รู้จัก บริษัทที่ปลูกผัก ส่งขายใน 7-Eleven

รู้จัก บริษัทที่ปลูกผัก ส่งขายใน 7-Eleven | BrandCase

เราน่าจะเห็นกันว่า ทุกวันนี้ 7-Eleven (บางสาขา) เริ่มมีเชลฟ์วางจำหน่ายผักสด
ไม่ว่าจะเป็น พริก ผักบุ้ง ข้าวโพดอ่อน กะหล่ำปลี แคร์รอต
ไปจนถึงชุดผักพร้อมปรุง เหมาะสำหรับการเปิดตี้หมูกระทะ หรือจะทำเมนูสายสุขภาพ อย่างสุกี้-ชาบู

ผักสด ๆ เหล่านี้ ทาง 7-Eleven ก็รับมาขายอีกทีหนึ่ง
ซึ่งหนึ่งคนที่ขายผักสดให้กับ 7-Eleven คือบริษัทชื่อว่า “สุวรรณ เอิร์ธ”

แล้วบริษัท สุวรรณ เอิร์ธ คือใคร ?
BrandCase จะสรุปเรื่องนี้ให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ

สุวรรณ เอิร์ธ คือบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตร ประเภทผักสด
โดยมีคุณมานิตย์ ทิพย์ปิ่นทอง หรือคุณวิทย์ เป็นเจ้าของ

พื้นเพของเขา มาจากครอบครัวชาวเขาเผ่าม้ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีอาชีพเป็นเกษตรกรปลูกผัก ส่งผลผลิตไปขายให้กับพ่อค้าคนกลาง และมีบางส่วนนำไปขายปลีกที่ตลาดสดทั่วไป

แน่นอนว่า เมื่อผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาผลผลิตที่ได้กลับมา ก็ไม่ค่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ทำให้เมื่อคุณวิทย์เข้ามารับช่วงต่อกิจการ เขาจึงเปลี่ยนมาทำตลาดเอง ด้วยการนำผักมาขายส่ง ที่ตลาดสี่มุมเมือง
ซึ่งเป็นตลาดขายสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ ในจังหวัดปทุมธานี

จนในปี 2557 จุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท สุวรรณ เอิร์ธ ก็เกิดขึ้น..

เมื่อทาง บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) ได้เปิดโครงการทดลองขายผักสดใน 7-Eleven สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่สนใจ

ซึ่งคุณวิทย์เองก็ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะเขามองว่า 7-Eleven เป็นช่องทางการขายที่เข้าถึงผู้คนได้เยอะ

และก็ดูเหมือนว่าคุณวิทย์จะตัดสินใจถูก…

เพราะหลังจากที่บริษัทได้รับเลือกให้นำผักมาทดลองวางจำหน่าย แรกเริ่มเพียงแค่ 20 สาขา

มาจนถึงตอนนี้ ก็ขยายไปสู่ 300 สาขา (เฉพาะสาขาในกรุงเทพฯ - ปริมณฑล)

แน่นอนว่า เมื่อช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้น จำนวนออร์เดอร์ต่อวัน ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทำให้คุณวิทย์จึงเริ่มมองหาแนวร่วม จากเหล่าเกษตรกรด้วยกันเองกว่า 30 ราย มาช่วยผลิตสินค้าส่งขาย

บริษัท สุวรรณ เอิร์ธ จึงเพิ่มอีกโมเดลธุรกิจหนึ่ง
คือทำตัวเองเป็นตัวกลางให้กับบรรดาเกษตรกรรายย่อย ได้มีโอกาสนำสินค้าของตนเองมาจำหน่ายใน 7-Eleven แบบอ้อม ๆ แต่เป็นในนามของบริษัท สุวรรณ เอิร์ธ

โดยบริษัทมีนโยบายการรับประกันราคาสินค้าที่รับซื้อจากเกษตรกรรายอื่นให้ทั้งปี และยังให้เกษตรกรสามารถเบิกเงินล่วงหน้าได้ ในกรณีที่จำเป็น

ที่น่าสนใจคือ 7-Eleven ไม่เพียงแต่จะได้เป็นตัวช่วยเรื่องช่องทางจำหน่ายเท่านั้น แต่บริษัทยังช่วยพัฒนาการตลาดให้กับสินค้าของ บริษัท สุวรรณ เอิร์ธ

เช่น การพัฒนาแพ็กเกจจิงให้มีฉลากระบุชื่อผู้ผลิต วันที่ผลิต และวันหมดอายุ เพื่อควบคุมคุณภาพของสินค้าให้มีความน่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

หรือการเสนอไอเดียให้มีการจัดชุดผัก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ที่ไม่รู้ว่าแต่ละเมนูต้องใส่ผักอะไรบ้าง อย่างเช่น ชุดต้มยำ หรือชุดผัดกะเพรา แบบ DIY

แล้วที่ผ่านมา.. รายได้ของบริษัท สุวรรณ เอิร์ธ จำกัด เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปี 2562 รายได้ 27 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 40 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 44 ล้านบาท

ถึงแม้ว่ารายได้ดูจะยังไม่มากนัก แต่จะเห็นว่าบริษัทสามารถเติบโตได้ดีในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา

อีกคำถามคือ แล้วผักที่ขายใน 7-Eleven ลูกค้าเป้าหมาย คือกลุ่มไหน ?

ถ้าให้ลองวิเคราะห์ดู ลูกค้าที่ซื้อผักใน 7-Eleven น่าจะเป็นกลุ่มคนเมือง กลุ่มคนทำงานที่ไม่มีเวลาไปตลาด

สังเกตจากเชลฟ์วางจำหน่ายผักสดของ 7-Eleven จะเน้นตั้งอยู่ตามพื้นที่ใกล้คอนโดมิเนียม หอพัก หรือในพื้นที่ที่ผู้คนมีข้อจำกัด ในการเข้าถึงสินค้าเหล่านี้มากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่เลิกงานดึกมาก 4-5 ทุ่ม ตลาดสดก็ปิดไปแล้ว แต่ความต้องการของลูกค้าบางกลุ่มยังมีอยู่
ดังนั้นเมื่อเกิดช่องว่างตรงนี้ การซื้อผ่าน 7-Eleven ที่เปิด 24 ชั่วโมง จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ซึ่งแน่นอนว่าพอเป็นแบบนี้ ราคาผักที่ขายใน 7-Eleven ก็จะแพงกว่าผักตามตลาดสดทั่วไป

แต่ที่ขายได้ เพราะลูกค้าที่ซื้อผักใน 7-Eleven คือกลุ่มที่ต้องการความสะดวก ใกล้บ้าน ใกล้ที่พัก แถมตัดแต่งมาพร้อมทาน
เพราะฉะนั้น จ่ายแพงหน่อย ก็คงยอม..

References
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-https://www.cpall.co.th/news/csr
-https://www.youtube.com/watch?v=JQzZakU8SmI
-https://www.wearecp.com/cp-11032021-2/
-https://www.facebook.com/cpall7/posts/3931056223627919/
-https://salehere.co.th/articles/barbq-shabu-ingredients-in-7-eleven
-https://food.trueid.net/detail/MbWeL6Eejekn