สรุปอาณาจักร ซาฟารีเวิลด์ ในมุมธุรกิจ

สรุปอาณาจักร ซาฟารีเวิลด์ ในมุมธุรกิจ | BrandCase

ซาฟารีเวิลด์ น่าจะเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งในไทย ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักชัดเจนมาก คือ กลุ่มเด็ก ๆ และครอบครัว

ในมุมธุรกิจ ซาฟารีเวิลด์ เป็นอาณาจักรรายได้หลัก 1,000 ล้านบาท
มีธุรกิจในเครืออีก 3 บริษัท คือ

-บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน)

-บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน)

-บริษัท คาร์นิวัลเมจิก จำกัด

แล้วตอนนี้อาณาจักร ซาฟารีเวิลด์ เป็นอย่างไรบ้าง ?
BrandCase จะสรุปให้ฟังแบบง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของซาฟารีเวิลด์ คือราว ๆ 30 กว่าปีที่แล้ว

คุณผิน คิ้วคชา ชาวจีนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองไทย ได้มีความตั้งใจที่อยากจะทำสวนสัตว์ในเมืองไทยขึ้นมา
เพราะอยากจะพัฒนาอะไรสักอย่างที่สร้างความสุขให้กับผู้คน แต่ต้องสร้างรายได้กลับมาหล่อเลี้ยงได้ด้วย

คุณผินและทีมงานได้ออกเดินสายไปดูงานต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ
ก่อนจะได้ไอเดียมาพัฒนาเป็นสวนสัตว์ “ซาฟารีเวิลด์”

ซาฟารีเวิลด์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 โดยตั้งอยู่ที่บริเวณย่านมีนบุรี กรุงเทพมหานคร

ปัจจุบัน ซาฟารีเวิลด์ มีกิจกรรมหลัก ๆ ให้บริการในพื้นที่หลายอย่าง

เช่น มีโชว์สัตว์หลากหลายประเภท, มีโซน มารีนปาร์ค สำหรับจัดแสดงและโชว์สัตว์น้ำ, ซาฟารีปาร์ค มีบริการให้อาหารเสือ

โดยมีจำนวนสัตว์มากกว่า 50,000 ชีวิต
และมีแหล่งท่องเที่ยวสำหรับให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์และธรรมชาติ

โดย บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) มีบริษัทในเครืออยู่ 3 บริษัท คือ

-บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ดูแลกิจการสวนสัตว์ ซาฟารีเวิลด์

-บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน) ดูแลกิจการท่องเที่ยวรูปแบบวัฒนธรรมธีมปาร์คยามค่ำคืน

-บริษัท คาร์นิวัลเมจิก จำกัด ดูแลกิจการท่องเที่ยวการแสดงแสงสี ด้วยไฟ LED ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต

โดยมีการจัดแสดงโชว์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ตแฟนตาซี ที่มีการแสดงผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรม ที่ทันสมัยด้วยแสงสีเสียงแบบจัดเต็ม

หรือโครงการคาร์นิวัลเมจิก ที่มีการแสดงแสงสีของดวงไฟ LED กว่า 40 ล้านดวง โดยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

แล้วในแง่ของรายได้ ตอนนี้เป็นอย่างไร ?

ผลประกอบการของ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน)

ปี 2562 รายได้ 1,850 ล้านบาท กำไร 57 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 512 ล้านบาท กำไร -656 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 247 ล้านบาท กำไร -918 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 1,045 ล้านบาท กำไร -576 ล้านบาท

โดยสัดส่วนรายได้รวมของทั้งเครือคือ

-จำหน่ายบัตรเข้าชม 68%

-จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 15%

-จำหน่ายอาหารสัตว์ 5%

-จำหน่ายภาพถ่าย 3%

-ให้บริการรถรับส่ง 3%

-อื่น ๆ 6%

จะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาที่มีวิกฤติโรคระบาด เครือซาฟารีเวิลด์ก็ขาดทุนเยอะเหมือนกัน

แต่ก็น่าสนใจว่า ถ้ารายได้ปีต่อ ๆ ไป เพิ่มขึ้นมาเท่ากับหรือมากกว่าปี 2562 บริษัทก็น่าจะเกินจุดคุ้มทุน และน่าจะกลับมาทำกำไรได้

ในปี 2566 จากบทวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักจะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย อาจถึง 4.7 ล้านคน

และกลุ่มลูกค้าหลักที่สำคัญอีกกลุ่มก็คือชาวอินเดีย
ซึ่งถ้าใครที่ไป ซาฟารีเวิลด์ ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีชาวอินเดียไปเที่ยวกันเยอะมาก

โดยซาฟารีเวิลด์ได้รับความนิยมในหมู่ชาวอินเดียเป็นอย่างมาก ถึงกับมีชื่ออยู่ในลิสต์กรุ๊ปทัวร์ของชาวอินเดีย

ซึ่งจากข้อมูลของ ททท. ในปีนี้ชาวอินเดียเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมีจำนวน 600,000 กว่าคน

และในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทย จำนวน 20-24 ล้านคน
ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านคน เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา

ซึ่งตัวเลขการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ แบบนี้
น่าจะเป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจของเครือซาฟารีเวิลด์ด้วย

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ข้อมูลจาก ซาฟารีเวิลด์ บอกว่า ในแต่ละปี ที่เป็นช่วงเวลาปกติ มีจำนวนนักเรียน-นักศึกษา มาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 300,000 คน เลยทีเดียว

References
-รายงานประจำปี 2565 บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน)
-https://www.thepeople.co/read/business/50322