์การค้าในแต่ละวัน ก็ยังได้ฐานลูกค้าจากผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม หรือผู้ที่แวะเวียนมายังออฟฟิศและอสังหาฯ อื่น ๆ ในโครงการ ร้านค้าต่าง ๆ ก็จะประสบความสำเร็จด้านยอดขายไปด้วย
“การทำธุรกิจที่ดีจนประสบความสำเร็จ เราต้องคิดสร้างความสุขและประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย” เป็นสิ่งที่ทาง เซ็นทรัลพัฒนา เชื่อและลงมือทำมาโดยตลอด
ถือเป็นแนวคิดที่ดีเลยทีเดียว เพราะเป็นการสร้างโอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุดให้แก่ทุกคน
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.