กรณีศึกษา แจ่มฟ้า ค้าปลีก 1,900 ล้าน อยู่แค่ในลำพูน กับเชียงใหม่

กรณีศึกษา แจ่มฟ้า ค้าปลีก 1,900 ล้าน อยู่แค่ในลำพูน กับเชียงใหม่ | BrandCase
ถ้าพูดถึงร้านค้าปลีก ชื่อที่เราจะนึกออกเร็ว ๆ น่าจะเป็น 7-Eleven, Big C หรือ Lotus’s
แต่ถ้าเจาะไปที่จังหวัดลำพูนกับเชียงใหม่
จะมีร้านค้าปลีกอีกเจ้าชื่อว่า “แจ่มฟ้า” ที่ชิงส่วนแบ่งเค้กจากรายใหญ่ในพื้นที่ได้

กลุ่มธุรกิจค้าปลีกของ แจ่มฟ้า ปีที่แล้วมีรายได้รวมกัน 1,981 ล้านบาท กำไรรวมกัน 153 ล้านบาท

คำถามคือ แจ่มฟ้า เป็นใคร ? ทำไมถึงสู้ค้าปลีกรายใหญ่อื่น ๆ ได้ ใน 2 จังหวัดนี้
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของเครือแจ่มฟ้า กรุ๊ป เกิดจากอากง แซ่ฮุ้น
ที่เริ่มต้นทำธุรกิจเย็บเสื้อผ้าให้ข้าราชการและคนทั่วไปในจังหวัดลำพูน

ด้วยความที่ในภาษาจีนนั้นคำว่า แซ่ฮุ้น สื่อถึง “เมฆ” ซึ่งอยู่บนท้องฟ้า
ในปี 2495 อากง แซ่ฮุ้น จึงนำมาตั้งชื่อธุรกิจของตัวเองว่า “ห้างแจ่มฟ้าอาภรณ์”

ต่อในปี 2510 รุ่นลูกก็มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เข้ากับยุคสมัย โดยเปลี่ยนมาขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป และของชำที่หลากหลาย

พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนมาใช้ชื่อ สรรพสินค้าแจ่มฟ้าพลาซ่า ซึ่งถือเป็นธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ แจ่มฟ้า แห่งแรกของจังหวัดลำพูน

ปัจจุบัน รายได้หลักของเครือแจ่มฟ้า กรุ๊ป จะมาจากแจ่มฟ้าเซฟมาร์ท ที่เป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นการขายสินค้าอุปโภคบริโภค

โดยในปี 2565 แจ่มฟ้าเซฟมาร์ท มีสาขารวม 17 สาขา ทั้งในลำพูน และเชียงใหม่
ขณะที่ในปีนี้มีแผนจะเปิดอีก 4 แห่ง รวมเป็น 21 แห่ง

นอกจากนั้นยังมี แจ่มฟ้าช้อปปิ้งมอลล์
เป็นศูนย์การค้าใหญ่ในลำพูน ข้างในมีโรงภาพยนตร์ Major Cineplex ด้วย

กลยุทธ์ที่ แจ่มฟ้าเซฟมาร์ท นำมาใช้จนประสบความสำเร็จ
คือเน้นการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าทุกแห่ง และมีสินค้าที่ครบกว่าที่อื่น

ซึ่งกลยุทธ์นี้ เป็นกลยุทธ์ที่บริษัทค้าปลีกท้องถิ่นหลายแห่งนำมาใช้
คือแม้จะขายได้กำไรน้อย ๆ แต่เน้นขายในปริมาณมาก ซึ่งก็จะทำให้ธุรกิจมีกำไรมากได้เช่นกัน

เรื่องทำเล เครือแจ่มฟ้า ก็มีแต้มต่อ
เพราะเป็นธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่อย่างลำพูน และเชียงใหม่ที่อยู่ติดกัน มาเป็นเวลานาน ทำให้รู้ว่าต้องขยายสาขาไปตรงไหนที่คนจะเยอะ

อีกประเด็นคือ จังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง
บวกกับเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัวดี

อย่างกรณีของลำพูนนั้น แม้จังหวัดลำพูนจะมีขนาดเล็กที่สุดของภาคเหนือ
แต่มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) กลับสูงถึง 226,464 บาทต่อปี มากสุดเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ และเป็นอันดับที่ 13 ของประเทศ

ซึ่งส่วนสำคัญเป็นเพราะ ลำพูน เป็นที่ตั้งของโรงงานจำนวนมาก และมีนิคมอุตสาหกรรมลำพูน

ปัจจุบัน จังหวัดลำพูน มีจำนวนโรงงานรวม 443 โรงงาน
โดยตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม 79 โรงงาน ที่เหลืออีก 367 โรงงาน กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ

โดยผลประกอบการของ เครือแจ่มฟ้า กรุ๊ป ในปี 2565

-บริษัท แจ่มฟ้า เซฟมาร์ท จำกัด ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต
รายได้ 1,750 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท

-บริษัท แจ่มฟ้า ช้อปปิ้งมอลล์ จำกัด ธุรกิจศูนย์การค้าและให้เช่าพื้นที่ภายในอาคารของศูนย์การค้า
รายได้ 216 ล้านบาท กำไร 105 ล้านบาท

-บริษัท แจ่มฟ้าพลาซ่า สรรพสินค้า จำกัด ธุรกิจห้างสรรพสินค้า
รายได้ 15 ล้านบาท ขาดทุน 2 ล้านบาท

รวมกันแล้วเครือแจ่มฟ้า มีรายได้ 1,981 ล้านบาท กำไร 153 ล้านบาท

จริง ๆ แล้วในโซนภาคเหนือ จะมีค้าปลีกรายสำคัญอีกเจ้า คือ ธนพิริยะ
ที่มีประมาณ 42 สาขา ครอบคลุมจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา

โดย ธนพิริยะ ปีที่แล้วมีรายได้ 2,449 ล้านบาท กำไร 149 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ เครือแจ่มฟ้า

ซึ่งทั้งธนพิริยะ และ แจ่มฟ้า เป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนให้เห็นว่า

แบรนด์ค้าปลีกท้องถิ่นก็มีแบรนด์ที่แข็งแรง
มีความเจ๋ง ความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจตลาดในพื้นที่ของตัวเองมาก ๆ เหมือนกัน

References
-https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/TNP/financial-statement/company-highlights
-https://www.prachachat.net/local-economy/news-1391190
-https://www.thansettakij.com/business/308892
-เฟซบุ๊กเพจ แจ่มฟ้าช้อปปิ้งมอลล์