โมเดลธุรกิจ ลิฟต์ OTIS รายได้หลักมาจาก ค่าซ่อมบำรุง
5 ก.ย. 2023
หลายคนจะคิดว่า บริษัทขายลิฟต์ก็ต้องมีรายได้หลักมาจาก การขายลิฟต์
แต่อาจจะไม่ทันคิดว่าจริง ๆ แล้วของพวกนี้ ต้องมีการซ่อมบำรุงอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย
และรายได้จากการซ่อมบำรุง มันมากกว่ารายได้จากการขายลิฟต์เสียอีก
อย่างเช่นเคสของ OTIS บริษัทลิฟต์รายใหญ่ของโลก
ที่ถ้าเทียบเป็นรายได้ 100 บาท บริษัทจะมีรายได้จากการบำรุงรักษา และซ่อมแซมลิฟต์ 57 บาท
โมเดลธุรกิจของ OTIS เป็นอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
บริษัท OTIS เริ่มต้นจากชายชาวอเมริกัน ชื่อ Elisha Otis
เขาได้พัฒนา Elevator หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ลิฟต์ สำหรับใช้งานทั่วไป ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก
และได้เปิดตัวลิฟต์ของเขา ในงานแสดงสินค้า World’s Fair ปี 1854
ลิฟต์ของ OTIS พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย ตั้งแต่ ลิฟต์ไอน้ำ ลิฟต์ไฮดรอลิก มาจนถึงลิฟต์ระบบไฟฟ้า ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับตอนนี้ OTIS มีผลงานติดตั้งลิฟต์มากมายตั้งแต่ตึกระฟ้า ไปจนถึงตึกเตี้ย ๆ
นอกจากลิฟต์แล้ว ปัจจุบัน OTIS ก็รับออกแบบและติดตั้งระบบบันไดเลื่อน และทางเลื่อนด้วย
ซึ่งบริษัทเจ้าของแบรนด์ OTIS ก็จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา
ชื่อว่าบริษัท Otis Worldwide Corporation
และมีมูลค่าบริษัทตามราคาตลาดที่ราว 1,256,000 ล้านบาท
ปี 2022 มีรายได้ 484,000 ล้านบาท กำไร 44,000 ล้านบาท
ส่วน OTIS ในไทย คือ บริษัท โอทิส เอเลเวเทอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้นำเข้า ติดตั้ง และให้บริการบำรุงรักษาลิฟต์และบันไดเลื่อน ในประเทศไทย
ปี 2022 มีรายได้ 1,173 ล้านบาท กำไร 250 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ โมเดลรายได้ของ OTIS ที่มีสัดส่วนรายได้ ปี 2022 คือ
- การติดตั้งลิฟต์และบันไดเลื่อนตัวใหม่ (Product Sales) 43%
- บริการ เช่น ตรวจสอบบำรุงรักษาและซ่อมแซม (Service Sales) 57%
จะเห็นว่า รายได้หลักของบริษัท คือ ค่าบริการบำรุงและซ่อมแซม
และถ้าดูในด้านความสามารถในการทำกำไร
- ธุรกิจการติดตั้งลิฟต์และบันไดเลื่อนตัวใหม่ มีอัตรากำไร 6%
- ธุรกิจตรวจสอบบำรุงรักษาและซ่อมแซม มีอัตรากำไร 23%
แล้วทำไม OTIS มีรายได้จากการบริการ หรือ Service Sales มากกว่า ?
ก็ต้องบอกว่า เมื่อลิฟต์และบันไดเลื่อนตัวใหม่ถูกติดตั้ง สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือ การทำให้ลิฟต์และบันไดเลื่อน ใช้งานได้อย่างปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น ลิฟต์หรือบันไดเลื่อน 1 ตัว ไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเพียงอย่างเดียว
แต่ยังสามารถเก็บค่าบำรุงรักษาไปเรื่อย ๆ ได้ด้วย
นอกจากนั้นยังมีบริการอัปเกรดระบบ เช่น ปรับปรุงระบบภายในลิฟต์ หรือบันไดเลื่อนให้ทันสมัยขึ้น
เพื่อให้ลิฟต์และบันไดเลื่อนมีความปลอดภัย และใช้งานได้นาน
โดยบริการตรวจเช็กและบำรุงรักษา เป็นลักษณะที่ลูกค้าต้องจ่ายให้ OTIS อยู่เรื่อย ๆ
ซึ่งรายได้ตรงส่วนนี้ ถือเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ หรือภาษาทางธุรกิจเรียกว่า Recurring Income
แตกต่างจากรายได้จากการขายลิฟต์ ที่เกิดจากการขายลิฟต์ได้เป็นตัว ๆ ไป
โดยปัจจุบัน OTIS มีลิฟต์และบันไดเลื่อนที่อยู่ในสัญญาบริการบำรุงรักษา มากกว่า 2,200,000 ตัว ทั่วโลก
ซึ่งลิฟต์และบันไดเลื่อนเหล่านี้ ก็มีทั้งที่เป็นของแบรนด์ OTIS เอง
และของแบรนด์อื่น ๆ แต่จ้างบริษัท OTIS เพื่อบำรุงรักษาทุกเดือนด้วย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ตึกระฟ้าและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งทั่วโลก เลือกใช้ลิฟต์ของ OTIS เช่น
- หอไอเฟล ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
- ตึกเอ็มไพร์สเตต ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
- Lotte World Tower ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้
- ตึกแฝด Petronas ในมาเลเซีย
- รวมถึง Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลกปัจจุบัน ที่อยู่ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็ใช้ลิฟต์ OTIS เหมือนกัน..
References
-OTIS Annual Report 2022
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า