
กรณีศึกษา บันลือกรุ๊ป เจ้าของ ขายหัวเราะ อาณาจักร นักสร้างคอนเทนต์
9 ม.ค. 2023
กรณีศึกษา บันลือกรุ๊ป เจ้าของ ขายหัวเราะ อาณาจักร นักสร้างคอนเทนต์ | BrandCase
หลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
ได้รับผลกระทบ เรียกได้ว่าขั้นรุนแรง ถึงกับต้องปิดตัวลงไปหลายราย
แต่หนึ่งเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ปรับตัวได้อย่างน่าสนใจ
คือ บันลือกรุ๊ป เจ้าของหนังสือการ์ตูน ขายหัวเราะ ที่หลายคนคุ้นเคย
ได้รับผลกระทบ เรียกได้ว่าขั้นรุนแรง ถึงกับต้องปิดตัวลงไปหลายราย
แต่หนึ่งเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ปรับตัวได้อย่างน่าสนใจ
คือ บันลือกรุ๊ป เจ้าของหนังสือการ์ตูน ขายหัวเราะ ที่หลายคนคุ้นเคย
บันลือกรุ๊ป ปรับตัวอย่างไร
แล้วในวันนี้ พวกเขาทำอะไรอยู่บ้าง ?
BrandCase จะมาสรุปเรื่องนี้ให้ฟัง
แล้วในวันนี้ พวกเขาทำอะไรอยู่บ้าง ?
BrandCase จะมาสรุปเรื่องนี้ให้ฟัง
ขายหัวเราะ เป็นชื่อของนิตยสารการ์ตูนไทยรายสัปดาห์ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น โดยผู้ที่ก่อตั้งนิตยสารขายหัวเราะคือ คุณวิธิต อุตสาหจิต
ขายหัวเราะเปิดตัวครั้งแรกในปี 2519 หรือเมื่อ 47 ปีที่แล้ว
โดยเนื้อหาหลัก ๆ ภายในหนังสือ จะประกอบไปด้วย
-มุกการ์ตูนตลกสามช่องจบ
-การ์ตูนแก๊ก และเรื่องขำขันแทรกเป็นช่วงๆ
-เรื่องสั้นสามเรื่องในแต่ละฉบับ
โดยเนื้อหาหลัก ๆ ภายในหนังสือ จะประกอบไปด้วย
-มุกการ์ตูนตลกสามช่องจบ
-การ์ตูนแก๊ก และเรื่องขำขันแทรกเป็นช่วงๆ
-เรื่องสั้นสามเรื่องในแต่ละฉบับ
ในช่วงแรกขนาดรูปเล่มของขายหัวเราะ จะมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับกระดาษ A4
ก่อนที่ในปี 2529 ทางสำนักพิมพ์จะเริ่มปรับขนาดให้เล็กลง กะทัดรัด สะดวกต่อการพกพาไปอ่านตามสถานที่ต่าง ๆ
ก่อนที่ในปี 2529 ทางสำนักพิมพ์จะเริ่มปรับขนาดให้เล็กลง กะทัดรัด สะดวกต่อการพกพาไปอ่านตามสถานที่ต่าง ๆ
เมื่อรวมกับการที่ขายหัวเราะ ช่วยให้คนอ่านคลายเครียดได้ เพราะมุกตลกในการ์ตูน รวมทั้งการวาดภาพตัวการ์ตูนที่เป็นเอกลักษณ์ผ่านสไตล์เส้น ลวดลาย และสีสันต่าง ๆ
จึงไม่แปลกที่จะทำให้การ์ตูนขายหัวเราะ ถือเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเล่มหนึ่งในประเทศไทย
จึงไม่แปลกที่จะทำให้การ์ตูนขายหัวเราะ ถือเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเล่มหนึ่งในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ต้องล้มหายตายจากไปหลายราย
เพราะคนส่วนมากหันไปเสพสื่อ ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น หลายรายที่ยังอยู่ได้ ก็ต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ เพื่อความอยู่รอด
ซึ่งบันลือกรุ๊ป เจ้าของการ์ตูนขายหัวเราะ ก็มีการเตรียมความพร้อมและปรับตัว เพื่อรับมือกับเรื่องนี้
โดยการต่อยอดความสำเร็จ เทิร์นตัวเองไปสู่การสร้างอาณาจักรคอนเทนต์แบบเต็มตัว
โดยการต่อยอดความสำเร็จ เทิร์นตัวเองไปสู่การสร้างอาณาจักรคอนเทนต์แบบเต็มตัว
เริ่มตั้งแต่ขยายไปยังธุรกิจแอนิเมชัน เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด
มีการตั้ง บริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น จำกัด ในปี 2544 เพื่อต่อยอดธุรกิจ จากเดิมที่ขายหนังสือการ์ตูนเป็นหลัก มาสร้างสรรค์เป็นผลงานการ์ตูนแอนิเมชัน 2D, 3D และ CG animation
ช่วงแรกมีการทำแอนิเมชันแค่การ์ตูนในเครืออย่าง ปังปอนด์ และไอ้ตัวเล็ก หลังจากนั้นก็เริ่มรับจ้างผลิตหารายได้เพิ่ม และผลิตสติกเกอร์ไลน์ด้วย
วิธิตา แอนิเมชั่น ยังรับออกแบบแครักเตอร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย เช่น
-“แม่มณี” ของธนาคารไทยพาณิชย์
-“ก๊อดจิ” ของบริษัท ปตท.
รวมถึงสติกเกอร์ไลน์ของหลาย ๆ บริษัท, ธนาคาร และบริษัทประกันภัย
-“แม่มณี” ของธนาคารไทยพาณิชย์
-“ก๊อดจิ” ของบริษัท ปตท.
รวมถึงสติกเกอร์ไลน์ของหลาย ๆ บริษัท, ธนาคาร และบริษัทประกันภัย
บันลือกรุ๊ป ยังมีการขยายธุรกิจไปทำอย่างอื่นอีก เช่น
-Salmon House ธุรกิจโปรดักชันเฮาส์ ผลิตคอนเทนต์วิดีโอแมส ๆ หลายตัว
เช่น ไวรัล “แวน ธิติพงษ์” นักธุรกิจหนุ่มพันล้านจิกกัดสังคม ที่ได้กลายเป็นไวรัลอยู่พักใหญ่
เช่น ไวรัล “แวน ธิติพงษ์” นักธุรกิจหนุ่มพันล้านจิกกัดสังคม ที่ได้กลายเป็นไวรัลอยู่พักใหญ่
-สำนักพิมพ์ ก็มีการแตกออกมาเป็น Salmon Books และ BUNBOOKS
-Minimore ธุรกิจร้านหนังสือออนไลน์
-PIXNIQ ธุรกิจแพลตฟอร์มของคนรักการถ่ายภาพ
-Eventure ธุรกิจการจัดการด้านจัดอิเวนต์
-The Matter สื่อออนไลน์ สไตล์คนรุ่นใหม่
-Integrated Insights ธุรกิจให้บริการการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีสำหรับแบรนด์ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
เรียกได้ว่า บันลือกรุ๊ป ในวันนี้ มีธุรกิจอื่นที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่รายได้จากธุรกิจขายหนังสือการ์ตูนอย่าง ขายหัวเราะ เป็นหลัก เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
เรียกได้ว่า กลายเป็นอาณาจักร นักสร้างคอนเทนต์
ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แทบจะครบวงจรไปแล้ว ในวันนี้..
ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แทบจะครบวงจรไปแล้ว ในวันนี้..