รู้จัก ดิว-วีรวัฒน์ เศรษฐีหุ้น ที่ปั้นตัวจาก ขายปลาสวยงาม

รู้จัก ดิว-วีรวัฒน์ เศรษฐีหุ้น ที่ปั้นตัวจาก ขายปลาสวยงาม

23 พ.ค. 2023
รู้จัก ดิว-วีรวัฒน์ เศรษฐีหุ้น ที่ปั้นตัวจาก ขายปลาสวยงาม | BrandCase
คุณดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร หลายคนอาจเคยเห็นชายคนนี้ มาแชร์แนวคิดการทำธุรกิจ ผ่านทาง TikTok หรือ YouTube อยู่บ่อย ๆ
ในฐานะคนที่ประสบความสำเร็จ มีธุรกิจส่งออกปลา ที่สร้างรายได้ปีละกว่า 200 ล้านบาท อีกทั้งความชอบส่วนตัว ที่ชอบสะสมรถซูเปอร์คาร์ กว่า 60 คัน
แต่กว่าที่ คุณดิว-วีรวัฒน์ จะประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้
เรื่องราวของเขา ก็มีความน่าสนใจ
ซึ่ง BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
ต้องบอกก่อนว่า คุณดิว เกิดในครอบครัวที่มีฐานะดีอยู่แล้ว
โดย คุณพ่อ เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการเงิน
แม้คุณพ่อจะมีฐานะที่ดี และพร้อมซัปพอร์ตเรื่องเงินให้ แต่คุณพ่อสอนคุณดิวเสมอว่า
ถ้าลูกอยากได้อะไร ก็ต้องไปทำงาน ไปหาเงินซื้อเอง พ่อจะไม่ซื้อให้ตลอด
ทำให้คุณดิว กลายเป็นคนที่ขยันและเริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก เพื่อเก็บเงินไปซื้อของที่อยากได้เอง
อย่างเช่น ตอนอายุ 14 ปี พอถึงช่วงปิดเทอม คุณดิวจะไปทำงานพาร์ตไทม์ ขายตั๋วที่โรงหนัง EGV วันละ 12 ชั่วโมง ได้ค่าแรงวันละ 250 บาท
โดยคุณดิวเรียนเร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ตอนอายุ 16 ปี เขาเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 แล้ว
โดยเลือกเรียนภาคค่ำ และทำงานเสริมที่โชว์รูม Nissan ในช่วงกลางวัน
จนอายุ 19 ปี ขณะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 เส้นทางการเป็นพ่อค้าของคุณดิว ก็เริ่มขึ้น
เพราะมีโอกาสได้รู้จักกับ CEO บริษัทส่งออกปลาสวยงามรายใหญ่ของสิงคโปร์ ที่ชื่อ คุณเฉียนหวู่
จนได้ตกลงที่จะเป็นพาร์ตเนอร์กัน
โดยตกลงร่วมทุนกันคนละ 2.5 ล้านบาท เพื่อเปิด บริษัท ไทย เฉียน หวู่ จำกัด ในปี 2544
อย่างไรก็ตาม เส้นทางในอาชีพพ่อค้าก็ไม่ได้ง่ายนัก เพราะความอ่อนประสบการณ์ ทำให้ในช่วงแรก
บริษัทประสบปัญหามากมาย และขาดทุนอย่างหนัก
พอเป็นแบบนี้ คุณดิวจึงไปปรึกษาคุณพ่อและขอให้ช่วยเหลือเรื่องเงิน แต่ก็ถูกปฏิเสธ
เพราะคุณพ่อถือว่าบริษัทนี้เป็นของคุณดิว เมื่อเป็นหนี้เป็นสินก็ต้องรับผิดชอบ และแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
โดยคุณพ่อจะให้คำแนะนำในเรื่องการบริหารธุรกิจเท่าที่จะให้ได้แทน
คุณดิวจึงหันไปคุยกับหุ้นส่วนตรง ๆ ซึ่งทางคุณเฉียนหวู่ก็คิดว่า ไหน ๆ ก็ลงเรือลำเดียวกัน
แล้ว ถ้าบริษัทนี้เจ๊ง ทางบริษัทแม่ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
จึงให้ยืมเงินมา 3 ล้านบาท และต้องคืนภายใน 3 ปีพร้อมทั้งว่ากล่าวตักเตือน และแนะนำวิธีการ เพื่อไม่ให้ผิดพลาดซ้ำอีก
ซึ่งคุณดิวก็ตอบตกลง และนำความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน พร้อมทั้งทำตามคำแนะนำต่าง ๆ
รวมทั้งควบคุมคุณภาพการแพ็กปลา ด้วยตัวเองทุกชิ้น
ในเวลาเพียง 6 เดือน ก็สามารถคืนหนี้ 3 ล้านบาท นั้นได้หมด และพลิกกลับมามีกำไรในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่ธุรกิจโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้
คุณดิวในวัย 20 ปี มีรายได้หลัก 1,000,000 บาทต่อเดือน
แต่รายได้ที่มากขึ้น ก็มาพร้อมภาระที่มากขึ้นด้วย
เพราะนอกจากต้องดูแลกิจการตั้งแต่เช้าถึงเย็นในแต่ละวันแล้ว คุณดิวยังต้องไปเรียนต่อภาคค่ำที่มหาวิทยาลัย
และหลังเรียนเสร็จ 3 ทุ่ม ก็กลับมาดูแลกิจการต่อที่โรงงาน ซึ่งต้องทำงานและนอนโรงงานแบบนี้ทุกวัน เป็นเวลา 7 วันต่อสัปดาห์
จนเกิดความคิดที่ว่า ไม่อยากจะทำงานทุกวันแบบนี้ไปจนตาย คุณดิวจึงตั้งเป้าที่จะเกษียณตัวเองให้ไว ๆ
วิธีการที่เขาคิดคือ เอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้าง Passive income โดยที่ไม่ต้องทำงานเอง
หลังจากทำงานเก็บเงินมาตลอดเป็นเวลา 10 ปี จนถึงช่วงอายุ 30 ปี คุณดิวก็มีเงินเก็บหลัก 100 ล้านบาท
และเอาเงินนั้นไปลงทุนซื้ออะพาร์ตเมนต์ให้คนเช่า ซึ่งได้รับผลตอบแทน 5-7% ต่อปี
จนมีรายได้จากตรงนี้ ตกเดือนละ 5-6 ล้านบาท
หลังทำแบบนี้อยู่ราว 8 ปีก็ขายอะพาร์ตเมนต์ทิ้ง
แล้วเอาเงินไปซื้อหุ้นบริษัทอื่นแทน ด้วยแนวคิดที่ว่า เราจะเหนื่อยดูแลอะพาร์ตเมนต์ทำไม ปัญหาคนเช่าก็เยอะ
ถ้าเอาเงินไปซื้อหุ้นดี ๆ ที่ให้ปันผลปีละ 5-7% เท่ากันก็มี แถมไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องคนด้วย
จนพออายุ 40 ปีหลังจากทำงานมา 20 ปี
คุณดิวจึงเริ่มมาใช้เงินอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซื้ออะไรที่อยากได้
อย่างเช่น รถซูเปอร์คาร์กว่า 60 คัน ก็เพิ่งเริ่มซื้อเมื่อ 2 -3 ปีที่ผ่านมานี้เอง
และปิดท้ายด้วยเรื่องน่าสนใจ
คุณดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 9 ของหุ้น TISCO (บริษัทเจ้าของธนาคารทิสโก้)
โดยเขาถือหุ้น TISCO ทั้งหมด 8,600,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 780 ล้านบาท
และเมื่อลองคำนวณเงินปันผล ที่จะได้รับจากหุ้น TISCO ก็พบว่า
ในปี 2566 บริษัทมีนโยบาย จ่ายปันผลในอัตรา หุ้นละ 7.75 บาท
เท่ากับว่า ในปีนี้ คุณดิว ได้รับเงินปันผล เฉพาะจากหุ้น TISCO ราว 66.7 ล้านบาท เลยทีเดียว..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.