กรณีศึกษา ทิพรส แบรนด์ที่ทำให้คนไทย รู้จัก น้ำปลา

กรณีศึกษา ทิพรส แบรนด์ที่ทำให้คนไทย รู้จัก น้ำปลา

3 ธ.ค. 2022
กรณีศึกษา ทิพรส แบรนด์ที่ทำให้คนไทย รู้จัก น้ำปลา | BrandCase
เมื่อประมาณ 100 กว่าปีก่อน คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักคำว่า “น้ำปลา”
แต่วันนี้ น้ำปลา กลายเป็นของที่ต้องมีในทุก ๆ ครัว
และรู้หรือไม่ว่า น้ำปลาแบรนด์แรก ๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือ “น้ำปลาทิพรส”
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของทิพรส เกิดขึ้นในปี 2456 หรือเมื่อ 109 ปีที่แล้ว
เมื่อชายชาวจีนที่ชื่อว่า คุณไล่เจี๊ยง แซ่ทั้ง ผู้อพยพเข้ามาทำมาหากินในภาคตะวันออกของประเทศไทย
คุณไล่เจี๊ยง เริ่มต้นด้วยการรับจ้างจับกังแบกข้าว
แต่เนื่องจากการทำงานในโรงสีข้าวสมัยก่อนนั้น ไม่มีเครื่องจักร ใช้แต่แรงงานคน ทำให้ต้องใช้ร่างกายในการทำงานที่หนักเกินไป
พอเรื่องเป็นแบบนี้ เขาจึงต้องมองหางานอื่นแทน ซึ่งนั่นก็คือ การขายปลาเค็มและปลาสด
ระหว่างที่เขาขายปลาเค็มและปลาสด เขานึกย้อนไปถึง ช่วงเวลาที่เขาเคยทำงานอยู่ที่โรงน้ำปลาในประเทศจีน จึงทำให้เขามีความคิดที่จะผลิตน้ำปลาขึ้นมาขาย
เนื่องจากในช่วงเวลานั้น คนไทยส่วนมากยังคงใช้ เกลือ ในการปรุงอาหาร
ทำให้เขามองว่า การผลิตน้ำปลาขึ้นมาขาย น่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จบ้าง ไม่มากก็น้อย
เขาจึงตัดสินใจเริ่ม หมักและผลิตน้ำปลาขึ้นมาขาย โดยเริ่มขายที่จังหวัดชลบุรี
ซึ่งก็ต้องบอกว่า กิจการของคุณไล่เจี๊ยงนั้น ถือเป็นผู้ผลิตน้ำปลารายแรก ๆ ของไทยเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
เนื่องจาก คนไทยส่วนใหญ่ ยังไม่คุ้นเคยกับการนำน้ำปลามาปรุงกับอาหาร ทำให้ กิจการของคุณไล่เจี๊ยง ไม่ได้สร้างยอดขายตามที่คาดหวังไว้
วิธีที่เขาใช้แก้เกม ในตอนนั้นคือ ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้และชิมน้ำปลา แบบฟรี ๆ ก่อน
และด้วยความหอมกลมกล่อมของน้ำปลา ที่ต่างจากการใช้เกลือ ทำให้น้ำปลาของเขาเริ่มเป็นที่ยอมรับ และเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้คุณไล่เจี๊ยง ตัดสินใจสร้างแบรนด์ของเขาขึ้นมา
โดยช่วงแรกใช้ชื่อว่า “น้ำปลาตราดอกไม้ และตราโบแดง”
ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “ทิพรส” ในเวลาต่อมา
เมื่อกิจการของคุณไล่เจี๊ยง เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาจึงได้ก่อตั้งโรงงานผลิตน้ำปลาขึ้นมา
โดยมีการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากตอนแรกที่เป็นเพียง โอ่ง ก็ค่อย ๆ พัฒนา จนกลายเป็น บ่อหมักคอนกรีตขนาดใหญ่ยื่นออกไปในทะเล
นอกจากธุรกิจน้ำปลาที่เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากแล้ว
เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตของรายได้ไปยังสินค้าอื่น ๆ ปัจจุบันทิพรสจึงได้ขยายกิจการ โดยแตกไลน์สินค้าเครื่องปรุงอาหารอื่น ๆ อีก
เช่น น้ำส้มสายชู, ผงปรุงรส, ซอสหอยนางรม เป็นต้น
เราลองมาดู ผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของ
ผู้ผลิตน้ำปลาตราทิพรส อย่าง บริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด
ปี 2562 มีรายได้ 2,977 ล้านบาท กำไร 295 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 3,031 ล้านบาท กำไร 496 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 2,901 ล้านบาท กำไร 437 ล้านบาท
ใครจะไปคิดว่า จากชายอพยพชาวจีนที่เข้ามาทำงานรับจ้างที่เมืองไทยเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว เขาจะสามารถสร้างอาณาจักรน้ำปลาที่มีรายได้กว่าหลักพันล้านบาทได้ในวันนี้
แล้วเราสามารถเรียนรู้อะไรได้จากเรื่องนี้
เส้นทางความสำเร็จของทิพรส บอกเราอย่างหนึ่งว่า การเริ่มต้นทำอะไรเป็นรายแรก ๆ โดยเฉพาะในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย หรือรู้จักมาก่อน
อาจจำเป็น “ต้องใช้เวลา” กว่าที่สินค้าของเราจะเป็นที่ยอมรับ
ซึ่งในกรณีของคุณไล่เจี๊ยง เขาก็ใช้เวลาหลายปี กว่าที่น้ำปลาของเขาจะเริ่มเป็นที่รู้จัก และยอมรับในกลุ่มผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาก่อนเป็นรายแรก ๆ ก็ทำให้ธุรกิจของเราไม่ต้องเจอคู่แข่งมากนัก ทั้งยังทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ และรู้จักได้ง่ายอีกด้วย
ซึ่งในวันนี้ก็คงไม่เกินไป ถ้าเราจะบอกว่า
แบรนด์ที่ทำให้คนไทยรู้จักกับ น้ำปลา ก็คือแบรนด์ ทิพรส นั่นเอง..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.